โกลเด้นแลนด์ โกยรายได้ปี 2560 รวมกว่า 13,500 ล้านบาท กำไรกว่า 1,700 ล้านบาท มีผลการดำเนินงานสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ทั้งรายได้ และกำไร

โกลเด้นแลนด์ โกยรายได้ปี 2560 รวมกว่า 13,500 ล้านบาท กำไรกว่า 1,700 ล้านบาท

มีผลการดำเนินงานสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ทั้งรายได้ และกำไร

พร้อมกำหนดปี 2561 เป็นปีแห่งการเพิ่มมูลค่า และศักยภาพขององค์กร

(Adding Value) 

บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ แจ้งผลการประชุมคณะกรรมการบริษัทให้ความเห็นชอบงบการเงินสำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุด 31 ธันวาคม  2560 ทำผลงานสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ โดยทำรายได้รวมกว่า 4,189 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,286 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44% มีกำไรสุทธิ 613 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 507 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 476% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เมื่อรวมกับงบ 9 เดือนที่ผ่านมา งบกำไรขาดทุนประจำปี 2560 (12 เดือน) มีกำไรกว่า 1,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 663 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 64% โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 13,541 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2,744 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% พร้อมกำหนดปี 2561 เป็นปีแห่งการเพิ่มมูลค่า และศักยภาพขององค์กร (Adding Value)

ธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ เปิดเผยว่า “บริษัทฯ กำหนดให้ ปี 2561 เป็นปีแห่งการเพิ่มมูลค่าและศักยภาพขององค์กร (Adding Value) โดยประกอบด้วย 5 กลยุทธ์ ดังนี้

  1. เพิ่มมูลค่ายอดขาย และรายได้ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายที่ 26,600 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้รวม 17,800 ล้านบาท โดยเปิดขายโครงการแนวราบ ท้าชนทุกเซกเมนต์ ผ่านโครงการที่เปิดขายรวม 79 โครงการแบ่งออกเป็น โครงการที่เปิดขายเดิมจำนวน 45 โครงการ และมีแผนงานเปิดโครงการในปี 2561 อีกจำนวน 34 โครงการมูลค่ารวม 39,600 ล้านบาทหรือแบ่งออกเป็นโครงการบ้านเดี่ยวจำนวน 4 โครงการ บ้านแฝดจำนวน 8 โครงการ ทาวน์โฮม จำนวน 20 โครงการ และโครงการในต่างจังหวัด 2 โครงการ  นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงสร้างรายได้จากการให้เช่า และบริการได้อย่างต่อเนื่อง
  2. เพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ บริษัทฯ มีแผนขายสิทธิการเช่าระยะยาวในโครงการเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ (ซึ่งมีผู้เช่าส่วนอาคารสำนักงานแล้วกว่า 98%) มูลค่าโครงการกว่า 5,000 ล้านบาท ให้กับทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ (Golden Ventures REIT) ซึ่งหากดำเนินการเรียบร้อยแล้ว จะทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากขายสินทรัพย์ดังกล่าว และช่วยเสริมให้ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผ่านการลงทุนในสิทธิการเช่าทั้ง 3 อาคาร ซึ่งมีศักยภาพสูงของกรุงเทพฯ ได้แก่ อาคารปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ ติดบีทีเอสสถานีเพลินจิต อาคารสาทรสแควร์ ติดบีทีเอสสถานีช่องนนทรี และเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ ติดเอ็มอาร์ทีสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
  3. เพิ่มศักยภาพของงานระบบฐานข้อมูลของบริษัท โดยการลงทุนกว่า 80 ล้านบาท ในแซป ฮาน่า (SAP HANA) ซึ่งเป็นระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร (Enterprise Resource Planning) ที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน เพื่อเข้าเสริมงานวางแผน (Planning) งานผลิต (Production) งานขาย (Sale) งานทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource) และงานบัญชีการเงิน (Accounting/Finance) ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน สามารถวิเคราะห์ข้อมูล ในวางแผนพัฒนาโครงการได้อย่างแม่นยำ
  4. เพิ่มศักยภาพการแข่งขันระดับสากล ผ่านความร่วมมือ “โกลเด้นแลนด์-เฟรเซอร์ส ซินเนอร์จี้” เพื่อพัฒนาโครงการต่างๆ ของโกลเด้นแลนด์ โดยได้ผสานองค์ความรู้ เทคโนโลยี และความชำนาญในการพัฒนา การลงทุน และการบริหารโครงการระดับนานาชาติของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด (Frasers Property Limited) ต่อยอดให้กับความชำนาญในการพัฒนา และบริหารอสังหาริมทรัพย์ในประเทศของโกลเด้นแลนด์
  5. เพิ่มศักยภาพของพนักงาน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนองค์กร โดยกำหนดให้เป็นปี “องค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization)” โดยเน้นการฝึกอบรม การเรียนรู้ ด้านการบริหารจัดการ และการพัฒนาศักยภาพของ แต่ละบุคคลมากขึ้น พร้อมส่งเสริมให้พนักงานเรียนรู้ทั้งใน และนอกองค์กร เพื่อพัฒนาคุณภาพ และเพิ่มศักยภาพของพนักงานในระยะยาว

ธนพล กล่าวทิ้งท้ายว่า “บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่ากลยุทธ์องค์กรของปี 2561 ทั้ง 5 ข้อนี้ จะช่วยเพิ่มมูลค่า และศักยภาพขององค์กร ทำให้บริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายในการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์  5 อันดับแรกของประเทศไทยภายในปี 2563 ที่ตั้งไว้”

#################################

บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ ก่อตั้งในปี  พ.ศ. 2521 บริษัทฯ ได้ดำเนินการจดทะเบียนเป็นบริษัท มหาชน  และเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2537 ภายใต้ชื่อย่อ GOLD

ในปี 2555 บริษัทฯ ได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นบริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) พร้อมส่งคณะกรรมการบริษัท และคณะผู้บริหารชุดใหม่เข้ากอบกู้กิจการของบริษัทฯ ที่มีการขาดทุนสะสมกว่า 7 ปี กลับมาทำกำไรใน ปี 2557 โดยในปี 2559 บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จากตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ และเกิดความร่วมมือทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยให้เทียบชั้นระดับโลก

ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 11,037,670,000 บาท และมีมูลค่าสินทรัพย์รวม 32,533 ล้านบาท มีโครงการที่พักอาศัยหลายแห่งหลายทำเล ในแบรนด์ โกลเด้น อย่างเช่น โกลเด้นทาวน์, โกลเด้นซิตี้, โกลเด้น นีโอ, โกลเด้น วิลเลจ, โกลเด้น อเวนิว, โกลเด้น เพรสทีจ และ เดอะ แกรนด์ ซึ่งมีราคาตั้งแต่ไม่ถึง 2 ล้านบาทจนถึง 50 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการอาคารสูงเชิงพาณิชยกรรม ทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม และเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร อีกหลายโครงการ อย่างเช่น อาคารสาทรสแควร์, อาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์, โครงการสามย่านมิตรทาวน์, ดิ แอสคอท สาทร แบงคอก, อาคารโกลเด้นแลนด์ และโรงแรม ดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ