พลัสฯ พร้อมลุยรับงานบริหารอาคาร ครอบคลุมทุกประเภท
ชูมาตรฐาน Health and Wellness ฝ่าโควิด
• พลัสฯ ในธุรกิจบริหารจัดการอาคารเพื่อการพาณิชย์ (Commercial Building) พร้อมลุยเดินหน้ารับงานใหม่ ล่าสุดคว้า 3 โครงการใหม่ ได้แก่ 1.อาคาร WHA Tower อาคารสำนักงานระดับพรีเมียมย่านบางนา-ตราด พื้นที่ใช้สอยกว่า 52,000 ตารางเมตร 2.กลุ่มอาคารของ U City Group จำนวน 4 อาคาร รวมพื้นที่ 156,453 ตารางเมตร และ 3.กลุ่มอาคารหอพัก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จำนวน 4 อาคาร พื้นที่ใช้สอย 104,262 ตารางเมตร
• ชูการดูแลอย่างมืออาชีพในมาตรฐานระดับสากลที่เป็นพาร์ทเนอร์เคียงข้างเจ้าของอาคาร ยกระดับมาตรฐานอาคารโดยมุ่งไปสู่เป้าหมายร่วมกัน
• มองแนวโน้มธุรกิจบริหารจัดการอาคารสำนักงาน ต้องปรับตัวรองรับเมกะเทรนด์ในอนาคต โดยเฉพาะ Health and Wellness ที่ตอบโจทย์ในสถานการณ์โควิด-19 และปัญหา PM2.5 และมีการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้ รวมถึงการจัดการการใช้พื้นที่ในสำนักงานให้ตอบโจทย์รูปแบบสถานที่ทำงานแนวใหม่ ตลอดจนมีมาตรการและการดำเนินงานที่ดูแลด้านสุขอนามัยและป้องกันโรคระบาดเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้อาคาร
นายชาญ ศิริรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคารและระบบวิศวกรรม บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบโจทย์ทุกบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ธุรกิจบริหารจัดการอาคารเพื่อการพาณิชย์ของพลัสฯ มีการปรับกลยุทธ์เพื่อฝ่าวิกฤตโควิด-19 และพร้อมเดินหน้ารับงานโครงการใหม่ โดยขยายการดูแลบริหารอาคารให้ครอบคลุมในอาคารทุกประเภท ทั้งอาคารสำนักงานของภาครัฐและเอกชน คอมมูนิตี้มอล อาคารมิกซ์ยูส ในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยปัจจุบันพลัสฯ ดูแลอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ของผู้ประกอบการทั้งในกลุ่มของธุรกิจธนาคารและการลงทุน ธุรกิจโรงพยาบาล สถานศึกษา และล่าสุดรับดูแลบริหารอาคารใน 3 โครงการใหม่ ได้แก่ 1.อาคาร WHA Tower อาคารสำนักงานระดับพรีเมียมย่านบางนา-ตราด พื้นที่ใช้สอยกว่า 52,000 ตารางเมตร 2.อาคารของกลุ่ม U City Group จำนวน 4 อาคาร จำนวน 4 อาคาร – TST Tower, The Grand Regent, The Royal Place 1, The Royal Place 2 รวมพื้นที่ 156,453 ตารางเมตร และ 3.กลุ่มอาคารหอพัก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จำนวน 4 อาคาร – อาคารกุลพิพัฒน์, อาคารพยาบารสถิต, อาคารนวไชยยันต์, อาคารนวราชูปถัมถ์ พื้นที่ใช้สอย 104,262 ตารางเมตร ทำให้ปัจจุบันธุรกิจบริหารจัดการอาคารเพื่อการพาณิชย์ของพลัสฯ มีพื้นที่บริหารรวมมากกว่า 2,300,000 ตารางเมตร
ปัจจุบันตามที่ได้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศไทย และเกิดผลกระทบต่อการใช้พื้นที่อาคารสำนักงานจากมาตรการ Work From Home แม้ในช่วงนี้ที่ความต้องการใช้พื้นที่อาคารสำนักงานจะลดน้อยลง อาคารหลายแห่งไม่ได้เปิดใช้งานเต็มพื้นที่ 100% แต่ในส่วนของพลัสฯ ก็ยังคงมีทีมงานมืออาชีพประจำอยู่ในอาคาร โดยปรับจำนวนทีมงานให้สอดคล้องกับปริมาณการปฏิบัติงานในแต่ละโครงการ และมีการกำหนดมาตรการป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัด เพื่อดูแลและตรวจเช็คระบบวิศวกรรมอาคารให้อยู่ในสภาพดีและสามารถใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในส่วนของผู้ใช้อาคาร ก็มีมาตรการดูแลคัดกรองผู้เข้ามาติดต่อในอาคารตามแนวทางของกรมควบคุมโรค และมีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อเพื่อสุขอนามัยที่ดี ซึ่งนอกจากการดำเนินงานที่พลัสฯ มีมาตรฐานระดับสากลแล้ว ยังมีการปรับกลยุทธ์ เพิ่มมาตรฐานการดูแลที่ตอบโจทย์สถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีการเพิ่มการบริหารจัดการโดยคำนึงถึงเรื่อง “Health and Wellness” เพื่อดูแลผู้ใช้อาคารให้ผ่านสถานการณ์โควิด-19 ไปได้อย่างปลอดภัย โดยมีการตรวจคัดกรองผู้เข้าออกในอาคาร ตรวจวัดอุณหภูมิและซักถามประวัติความเสี่ยงของทีมงานและทีมคู่สัญญาที่เข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ มีการนำ เทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart Technology) มาใช้ควบคุมด้านงานระบบและการดูแลควบคุมคุณภาพอากาศในอาคาร มีการใช้หุ่นยนต์ทำความสะอาดและเครื่องฉีดพ่นฆ่าเชื้ออัตโนมัติ รวมทั้งเครื่องสแกนตรวจวัดอุณหภูมิ เป็นต้น
ในส่วนของพลัสฯ เอง ได้มีประสบการณ์บริหารอาคารที่ได้รับรางวัลการันตรีด้าน Health and Wellness โดยมีการดูแลและนำอาคารสิริแคมปัสผ่านการรับรองมาตรฐานสากล Fitwel ระดับ 3 ดาว ด้วยคะแนนสูงสุดในเอเชียประจำปี 2020 ซึ่ง “Health and Wellness” เป็นเมกะเทรนด์ที่มาแรงในวงการอาคารสำนักงานยุคใหม่ จากเดิมที่สังคมเริ่มตระหนักถึงความสำคัญและเริ่มหันมาสนใจในเทรนด์นี้ และได้รับแรงส่งซึ่งเป็นผลมาจากโควิด-19 และปัญหา PM2.5 ที่เป็นปัจจัยประตุ้นด้านการดูแลสุขภาวะและสุขอนามัยที่ดีของผู้ใช้อาคาร เพื่อตอบโจทย์การทำงานและการใช้ชีวิตให้ผ่านสถานการณ์โควิด-19 ไปได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นธุรกิจดูแลบริหารจัดการอาคารต้องมีการปรับตัวเพื่อรองรับเมกะเทรนด์อาคารสำนักงานนี้ นอกจากนี้ ยังต้องมีการจัดการการใช้พื้นที่ในสำนักงาน ให้ตอบโจทย์รูปแบบสถานที่ทำงานแนวใหม่ ผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้บริษัทต่าง ๆ มีการควบคุมค่าใช้จ่ายและลดความเสี่ยงจากการเช่าพื้นที่สำนักงานมากขึ้น จึงต้องจัดการใช้งานอย่างเหมาะสม มีรูปแบบการผสมผสานการทำงานนอกพื้นที่สำนักงานมากขึ้น ฝ่ายบริหารจัดการอาคารจึงต้องมีการทบทวน จัดลำดับความสำคัญในการบริหารพื้นที่ที่ต้องปรับเปลี่ยนรองรับวิถีการทำงานแบบใหม่นี้ ตลอดจนมีมาตรการและการดำเนินงานที่ดูแลด้านสุขอนามัยและป้องกันโรคระบาดเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้อาคารด้วย
“Health and Wellness คือเมกะเทรนด์ของการบริหารจัดการอาคารสำนักงานในยุคต่อจากนี้ นอกจากการดูแลอาคารแล้ว การดูแลผู้ใช้อาคารด้านสุขอนามัยและการมีสุขภาวะที่ดีจะเข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญที่เจ้าของอาคารมองข้ามไม่ได้ ธุรกิจบริหารจัดการอาคารจึงต้องปรับรูปแบบการทำงานให้สอดรับกับเทรนด์แห่งโลกอนาคต ในส่วนของพลัสฯ ก็ได้มีการยกระดับการให้บริการดูแลอาคารอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับเมกะเทรนด์เหล่านี้ เพื่อส่งมอบบริการอย่างมืออาชีพด้วยมาตรฐานระดับสากล พร้อมการเป็นพาร์ทเนอร์เคียงข้างเจ้าของอาคารที่ครอบคลุมในอาคารทุกประเภท มุ่งยกระดับมาตรฐานอาคารไปสู่เป้าหมายร่วมกัน” นายชาญ กล่าว