เปิด Attraction ระดับโลกแห่งใหม่ของไทย ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
การแสดงระบำสายน้ำที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- ไอคอนสยามตอกย้ำคอนเซ็ปต์ “Creating Shared Value” ที่เกิดขึ้นแล้วอย่างเป็นรูปธรรม และในสเกลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลก เนรมิตการแสดงระบำสายน้ำผสมผสานแสง สี เสียง และมัลติมีเดีย ที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ – “ICONIC Multimedia Water Features” จิ๊กซอว์สำคัญตัวสุดท้าย ที่จะช่วยจุดประกายแม่น้ำเจ้าพระยาให้เป็น “Next Global Destination” อย่างแท้จริง
- ต่อยอดความแข็งแกร่งของ “แผนแม่บทวิสัยทัศน์แห่งแม่น้ำเจ้าพระยา” (Chao Phraya River Master Vision) ที่ทำมาโดยตลอด เดินหน้าผนึกกำลังทุกภาคส่วน เสริมแกร่งการท่องเที่ยวประเทศไทย สาดกระจายผลประโยชน์ไปในวงกว้าง
- จับมือบริษัทออกแบบน้ำพุชื่อดัง “Ghesa Water & Art” ผู้ออกแบบน้ำพุมาแล้วกว่า 3,000 โครงการทั่วโลก สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกบนแผ่นดินไทย เชิดชูและเผยแพร่ความงามสง่าของแม่น้ำเจ้าพระยาให้เป็นที่ประทับใจไปทั่วโลก
วันนี้ ‘ไอคอนสยาม’ อภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคต สัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (PATA), สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA), สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB, บางกอก ริเวอร์ พาร์ทเนอร์ส, สมาคมการค้าธุรกิจในแม่น้ำเจ้าพระยา, สมาคมเรือไทย, ตลอดจนหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจัดพิธีเปิด Attraction ระดับโลกแห่งใหม่ ของประเทศไทย ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา “ICONIC Multimedia Water Features” ระบำสายน้ำผสมผสานแสง สี เสียง และมัลติมีเดีย ที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความยาวกว่า 400 เมตร ท่ามกลางทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเชิดชูและเผยแพร่ความงามสง่าของแม่น้ำเจ้าพระยาให้เป็นที่ประทับใจไปทั่วโลก ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกและทั่วทั้งประเทศไทยให้เดินทางมาสัมผัสความงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยา และนับเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของไอคอนสยามอีกด้วย
นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า “ไอคอนสยามได้พลิกโฉมการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ด้วยคอนเซ็ปต์ ‘Creating Shared Value’ ซึ่งได้ทำให้เกิดขึ้นจริงแล้ว อย่างเป็นรูปธรรม และในสเกลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลก โดยไอคอนสยามได้ประกาศ ‘แผนแม่บทวิสัยทัศน์แห่งแม่น้ำเจ้าพระยา’ (Chao Phraya River Master Vision) เมื่อ 5 ปีก่อน เป็นการบุกเบิกความร่วมมือระดับชาติครั้งประวัติศาสตร์ ของผู้ประกอบการและหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีอยู่ในขณะนั้นและกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา รวมทั้งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ตลอดจนภาคประชาสังคม โรงแรมห้าดาวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และชุมชนต่างๆ ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ผนึกกำลังร่วมกัน จนถึงวันนี้ ได้เกิดความร่วมมือและการทำงานร่วมกันในรูปแบบต่างๆ มากมาย ตัวอย่างที่ชัดเจนล่าสุดก็คือการร่วมกันจัดงาน Amazing Thailand Countdown 2019 ที่มีผู้ชมพลุมากกว่า 1.5 ล้านคน โดยถ้านับเฉพาะที่ไอคอนสยาม ได้ต้อนรับผู้มาร่วมงานมากถึง 2 แสนคนในวันเดียว ซึ่งงานนี้ได้สร้างชื่อเสียงและเผยแพร่ภาพความยิ่งใหญ่และสวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยาออกไปทั่วโลก ผ่านการรายงานข่าวของสื่ออันดับหนึ่งของโลกอย่าง CNN, BBC, Reuters เป็นต้น นี่คือส่วนหนึ่งของความร่วมมือตาม ‘แผนแม่บทวิสัยทัศน์แห่งแม่น้ำเจ้าพระยา’ เพื่อจุดประกายทั้งแม่น้ำเจ้าพระยาให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก”
ไอคอนสยาม คือเมืองที่เป็นศูนย์รวมของความมหัศจรรย์อันหลากหลาย ทั้งศิลปะและวัฒนธรรม ผสมผสานรวมอยู่กับที่สุดของการช้อปปิ้งและความบันเทิง โดยการผนึกกำลังพันธมิตรองค์กรธุรกิจทั้งใหญ่และเล็กทุกขนาดและหลากหลายรูปแบบธุรกิจ รวมไปถึงผู้คนจำนวนมากจากนานาสาขาอาชีพ ด้วยปณิธานเดียวกันคือต้องการเชิดชูเรื่องราวอันมีคุณค่าและเป็นความภาคภูมิใจจากทุกมิติของความเป็นไทยที่มีอยู่ในชาติ นำเสนอในรูปแบบวิจิตรล้ำสมัย สร้างสรรค์สัญลักษณ์ใหม่ที่จะกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ ‘Creating Shared Value’ ประสานประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย แผ่กระจายความรุ่งเรืองไปทั่วทั้งในระดับชุมชน สังคม และประเทศ
ทั้งนี้ไอคอนสยามได้เคยประกาศองค์ประกอบสำคัญของโครงการคือ “7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งไอคอนสยาม” สิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวแห่งใหม่ทั้ง 7 ที่จะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย ประกอบด้วย River Park พื้นที่ Community Space ขนาดใหญ่ริมน้ำ เนื้อที่กว่า 10,000 ตารางเมตร สุขสยาม เมืองแห่งมนต์เสน่ห์มหัศจรรย์วิถีไทย ทรูไอคอนฮอลล์ – ศูนย์ประชุมนวัตกรรมล้ำยุค รถไฟฟ้าสายสีทอง ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ริเวอร์ มิวเซียม แบงค็อก พิพิธภัณฑ์ระดับโลก, ปรากฏการณ์รวมโลกในรอยไทย การรวมผลงานอันยอดเยี่ยมของศิลปินทุกแขนงกว่า 100 คน และ ระบำสายน้ำผสมผสานแสง สี เสียง และมัลติมีเดีย “ICONIC Multimedia Water Features” ที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในวันนี้ไอคอนสยามได้พิสูจน์ผลสำเร็จของสิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7 ตามที่ได้เคยประกาศไว้
เสริมแกร่งการท่องเที่ยวประเทศไทย และกระตุ้นเศรษฐกิจในวงกว้าง
นาวาโท ปริญญา รักวาทิน นายกสมาคมการค้าธุรกิจในแม่น้าเจ้าพระยา กล่าวว่า “การมาของไอคอนสยามทาให้ผู้ประกอบการตลอดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาตื่นตัวและคึกคักเป็นอย่างมาก โดยทุกฝ่ายได้เข้ามาพูดคุยและร่วมมือกัน ส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพและปริมณฑลกันอย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุด และมากไปกว่านั้น ยังเป็นแรงผลักดันให้มีการพัฒนาและปรับปรุงเรือให้มีความทันสมัย ปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงการเกิดและเติบโตของธุรกิจใหม่ๆ ขึ้นอีกมากมาย มีคอนโดมิเนียมใหม่ โรงแรมใหม่ ร้านค้าใหม่ ธุรกิจบริการใหม่ๆ เริ่มเข้ามาดำเนินการตามกันมา ซึ่งเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนตลอดริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้นไปในทุกกลุ่ม ทุกระดับ ทั้งเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ กลางและเล็ก และครัวเรือนต่างๆ ด้วย ความเปลี่ยนแปลงนี้จะสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน และที่ผ่านมาสมาชิกของสมาคมการค้าธุรกิจในแม่น้ำเจ้าพระยา อาธิเช่น กลุ่มโรงแรม คอนโดมิเนียม เรือโดยสารท่องเที่ยว เรือภัตตาคาร สถานที่เที่ยวริมน้ำต่างๆ ที่เป็นสมาชิกทั้งหมดเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศที่เพิ่มขึ้น จากการจัดกิจกรรมรับเทศกาลของไอคอนสยามหลังการเปิดตัว ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลลอยกระทง การจัด Amazing Thailand Countdown 2019 ที่เพิ่งมีขึ้นในวันส่งท้ายปี ได้สร้างความยิ่งใหญ่อลังการด้วยความสวยงามของการจุดพลุ สว่างไสวไปตลอดพื้นน้ำระยะทางกว่า 1.4 กิโลเมตรให้ทุกคนได้เห็นกันมาแล้ว เชื่อได้ว่าหลังการเปิดไอคอนสยามและการเปิด ‘ICONIC Multimedia Water Features’ จะเป็นแรงกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวทางน้ำในแม่น้ำสายนี้ให้มีความคึกคักจากการเดินทางของนักท่องเที่ยวและคนไทยเข้ามาชมความสวยงาม ตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามและแปลกใหม่ที่น่าจะยังไม่เคยมีเกิดขึ้นมาก่อนบนริมฝั่งแม่น้ำของที่ใดในโลก ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น New Global Attraction อีกแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ และมั่นใจได้ว่าจะทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่บริเวณเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ รวมถึงพื้นที่ริมน้ำบริเวณโดยรอบไอคอนสยาม เติบโตขึ้นจากเดิมมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา”
นายมนูญ พุฒทอง นายกสมาคมเรือไทย กว่าวว่า “ในกลุ่มสมาชิกสมาคมเรือไทยซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ให้บริการรับส่งผู้โดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งเรือด่วนเจ้าพระยา เรือท่องเที่ยว เรือข้ามฝาก และเรือภัตตาคาร โดยสมาคมฯ ได้มีการทำงานร่วมกับไอคอนสยาม และกรมเจ้าท่า และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง มีโครงการ ‘สุภาพบุรุษแม่น้ำเจ้าพระยา’ โครงการความร่วมมือในการจัดระเบียบการจราจรทางน้ำ และโครงการนำร่องจัดระเบียบการโดยสารและป้องกันการบรรทุกเกิน เพื่อรองรับกับจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ตัวอย่างเช่น ในช่วงเทศกาลต้อนรับปีใหม่ที่ไอคอนสยามผนึกกำลังกับเครือข่ายภาคธุรกิจตลอดริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาร่วมกับจัดงานเคาน์ดาวน์ที่โด่งดังไปทั่วโลก ธุรกิจเรือโดยสารและเรือด่วนเจ้าพระยามีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมากขึ้น 25% เปรียบเทียบกับช่วงเวลาปกติ ผู้ประกอบการเรือมีการเพิ่มเที่ยวการให้บริการ จากปกติ 160-180 เที่ยวต่อวัน เป็น 250 เที่ยวต่อวัน ทั้งนี้ โครงการต่างๆ ก็เพื่อช่วยกันยกระดับคุณภาพบริการการคมนาคมทางน้ำให้ดียิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งแรงสำคัญในการเสริมแกร่งให้กับการท่องเที่ยวในแม่น้ำเจ้าพระยา”
มร. เดวิด โรบินสัน ผู้อำนวยการ บางกอก ริเวอร์ พาร์ทเนอร์ส (บีอาร์พี) กล่าวว่า “การมาของไอคอนสยามได้ช่วยเติมเต็มความต้องการของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ซึ่งวันนี้เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่า นอกเหนือจากการชม วัด วัง สถานที่สำคัญเชิงประวัติศาสตร์ ตรอกซอกซอยชุมชนริมน้ำ และสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอยู่เดิมแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถใช้เวลากับการช้อปปิ้ง พักผ่อนสบายๆ ริมน้ำและทำกิจกรรมต่างๆ อันหลากหลายที่ไอคอนสยาม นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวแม่น้ำเจ้าพระยาและเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้อย่างสะดวกง่ายดายด้วยเรือโดยสารจำนวนมาก ซึ่งตรงนี้ต้องขอขอบคุณผู้ประกอบการเรือเหล่านั้นทุกคน สิ่งนี้ได้แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าคอนเซ็ปต์ ‘Creating Shared Value’ ได้เกิดขึ้นแล้วทั้งแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากนั้นเรายังได้เห็นนักท่องเที่ยวชาวไทยซึ่งรักแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่แล้ว เดินทางมาท่องเที่ยวแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นจำนวนเพิ่มมากขึ้นจากปีก่อน ผู้ประกอบการโรงแรมที่เป็นสมาชิกของเราบางราย มีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการกินดื่มริมน้ำเพิ่มมากขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน มากถึง 20% แต่ไม่ว่าตัวเลขจะเป็นอย่างไร มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนมาก นั่นก็คือ การผนึกกำลังร่วมกันของผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา หรือเรียกว่าการ Collaboration คือตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจสำหรับชุมชนและสังคมริมน้ำทั้งหมด”
นางมิ่งขวัญ เมธเมาลี อุปนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวว่า “กรุงเทพฯ เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 และเป็น 1 ในมหานครที่ถูกรายล้อมด้วยแม่น้ำลำคลองเฉกเช่นเดียวกับมหานครอื่น ๆ ในต่างประเทศ หากแต่ว่า นับจากนี้เป็นต้นไปกรุงเทพจะไม่มีวันเหมือนเดิม เพราะการมาของ ‘ICONIC Multimedia Water Features’ ที่รังสรรค์ โดยไอคอนสยาม อันเป็น Attraction ระดับโลกที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำเจ้าพระยา จะยกระดับให้เป็นมหานครแห่งสายน้ำที่ทันสมัยที่คนทั่วโลกจับตามอง”
“ATTA เป็นองค์กรภาคเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไร รับใช้ประเทศไทยมากว่าครึ่งศตวรรษ ปัจจุบันเรามีสมาชิกเป็นบริษัทธุรกิจนำเที่ยวอินบาร์ว มากกว่า 1,600 บริษัท ที่ทำหน้าที่นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่ดีที่สุดจากทั่วประเทศไปเสนอขายแก่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และสิ่งที่ประจักษ์ต่อสายตาทุกท่านและคนไทยทั้งประเทศอยู่ในขณะนี้ ก็ถือว่าเป็นสินค้าที่ทรงคุณค่าที่สุดในการใช้เป็นแลนมาร์คในการส่งเสริมการตลาดและการขายโปรแกรมท่องเที่ยวประเทศไทยสำหรับ Travel Agent ได้เป็นอย่างดีที่สุด ขอขอบคุณไอคอนสยาม ที่ได้มอบสิ่งมหัศจรรย์สิ่งนี้เป็นของขวัญปีใหม่ เป็นของขวัญที่จะทำให้ประเทศไทยมีโอกาสเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาท เป็น 3 ล้านล้านบาท ในปีนี้ง่ายขึ้น” นางมิ่งขวัญ กล่าว
นายอภิภัทร์ เปรื่องการ ผู้อำนวยการด้านการสื่อสาร สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (PATA) ได้กล่าวว่า “การเปิดตัวของไอคอนสยาม ซึ่งนับว่าเป็น Attraction ระดับโลกแห่งใหม่ของประเทศไทยนั้น สอดคล้องตามกลยุทธ์ด้าน Destination Marketing ของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของภาคการท่องเที่ยว ไม่เพียงเฉพาะแค่สำหรับกรุงเทพฯ และประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งภาพลักษณ์ของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกด้วย”
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB กล่าวว่า “ตั้งแต่เปิดไอคอนสยามอย่างยิ่งใหญ่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และการเปิด Attraction ที่เป็นระดับโลกแห่งใหม่ในประเทศไทย อย่าง ‘ICONIC Multimedia Water Features’ จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นให้กับกรุงเทพฯ และประเทศไทย ตอกย้ำและส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการจัดประชุม การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และการจัดแสดงสินค้าระดับนานาชาติ หรือ ไมซ์เดสติเนชั่น ที่ครองใจนักเดินทางเพื่อธุรกิจจากทั่วโลก โดยนักเดินทางกลุ่มไมซ์เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีอัตราการใช้จ่ายสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป 3-5 เท่า ดังนั้นจึงเป็นกลุ่มสำคัญที่สร้างรายได้เข้าสู่เศรษฐกิจของประเทศ โดยประเทศไทยมีจุดเด่นทั้งด้านความหลากหลายของเดสติเนชั่น การเป็นศูนย์กลางทางด้านธุรกิจ และยังมีการต้อนรับและการบริการที่ได้มาตรฐานจากคนไทยที่พร้อมให้การต้อนรับ ดังนั้นการเปิด ‘ICONIC Multimedia Water Features’ จึงเป็นการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่สำหรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่จะสามารถชมความสวยงาม และยิ่งใหญ่ของระบำน้ำพุซึ่งเหมาะกับการเป็นหนึ่งในกิจกรรมอินเซนทีฟเมื่อเดินทางมายังประเทศไทย”
มร.แอนดรูว์ กัลแบรนด์สัน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา เจแอลแอล ประเทศไทย กล่าวว่า “ในช่วงระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่การประกาศพัฒนาโครงการไอคอนสยาม พัฒนาการของชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ ได้เริ่มต้นขึ้น เกิดการเชื่อมโยงระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของเมืองเข้าด้วยกันกับแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นศูนย์กลาง โดยความร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่างทีมงานของไอคอนสยามและภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อพัฒนาการสัญจรและการเข้าถึงพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ นับเป็นแบบอย่างที่ดีของโครงการภายใต้การนำของภาคเอกชน ซึ่งสร้างสาธารณะประโยชน์ที่สำคัญ”
“ตัวอย่างหนึ่งคือ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีห้องพักอาศัยของโครงการคอนโดมิเนียมแล้วเสร็จมากกว่า 7,000 ยูนิต ตลอดทั้งพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ และยังมีอีกกว่า 4,000 ยูนิตที่มีกำหนดแล้วเสร็จในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้ จึงช่วยสร้างงานและสร้างอุปสงค์ใหม่ๆ ให้แก่ธุรกิจรายย่อยในพื้นที่”
“Attraction และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของไอคอนสยาม กำลังเชื่อมประสานสร้างความแข็งแกร่งให้แก่สถานะความเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกของไอคอนสยาม ซึ่งมุ่งดึงดูดผู้มาเยี่ยมเยือนนับล้านๆ คนจากทั่วโลกในแต่ละปี โดยนอกจากไอคอนสยามจะช่วยสร้างงานประจำให้ผู้คนจำนวนหลายพันแล้ว ยังสร้างโอกาสให้เกิดการใช้จ่ายเงินของผู้ที่มาเยือนเป็นมูลค่ารวมกว่า 100,000 ล้านบาทต่อปีในกรุงเทพฯ ซึ่งจะกระจายรายได้ออกไปในวงกว้างไปถึงธุรกิจชุมชนที่อยู่ถัดออกไปจากพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย” มร.แอนดรูว์ กล่าว
ผศ.ดร. พีรดร แก้วลาย อาจารย์และนักวิจัยคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า “ย่านคลองสานถือเป็นพื้นที่หนึ่งที่มีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน เป็นพื้นที่ที่เสมือนเป็นจุดเริ่มต้นของความเจริญในอดีต และตลอดริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาก็เป็นแหล่งรวมทั้งประวัติศาสตร์ มีทั้งวัฒนธรรม ประเพณี เป็นชุมชนเก่าแก่ที่สวยงาม นี่คือแรงบันดาลใจและเสมือนเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือของหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และภาคประชาสังคม ด้วยความมุ่งมั่นของทุกภาคส่วนในการร่วมมือร่วมใจช่วยกันอนุรักษ์ และเชิดชู ทำให้ประวัติศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรมและสิ่งดีงามต่างๆ ของพื้นที่ตรงนี้ยังคงอยู่ต่อไป ตลอดจนจุดประกายสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาให้กลับมามีคุณค่าและเจิดจรัสอีกครั้ง ซึ่งการมาของไอคอนสยามซึ่งเป็นสมาชิกใหม่ของชุมชน ได้ใช้คอนเซ็ปต์ ‘Co-Creation’ และ ‘Creating Shared Value’ ในการพัฒนาโครงการ ด้วยการทำงานร่วมกับชุมชนซึ่งถือเป็นเจ้าของพื้นที่อย่างแท้จริง มีความรักความผูกพันกับพื้นที่และรู้จักพื้นที่ดีที่สุด ประกอบกับการร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้กลายเป็นกุญแจที่สำคัญที่สุด ที่จะทำให้ทั้งคุ้งน้ำเจ้าพระยาเติบโตไปด้วยกันได้อย่างยั่งยืน”
กำเนิด Attraction ระดับโลกแห่งใหม่ของประเทศไทย
นายสุพจน์ กล่าวว่า “‘ICONIC Multimedia Water Features’ คือ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของไอคอนสยาม เป็นการแสดงระบำสายน้ำผสมผสานแสง สี เสียง และมัลติมีเดีย ที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กว่า 400 เมตร และเป็นการแสดงระบำสายน้ำที่มีการผสมผสานสื่อมัลติมีเดียที่หลากหลายมากที่สุดในโลก สร้างสรรค์การแสดงที่ผสานวัฒนธรรมประเพณีของไทยเข้าไปอย่างกลมกลืน เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของไอคอนสยาม ที่ได้สร้างสรรค์ Attraction ระดับโลกแห่งใหม่ของประเทศไทยให้เกิดขึ้น ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเชิดชูคุณค่าและความสง่างามของแม่น้ำเจ้าพระยาให้โด่งดังไปทั่วโลก”
มร. คาลอส พิซซาร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Ghesa Water & Art ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบน้ำพุชื่อดังระดับโลกที่ออกแบบน้ำพุมาแล้วทั่วโลกกว่า 3,000 โครงการ กล่าวว่า “การจับมือกับไอคอนสยาม เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ปรากฏการณ์ระดับโลกบนแผ่นดินไทย โดยเป็นการแสดงน้ำพุสุดตระการตา ที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดของโลกเท่าที่มีในปัจจุบัน มีหัวใจของการแสดงอยู่ที่การผสมผสานและนำเสนอความงดงามของวัฒนธรรมประเพณีไทยแบบดั้งเดิมเข้าไปอย่างกลมกลืน จัดแสดง ณ River Park ซึ่งเป็นพื้นที่กลางแจ้ง ที่เปิดรับทัศนียภาพอันสวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเต็มตา เพื่อสร้างให้เป็น Attraction ใหม่ของประเทศไทยที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้ที่ใดในโลก”
ทั้งนี้ ไฮไลท์ของ ‘ICONIC Multimedia Water Features’ อยู่ที่การยิงน้ำพุขึ้นไปในอากาศด้วยเทคโนโลยี Compress Air Technology ผสมผสานเทคนิคการยิงน้ำพุแบบ 2D 3D และ 4D jets ที่สามารถหมุนได้เหมือนจอยสติ๊ก ยิงน้ำพุขึ้นไปในอากาศที่ความสูงต่างระดับกัน โดยความสูงระดับสูงสุดจะสูงถึง 35 เมตร และอีกหนึ่งไฮไลท์ก็คือ การยิงน้ำพุด้วยเทคโนโลยี Cybernetic Technology ด้วยความเร็ว 0.1 วินาที ออกมาเป็นรูปดอกไม้ กลายเป็นม่านน้ำสำหรับฉายภาพและแสง ประกอบดนตรีที่เน้นเอกลักษณ์เฉพาะตัวตามแบบไทย เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความเป็นสมัยใหม่และประเพณีความเป็นไทยแบบดั้งเดิม โดยการแสดงระบำสายน้ำผสมผสานแสง สี เสียง และมัลติมีเดีย ‘ICONIC Multimedia Water Features’ จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปชมฟรี ทุกวันๆ ละ 3 รอบ ในเวลา 18.30 น. 20.00 น. และ 21.00 น. ณ บริเวณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม
พร้อมกันนี้ ไอคอนสยามได้จัดกิจกรรมการประกวดภาพถ่าย “ICONIC Multimedia Water Features” ในหัวข้อ The Symphony of Chaophraya River เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยแสดงถึงความสวยงามของ ICONIC Multimedia Water Features ที่ถือเป็น New Global Attraction ในประเทศไทยผ่านทางภาพถ่าย เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจ สามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้โดยแบ่งการประกวดเป็น 2 ประเภท ได้แก่ การประกวดภาพถ่ายจากกล้องถ่ายภาพ และการประกวดภาพถ่ายจากกล้องสมาร์ทโฟน ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ผู้ที่สนใจสามารถโพสต์ภาพเพื่อเข้าร่วมกิจกรรม ได้ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคมนี้เป็นต้นไป ประกาศผลผู้ชนะการประกวดในวันที่ 16 มีนาคม 2562