หากธุรกิจเปรียบได้กับการเดินหมากรุกบนกระดาน หมากทุกตัวของ ชิค รีพับบลิค ถูกกำหนด
กลยุทธ์และวางทิศทางการเดินไว้อย่างชัดเจนนับตั้งแต่เริ่มต้นก่อตั้งบริษัทกว่า 7 ปี ภายใต้แนวคิดและวิสัยทัศน์ของ ‘กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) (CHIC)
ผู้ปลุกปั้น ชิค รีพับบลิค ให้ขึ้นแท่นเป็นโฮมแฟชั่นสโตร์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่รวบรวมเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากที่สุด ผ่านบทพิสูจน์ความสำเร็จในการสร้าง
แบรนด์สินค้าสุดชิค “ชิค รีพับบลิค (CHIC)” และ “ริน่า เฮย์ (RINA HEY)” ติดลมบนกลายเป็นผู้นำ
เทรนด์เฟอร์นิเจอร์แนวใหม่ มีความโดดเด่น แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ และมีเสน่ห์ทุกอณูในเวลานี้
มองย้อนกลับไป จุดเริ่มต้นของ ชิค รีพับบลิค เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของ กิจจา ซึ่งเล็งเห็นโอกาสทางการตลาด เพราะตลาดเฟอร์นิเจอร์ในยุคก่อนหน้าที่ ชิค รีพับบลิค จะเกิดขึ้นนั้น สินค้าที่มีจำหน่ายในท้องตลาดเป็นสินค้าที่ผลิตจากโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศที่มุ่งเน้นผลักดันสินค้าที่ตนเองผลิต (Push Marketing) เข้าสู่ตลาด โดยสินค้าแต่ละบริษัทที่นำมาแข่งขันจะเป็นแบบที่คล้ายกัน หรือลอกเลียนแบบกัน ในขณะที่ความต้องการของลูกค้ามีมากกว่านั้น
CHIC ต้นแบบความชิคและค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์
ในปี 2552 ชิค รีพับบลิค จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการเฟอร์นิเจอร์เมืองไทย และ กิจจา คือผู้นำแนวคิดใหม่ที่ฉีกภาพลักษณ์เฟอร์นิเจอร์เมืองไทยด้วยการขับเคลื่อนธุรกิจโดยมุ่งเน้นสร้างความแปลกใหม่เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค ภายใต้แนวคิด “Home Fashion Living” การอยู่อาศัย ไม่ใช่เพียงเพื่อการพักผ่อนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอยู่อย่างมีสไตล์ มีรสนิยม และมีดีไซน์ (Living is not just to live but to live Fashionably) เพื่อตอกย้ำความเป็นตัวตน (Uniqueness) ที่แตกต่างและนำสมัย ประกอบกับมุมมองของ กิจจา ซึ่งมองธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ในลักษณะเดียวกับธุรกิจค้าปลีกที่ต้องใส่ใจในทุกรายละเอียด หรือ “retail is detailed”
ทำให้วันนี้ ชิค รีพับบลิค ไม่ใช่เพียงแค่ศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านทั่วไป แต่คือ โฮมแฟชั่นสโตร์ หรือศูนย์รวมความแตกต่างและความหลากหลายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่มีใครเหมือนในความคุ้มค่าคุ้มราคา แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย สะท้อนออกมาถึงสินค้าภายใต้
แบรนด์ CHIC และ RINA HEY ที่ได้ถูกวางภาพลักษณ์และตำแหน่งทางการตลาดของสินค้าที่ชัดเจน โดยต้องการมุ่งเน้นเป็นผู้นำเทรนด์เฟอร์นิเจอร์ ที่มีความต่าง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในสไตล์เฟอร์นิเจอร์รูปแบบ Modtrad Style (Modern &Traditional Style) โดยการนำเอาเฟอร์นิเจอร์ที่มีกลิ่นอายความคลาสสิกสไตล์ยุโรปและอเมริกามาพัฒนาให้มีความทันสมัยในรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ไม้เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในปัจจุบัน
เฟอร์นิเจอร์ ชิ้นเอกมากมายถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ไม้จริง เพื่อให้อิสระแห่งการเลือกสรร เต็มทั่วทุกพื้นที่ของแต่ละสาขา บนพื้นที่ขายตั้งแต่ 6,500-12,000 ตารางเมตร กับเฟอร์นิเจอร์หลากหลายสไตล์ อาทิ Romantic Vintage หรือ Country French Vintage, Modern Chic, American Colonial, English Classic, Industrial Chic, Beach & Garden รวมไปถึงสินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน โคมไฟตกแต่ง ที่นอนและเครื่องนอน ฯลฯ
“CHIC ได้มีการวาง Brand Positioning ของสินค้าไว้อย่างชัดเจนเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีกำลังซื้อและต้องการที่อยู่อาศัยใหม่หรือปรับปรุงที่อยู่อาศัย ทั้งแนวราบและอาคารสูง โดยแยกความต่างของแบรนด์ CHIC จะเน้นจับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในระดับระดับกลางถึงบน ส่วนแบรนด์ RINA HEY จะรองรับกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงล่าง (Mass Market) เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ CHIC มีความสามารถครอบคลุมส่วนแบ่งการตลาด และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ได้มากที่สุด”
กระจายความเสี่ยงรายได้สร้างการเติบโตมั่นคง
ทั้งนี้สินค้าภายใต้แบรนด์ “CHIC” และ “RINA HEY” มีการวางจำหน่ายในโฮมแฟชั่น
สโตร์ทุกสาขา แต่จะมีแยกโซนของทั้งสองแบรนด์อย่างชัดเจน โดยปัจจุบัน CHIC มีสาขารวมทั้งสิ้น 4 สาขา ได้แก่ 1) สาขาประดิษฐ์มนูธรรม 2) สาขาพัทยา 3) สาขาบางนา 4) สาขาราชพฤกษ์ และมีศูนย์กระจายสินค้า 1 แห่ง ซึ่งได้ว่าจ้างบริษัท ดีเอชแอล ซัพพลายเชน (ประเทศไทย) จำกัด (DHL) เป็นผู้บริหารคลังสินค้าให้กับบริษัทฯ โดยคลังสินค้าตั้งอยู่ที่ อ.บางพลี จ. สมุทรปราการ
กิจจา เล่าต่อว่า การทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จให้เติบโตยั่งยืนในระยะยาว นอกเหนือจากการสร้างสินค้าที่ดี และปั้นแบรนด์ให้ติดตลาดแล้ว การกระจายความเสี่ยงของรายได้ที่หลากหลายทาง ก็มีส่วนสำคัญ ดังนั้น บริษัท จึงเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ โดยเข้าเสนองานโครงการ โดยเป็นการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์พร้อมติดตั้ง ในลักษณะเฟอร์นิเจอร์แบบติดผนัง (Built in) และเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว (Loose Furniture) และสินค้าตกแต่งบ้าน ให้กับโครงการห้องชุด คอนโดมีเนียม โครงการบ้านจัดสรรต่างๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ชิค รีพับบลิค วางกลยุทธ์ที่สำคัญอยู่ที่การลงทุนขยายสาขา โดยทุกสาขาของ CHIC มีการแบ่งพื้นที่เช่าให้กับร้านค้า ร้านอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท เป็นการดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมโฮมแฟชั่นสโตร์เพิ่มขึ้น รวมถึง เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าที่เข้ามาเลือกสรรสินค้าภายในโฮมแฟชั่นสโตร์ของ CHIC และ RINA HEY
นอกจากนั้นในปี 2561 ชิค รีพับบลิค ยังเปิดช่องทางการขายตามกลยุทธ์ทางการตลาดแบบ O2O (โอทูโอ) หรือ ออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง ทู ออฟไลน์มาร์เก็ตติ้ง และ ออฟไลน์มาร์เก็ตติ้ง ทู ออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง (Online Marketing to Offline Marketing และ Offline Marketing to Online Marketing) เป็นการจำหน่ายสินค้าด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดแบบใหม่ โดยเป็นการทำการตลาดแบบผสมผสานที่สามารถเจาะตลาดได้ทั้งตลาดออนไลน์และตลาดออฟไลน์
CHIC หุ้นกลุ่มค้าปลีกตัวใหม่
กิจจา กล่าวปิดท้ายว่า บทพิสูจน์ความสำเร็จขององค์กรวันนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของก้าวต่อๆไป เพราะในปีที่ครบรอบ 7 ปี ‘ชิค รีพับบลิค’ เติบโตเข้มแข็ง และเต็มพร้อมกับก้าวย่างสำคัญเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทได้ยื่นแบบข้อมูลบริษัท (ไฟลิ่ง) นำเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 360 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้น 0.50 บาท พร้อมกำหนดชื่อย่อ ‘CHIC’ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยนำเสนอให้พิจารณารอบแรกแล้วในเดือนมกราคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งคาดหวังว่าจะซื้อขายบนกระดานหุ้นภายในปีนี้
เพียงแค่นี้ก็สามารถมองเห็นเสน่ห์อันน่ายวนใจของหุ้น ‘CHIC’ ที่แตกต่าง และโดดเด่น ที่ขอยกให้เป็นว่าที่หุ้นกลุ่มค้าปลีกตัวใหม่ ที่ต้องจับตามองและจับจองเป็นเจ้าของมากที่สุดแล้ว!!
