“KUN” เด้งรับข่าวดี Q2/64 โกยกำไรกระฉุด 159.31% (YoY)พร้อมแจกจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.05 บาท/หุ้น ครึ่งปีหลังลุยสร้างอาณาจักรใหม่ “คุณาลัย นาวาร่า”

“KUN”  เด้งรับข่าวดี Q2/64 โกยกำไรกระฉุด 159.31% (YoY) พร้อมแจกจ่ายปันผล
ระหว่างกาล 0.05 บาท/หุ้น ครึ่งปีหลังลุยสร้างอาณาจักรใหม่ “คุณาลัย นาวาร่า”
 

กรุงเทพฯ – บมจ. วิลล่า คุณาลัย (KUN) ฟอร์มดีต่อเนื่อง โตสวนกระแสโควิด โชว์งบกำไรไตรมาส2/2564 พุ่งกระฉูด 159.31% YoY แตะระดับ 41.10 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 255.13 ล้านบาท หลังยอดขาย 6 เดือนแตะ 730 ล้านบาท พร้อมแจกปันผลระหว่างกาล 0.05 บาทต่อหุ้น เตรียม XD วันที่ 26 ส.ค.2564 นี้ ด้าน CEO “ประวีรัตน์ เทวอักษร” เดินเกมรุกครึ่งปีหลัง จ่อผุดโปรเจคทิศที่3แห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ “คุณาลัย นาวาร่า” มูลค่าลงทุน 2,350 ล้านบาท ระบุความต้องการบ้านแนวราบยังไม่ลดลงหลังไลฟ์สไตล์คนเปลี่ยน สู่ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) มั่นใจปีนี้รายได้โตตามแผน 10-15% อย่างแน่นอน

นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN เปิดเผยว่า  บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2564 สิ้นสุด ณ 30 มิถุนายน 2564 มีรายได้รวม เท่ากับ 255.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.11% YoY และกำไรสุทธิ เท่ากับ 41.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 159.31% YoY เนื่องจากโครงการของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา โดยเฉพาะโครงการคุณาลัย พรีม ซึ่งเป็นโครงการขายดีที่สุดของบริษัทฯ นอกจากนี้บริษัทฯรับรู้รายได้จากอีก 4 โครงการประกอบด้วย โครงการคุณาลัย จอย , คุณาลัย บีกินส์ 1, คุณาลัย บีกินส์ 2 และคุณาลัย จอย ออน 314

ในขณะที่งวด 6 เดือนแรกปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 446.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.41% YoY และกำไรสุทธิ เท่ากับ 68.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.14 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 150% YoY ซึ่งเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากการจากโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่อยู่ในโซนบางบัวทองและฉะเชิงเทรา โดยเฉพาะโครงการคุณาลัยพรีมที่เป็นสินค้าขายดีของบริษัทฯ สามารถทำ market share ได้สูงมากในโซนบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี จากความสำเร็จดังกล่าว ส่งผลให้ครึ่งปีแรก 2564 บริษัทฯมียอดขาย (Pre-sales) อยู่ที่ 730 ล้านบาท ขณะที่ยอดBacklog ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 เท่ากับ 380 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายในครึ่งหลังทั้งหมด

“ ตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด บริษัทฯได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ด้านการจัดหาเงินทุนและบริหารสภาพคล่อง เพื่อให้เพียงพอกับพัฒนาโครงการของKUN รวมถึงการปรับกลยุทธ์การขาย ที่หันมาเน้นการสื่อสารผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ให้ตรงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และที่สำคัญ บริษัทฯยังพยายามที่จะสร้างบ้านให้เสร็จทันเวลา เพื่อให้ส่งมอบบ้านให้กับลูกค้านอกจากนี้ยังบริหารงานร่วมกันกับผู้รับเหมาแต่ละราย ให้สอดคล้องกับกำลังการผลิต ในส่วนของมาตรการการป้องกันโควิด-19 เราตั้งเป้าหมายร่วมกันกับทุก Stakeholders ให้เป็น “คุณาลัย=หมู่บ้านมีภูมิ” ที่มุ่งเน้นให้ทุกคนได้รับวัคซีนอย่างน้อยเข็มแรกครบ 100% ซึ่งปัจจุบันสามารถทำได้มากกว่า 70% แล้วในด้านผู้รับเหมาที่จะเข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ก่อสร้างโครงการของบริษัทฯ จะต้องผ่านการดูแลอย่างเข้มงวด ซึ่งได้ทำอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เริ่มมีสถานการณ์โควิดเมื่อปีที่แล้วทั้งนี้บริษัทฯยังมุ่งเน้นการสร้างมาตรฐานการอยู่อาศัยในแคมป์ก่อสร้าง และยังให้ความช่วยเหลือคนงาน เช่นในการจัดหาอาหารกลางวันให้กับคนงานก่อสร้าง เพื่อป้องกันความเสี่ยงอีกด้วย”

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกประจำปี 2564 จำนวน 0.05 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 34.32 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ดีในช่วงครึ่งปีแรก โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 26 ส.ค. 2564 และจะทำการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 ก.ย.2564 นี้

ส่วนทิศทางในครึ่งปีหลังนั้น นางประวีรัตน์ CEO KUN กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯมีแผนในการพัฒนาโครงการซึ่งเป็นทิศที่3 ภายใต้โครงการ “คุณาลัย นาวาร่า” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโครงการในแผนธุรกิจของบริษัทฯ ที่วางนโยบายการกระจายการลงทุนให้ครบ 4 ทิศในรอบกรุงเทพฯ โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในทิศใต้ โซนพระราม 2 โดยมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 2,350 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มพัฒนาโครงการได้ในช่วงปลายปี 2564 โดยจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดขายในเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2565 ทั้งนี้สำหรับโครงการดังกล่าวจะต้องผ่านการอนุมัติผู้ถือหุ้น การจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 ส.ค.นี้

สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์แนวราบนั้น โดยส่วนตัวมองว่า ยังมีดีมานด์อย่างต่อเนื่อง เพราะจากบ้านแนวราบจะเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าต่อเนื่อง ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ทำให้ลูกค้าต้องปรับตัวกับการใช้ชีวิตวิถีใหม่ การทำงานจากบ้าน การใช้ชีวิตภายในบ้านมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่มาเร็วขึ้น จากปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้บ้านแนวราบยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ภายใต้วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้เกิดแนวคิดการอยู่อาศัยในรูปแบบใหม่ ภายใต้ EVERYTHING AT HOME ทุกสิ่งเกิดขึ้นที่บ้าน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและรองรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยชูจุดเด่นเรื่องพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่เหนือคู่แข่ง ส่งผลให้ทุกโครงการของคุณาลัย ได้การตอบรับที่ดีและประสบความสำเร็จด้านยอดขายตลอดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจากแผนการปรับกลยุทธ์ดังกล่าวรวมถึงการบริหารจัดการและการควบคุมค่าใช้จ่าย ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯรักษาอัตรากำไรไว้ได้ในระดับสูง โดยอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin)อยู่ที่ 15.4 % ซึ่งยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้บริษัทฯมั่นใจว่าแผนการปรับกลยุทธ์ดังกล่าวจะส่งให้ภายในปีนี้ บริษัทฯจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 10-15% ตามแผนที่วางไว้ ภายใต้แรงกดกันจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นรักษายอดขายให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้