ผ่าบิสซิเนส โมเดล พฤกษาฯ ปลาใหญ่ทำตัวเป็นปลาเล็ก

ผ่าบิสซิเนส โมเดล พฤกษาฯ

ปลาใหญ่ทำตัวเป็นปลาเล็ก

                หลังจาก “พฤกษา” เริ่มรุกพัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับบนในปี2560  ปีแรกก็สามารถทำยอดขายได้สูงถึง 8,200 ล้านบาท มากกว่าเป้าถึง 2 เท่าตัว และก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 5 บริษัทพัฒนาอสังหาฯระดับบนภายในปีแรก  วันนี้ พฤกษา พร้อมตั้งเป้าภายใน 3-5 ปีข้างหน้า จะผลักดันแบรนด์ให้ก้าวสู่เบอร์ 1 ของตลาดระดับบน และจะเป็นกลุ่มตลาดที่จะมีบทบาทสำคัญขับเคลื่อนองค์กรพฤกษา ให้สามารถครองความเป็นผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ไว้ได้  หลังจากผลการดำเนินงานของโครงการคอนโดฯระดับบน ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลและรับรู้รายได้ปลายปีนี้สูงถึง 10,000 ล้านบาท

            ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ในปี2561 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับบนยังเป็นตลาดเติบโตได้ดี และมีความต้องการซื้อของลูกค้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ในภาวะที่ตลาดชะลอตัวลง แต่โครงการระดับบนยังทำยอดขายได้ดี ส่วนซัพพลายจากโครงการคอนโดมิเนียมระดับบนจะเข้าสู่ตลาดในภาวะปกติราว 10,000 ยูนิต ส่วนในปีที่ดีมากจะมีซัพพลายเข้าสู่ตลาดสูงถึง 12,000-13,000 ยูนิต ขณะที่แนวโน้มราคาขายจะปรับขึ้นเฉลี่ย 10-15% อย่างไรก็ตามในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตลาดคอนโดมิเนียมระดับบนขยับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 265,000 บาทต่อตารางเมตร ในปัจจุบัน จากปี 2558 อยู่ที่ 215,000 บาทต่อตารางเมตร

                ในปีนี้ จะเปิดโครงการคอนโดมิเนียมระดับบนประมาณ 4-5 โครงการ มูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยทุกโครงการมีที่ดินรองรับในการพัฒนาแล้ว

                “ปัจจุบันสินค้าคอนโดระดับบนของเราไม่มีสต็อกเหลือขาย และสิ่งสำคัญ พฤกษาต้องจับตลาดระดับบนให้แน่น  เหมือนการแข่งขันกีฬา หากเราจะแข่งขันบนตลาดพรีเมียลีกส์ การจะแข่งได้ เราต้องเก่งจริง เผ็ดจริง จะเห็นว่า ตลาดรวมอสังหาฯในกรุงเทพฯและปริมณฑลมีมูลค่าประมาณ 4 แสนล้านบาท แต่จะเป็นตลาดระดับบนประมาณ 1 ใน 3 หรือมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท  ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าขึ้นเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มผู้ประกอบการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับบนในด้านยอดขาย ภายในอีก 3 ปีข้างหน้า”

                สำหรับกลยุทธ์การลงทุนของกลุ่มธุรกิจพฤกษาเรียลเอสเตท-พรีเมียม จะใช้บิสซิเนสโมเดล “ปลาใหญ่ ทำตัวเป็นปลาเล็กที่มีความคล่องแคล่วว่องไว และเป็นปลาเก่ง พัฒนาโครงการขนาดไม่ใหญ่มาก แต่สามารถปิดการขายได้เร็ว ซึ่งการพัฒนาในรูปแบบนี้เหมาะสำหรับตลาดระดับบนที่ในแต่ทำเลมีลูกค้าจำนวนจำกัด

                ทั้งนี้ เพื่อความพร้อมในการรุกตลาดระดับบนทางพฤกษาจึงได้ตัดสินใจลงทุนซื้อที่ดินบนเนื้อที่ 7 ไร่ จากกลุ่มโรงแรมมณเฑียรมูลค่าประมาณ 1,700 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมลักชัวรีรูปแบบโลว์ไรส์ “เดอะรีเซิร์ฟ สุขุมวิท 61” บนทำเลใจกลางเมือง มูลค่า 2,469 ล้านบาท ซึ่งจะแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกจะมีจำนวน 186 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 2.3 แสนบาทต่อตร.ม.  มีห้องให้เลือกถึง 5 แบบ คือ แบบสตูดิโอพื้นที่ 30.5 ตร.ม. แบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ 35-48 ตร.ม.มีสัดส่วน 50% ของจำนวนห้องทั้งหมด แบบ2 ห้องนอน Simplex พื้นที่ 62.5-138.8 ตร.ม. แบบ 3 ห้องนอน Simplex พื้นที่ 157.6 ตร.ม.และแบบดูเพล็กซ์ พื้นที่ 115-132 ตร.ม. ซึ่งจะเปิดรอบพรีเซลล์ในวันที่ 3-4 ก.พ. 2561  ซึ่งได้เปิดขายไปเมื่อปลายปีก่อน ทำยอดขายได้แล้ว 1,000 ล้านบาท และตั้งเป้าปิดการขายภายในปลายปี 2561

                 ซึ่งโครงการดังกล่าวออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Reserve Your Exclusivity” ให้การอยู่อาศัยและการพักผ่อนเสมือนได้อยู่บ้าน มีความเป็นส่วนตัวสูงสุด ซึ่งฟังก์ชั่นภายในห้องพักถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่ หน้ากว้าง และยังเพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดังจาก CHANINTR (ชนินทร์) รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในโครงการ อาทิ พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่มาพร้อม Sunken seat สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกออกแบบเฉพาะ นอกจากนี้ พฤกษายังสร้างสรรค์บริการที่เหนือระดับให้แก่ลูกค้าด้วย Concierge Service by The Reserve ที่อำนวยความสะดวกในการพักอาศัยให้กับลูกค้าบ้าน

บทความและเรียบเรียงโดย :  กัญสุชญา สุวรรณคร (บรรณาธิการข่าว PropDNA)