ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จับมือ เดลต้า ประเทศไทย เพื่อจัดหาและพัฒนาผลิตภัณฑ์อัจฉริยะและมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จับมือ เดลต้า ประเทศไทย
เพื่อจัดหาและพัฒนาผลิตภัณฑ์อัจฉริยะและมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

กรุงเทพฯ ประเทศไทย 20 พฤษภาคม 2567 – บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และ บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อการจัดหาและพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของออริจิ้นในกรุงเทพฯ และทั่วประเทศไทย โดยภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ออริจิ้นจะนำโซลูชันเพื่อบ้านอัจฉริยะและอาคารสีเขียวที่หลากหลายของเดลต้าไปใช้ในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และร่วมมือกับเดลต้าเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับออริจิ้น ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้ออริจิ้นสามารถมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดีต่อสุขภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า ซึ่งสอดคล้องไปกับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของบริษัท

ข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวจัดขึ้น ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ สุขุมวิท โดย นางอารดา จรูญเอก ประธานอำนวยการ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และนายเกรียงไกร กรีบงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในนามของ ออริจิ้น ร่วมกับนายแจ็คกี้ จาง ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) และนายเคอร์ติส คู ผู้อำนวยการธุรกิจประจำประเทศไทยของ บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ลงนามบันทึกข้อตกลงในนามของเดลต้า

นางอารดา จรูญเอก ประธานอำนวยการ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวภายในงานว่า “วันนี้ประเด็นสำคัญที่ผู้คนทั่วโลกต่างตระหนักร่วมกันคือเรื่องความยั่งยืน ผู้คนต้องการมีชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดีต่อสุขภาพมากขึ้น และมีนวัตกรรมอัจฉริยะมากขึ้น ออริจิ้นในฐานะหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ มุ่งมั่นสร้างความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อมาร่วมส่งมอบนวัตกรรมที่ช่วยสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ หรือ Low-carbon society ให้ผู้บริโภค เดลต้าถือเป็นพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนสอดคล้องกัน และเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีนวัตกรรมกรีนและนวัตกรรมอัจฉริยะต่างๆ อย่างครบถ้วน เชื่อว่าสินค้าของเดลต้าจะเข้ามาช่วยเติมเต็มความสุข ยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิตให้แก่ผู้บริโภคในบ้าน คอนโดมิเนียม และโรงแรมของเราได้”

นายแจ็คกี้ จาง ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่างเดลต้าและออริจิ้น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการยกระดับการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้มากยิ่งขึ้น โดยโซลูชันการจัดการคุณภาพอากาศภายในอาคารของเดลต้าสามารถช่วยแก้ไขปัญหาใหญ่อย่างมลพิษทางอากาศ PM2.5 ในประเทศไทย พร้อมช่วยส่งเสริมสุขภาพและการเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ ขณะเดียวกันเดลต้ายังคงมุ่งมั่นร่วมกับพันธมิตรภาคอสังหาริมทรัพย์ดำเนินการส่งมอบโซลูชันระบบอัตโนมัติและระบบเฝ้าระวังความปลอดภัยอัจฉริยะที่หลากหลาย ควบคู่กับโซลูชั่นสถานีชาร์จรถไฟฟ้าตลอดจนพลังงานสีเขียวเพื่อสภาพแวดล้อมการทำงานและการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน”

ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะยาวครั้งนี้มุ่งเน้นให้ประโยชน์แก่ลูกค้าของออริจิ้นด้วยการส่งมอบสินค้าและโซลูชันที่หลากหลายของเดลต้า ตั้งแต่กลุ่มสมาร์ทโฮมโซลูชัน อาทิ ระบบอาคารอัตโนมัติ ระบบเฝ้าระวังความปลอดภัยอัจฉริยะ และโซลูชันการจัดการคุณภาพอากาศภายในอาคาร เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัย ความเป็นอยู่ที่ดี พร้อมช่วยประหยัดพลังงาน นอกจากนี้เดลต้าจะร่วมมือกับออริจิ้นในการพัฒนาโซลูชันอาคารสีเขียวโดยใช้โซลูชันการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน และระบบกักเก็บพลังงานที่มีประสิทธิภาพของเดลต้า

ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะร่วมมือให้เดลต้าจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเดลต้าเพื่อใช้ในโครงการของออริจิ้น พร้อมทั้งดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดร่วมกัน อาทิ การจัดกิจกรรมทั้งภายในและต่างประเทศ การทำโรดโชว์งานจัดแสดงอสังหาริมทรัพย์ ขณะเดียวกันทั้งสองบริษัทยังคงมุ่งมั่นดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและชุมชนที่ยั่งยืนร่วมกัน

ในฐานะผู้ให้บริการชั้นนำสำหรับบ้านอัจริยะ พลังงานหมุนเวียน และโซลูชันการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เดลต้า ประเทศไทย ได้ร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรมการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ เพื่อมอบการใช้ชีวิตที่ชาญฉลาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับสถานที่ทำงานและบ้านเรือน โดยเดลต้า ประเทศไทย มุ่งมั่นในการนำเสนอโซลูชันเพื่อช่วยรับมือมลพิษทางอากาศ PM2.5 พร้อมช่วยยกระดับประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยและพลังงานภายในอาคาร

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจด้วยโครงสร้างทางธุรกิจที่หลากหลาย ประกอบด้วย 1. ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย พัฒนาคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรภายใต้แบรนด์ต่างๆ (ณ ช่วงสิ้นสุดไตรมาสแรกของปี 2567 บริษัทพัฒนาโครงการสะสมมาแล้ว 158 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 2.47 แสนล้านบาท) 2. ธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ และธุรกิจค้าปลีก 3. ธุรกิจบริการ ครอบคลุมบริการด้านอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัย 4. ธุรกิจที่สอดรับเมกะเทรนด์ มุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจเกิดใหม่ที่พร้อมเติบโตในระยะยาว เช่น โลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ พลังงาน การเงิน และเอนเตอร์เทนเมนท์ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร