ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เดินหน้าพัฒนาบุคลากรด้วยวิสัยทัศน์ Next Innovative Co-Creation
-เปิดกว้างสู่สังคมแห่งการเรียนรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ สร้าง DNA ที่แข็งแกร่งเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน-
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ รุกสร้าง DNA ขององค์กรให้พร้อมก้าวสู่โลกธุรกิจยุคใหม่ เสริมศักยภาพบุคลากร สร้างแรงบันดาลใจ เปิดอิสระแห่งโลกการเรียนรู้ ลงมือทำให้เกิดประสบการณ์จริงด้วยวิสัยทัศน์ Next Innovative Co-Creation ชี้องค์กรที่แข็งแกร่งได้ในอนาคตคุณภาพของบุคลากรคือกุญแจดอกสำคัญ
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี’ เปิดเผยว่า บริษัทฯ เห็นถึงความสำคัญของ “บุคลากร” เพราะบุคลากรที่มีศักยภาพถือเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุด ด้วยเหตุนี้ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จึงได้กำหนดนโยบายในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในองค์กรขึ้น โดยได้ดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ Next Innovative Co-Creation เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของบุคลากรแบบรอบด้าน ที่สำคัญยังมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้เกิดขึ้นภายในองค์กรด้วย
“ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้จัดตั้ง Lalin Academy แหล่งความรู้เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมพัฒนาการของบุคลากรให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่เพิ่มมากขึ้น โดยมีการจัดฝึกอบรมในด้านต่างๆอย่างต่อเนื่องในรูปแบบผสมผสานทั้ง Re-Skill การปรับปรุงทักษะ และปรับ Mindset ของพนักงานที่จะช่วยส่งเสริมให้สามารถพัฒนาตนเองได้ตลอดเวลา พร้อมรับมือรู้เท่าทันโลกยุคปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง ทำให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ Up Skill การเพิ่มทักษะในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การฝึกฝนและนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาปรับใช้พร้อมรองรับการทำงานในอนาคต เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วและประหยัดเวลา New Skill การสร้างทักษะใหม่ๆให้รู้เท่าทันเทคโนโลยี เช่น การนำสื่อดิจิทัลเข้ามาช่วยในเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกให้มีความแม่นยำเพิ่มมากขึ้น โดยสามารถนำมาปรับใช้ในการพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์และตรงใจลูกค้าได้เป็นอย่างดี สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ถือเป็นตัวเร่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้บริษัทต้องเรียนรู้และปรับตัวให้เท่าทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพื่อให้องค์กรสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคง นอกจากนี้ยังมีการนำเอาเทคโนโลยี Data Analytics เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลในส่วนต่างๆให้การทำงานเพิ่มประสิทธิภาพอันส่งผลให้มีประสิทธิผลที่ดี ช่วยเกิดความสะดวกและรวดเร็ว ในการดำเนินงานขององค์กรให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย” นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กล่าวถึงภาพรวมที่ผ่านมาในการยกระดับและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้
“ในปี 2565 บริษัทฯ ได้ต่อยอดการพัฒนาศักยภาพบุคลากรภายในองค์กรอีกขั้น โดยเน้นการดำเนินนโยบายเพื่อเสริมสร้างความรู้ให้แก่พนักงานด้วยการจัดหลักสูตรการอบรมโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ที่สำคัญคือการพัฒนาให้พนักงานรู้จักขั้นตอนและวิธีการจัดการกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน” นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กล่าว “ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาผนวกกับ New Concept เพื่อเป็นความรู้เพิ่มเติมให้กับบุคลากรได้สามารถนำไปปรับใช้ในการทำงาน ด้วยการจัดทำ Online Knowledge Management Center ที่รวบรวมจากประสบการณ์ตรงของผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา เช่น เทคนิคด้านงานก่อสร้าง ข้อมูลด้านกฏหมายเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การตลาดยุคดิจิทัล ความปลอดภัยของข้อมูลในยุคดิจิทัล เป็นต้น โดยนำมาใช้แบ่งปันแก่บุคลากรอยู่เสมอ เพื่อเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้เกิดเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการเรียนรู้ สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้มาสร้างสรรค์โครงการบ้านและบริการที่มีคุณภาพมอบสู่มือของผู้บริโภคต่อไป”
ทั้งนี้ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ยังได้ยกระดับการฝึกอบรมภายในองค์กร โดยมุ่งเน้นหลักสูตรการถ่ายทอดประสบการณ์การทำงานและปัญหาที่พบเจอจากประสบการณ์จริงมาถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มประสบการณ์แล้ว ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ของคนในองค์กรอีกด้วย “ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เชื่อว่าประสบการณ์ในวงการอสังหาฯ ที่ได้สั่งสมมากว่า 30 ปี มีคุณค่าในตัวเสมอ โดยจะนำสิ่งเหล่านี้มาถ่ายทอดผ่านทางเทคโนโลยีอันทันสมัยของยุคปัจจุบัน พัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อสร้างแนวทางปฏิบัติสู่ความเป็นเลิศในการจัดการด้านการเรียนรู้ขององค์กรโดยรวมทุกสายงาน อาทิ ศูนย์กลางจัดกลางความรู้ Knowledge Management Center รวบรวมเทคนิคเฉพาะในด้านต่างๆ ในรูปแบบกรณีศึกษาที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย พร้อมวิธีการในการจัดการให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด เทคนิคการปิดการขาย พร้อมทั้งการเรียนรู้ในการปรับตัวให้เข้ากับองค์กร” นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กล่าวสรุป