“เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” ขอบคุณนักลงทุน-ผู้ซื้อ
ยอดขายหุ้นกู้ทะลุ 1,600 ล้าน เร่งขับเคลื่อนแผนธุรกิจต่อเนื่อง
“เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” กระแสดีทั้งหุ้นกู้และที่อยู่อาศัย ขอบคุณนักลงทุน-ผู้ซื้อ หลังกระแสตอบรับ “หุ้นกู้” ล้น โกยยอดขายเต็มจำนวน 1,600 ล้านบาท ตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ พร้อมเดินหน้าแผนเปิดโครงการใหม่และขยายสู่ธุรกิจนอกเหนือจากอสังหาริมทรัพย์ตามแผนงาน
นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซูรีและโครงการที่อยู่อาศัยที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ (Pet-Friendly Residences) กล่าวว่า หลังจากบริษัทเปิดการเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2566 เป็นหุ้นกู้อายุ 2 ปี 7 เดือน มูลค่า 1,600 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21-23 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ล่าสุด บริษัทสามารถปิดการขายหุ้นกู้เต็มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว
“เรื่องดังกล่าว สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ทั้งคุณภาพโครงการ ความสามารถในการบริหารจัดการความเสี่ยง ไปจนถึงแผนการเติบโตสู่อนาคต บริษัทขอขอบคุณทั้งนักลงทุนและผู้จัดการการจัดจำหน่ายทุกราย ที่ให้ความไว้วางใจแก่บริษัท และจะเดินหน้านำเงินทุนที่ได้ไปใช้ตามวัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้” นางสาวเพชรลดา กล่าว
นางสาวเพชรลดา กล่าวอีกว่า นอกจากได้รับการตอบรับที่ดีในฝั่งหุ้นกู้แล้ว บริษัทยังได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาด้วย อาทิ การจัดแคมเปญ Deal of The Year สำหรับคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่และการจัดงาน Grand Opening โครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี มอลตัน เกทส์ กรุงเทพกรีฑา (Malton Gates Krungthep Kreetha) เมื่อวันที่ 25-26 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน โครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างก็ยังได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่อง
หลังจากนี้ บริษัทจะเร่งเดินหน้าธุรกิจตามแผนงาน “LifeScape at a New Height” ที่ประกาศไว้เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1.Solidify Residential-Scape ผลักดันความแข็งแกร่งให้กลุ่มธุรกิจหลักอย่างธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย เปิดโครงการใหม่ 7 โครงการ 14,700 ล้านบาท 2.Fortify LifeScape & PetScape ตอกย้ำความแข็งแกร่งให้จุดเด่นของแบรนด์ ยืนหยัดในฐานะอันดับ 1 โครงการที่อยู่อาศัยเลี้ยงสัตว์ได้ (Pet-friendly residences) และ 3.Diversify Revenue ปรับเพิ่มสัดส่วนโครงการแนวราบ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ นอกเหนือจากธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เช่น ธุรกิจ HealthScape และ Techscape