“แสนสิริ” ทุ่มงบกว่า 12 ลบ. เปิดตัว “THE CLOUD” เซลล์ เซ็นเตอร์รูปแบบใหม่ ครั้งแรกในไทย!
ย้ำวิสัยทัศน์ผู้นำด้าน Health & Well-Being
ชูการผสานนวัตกรรมการอยู่อาศัยและการสร้างประสบการณ์
พร้อมผนึก “เดอะ คอฟฟี่ คลับ” ร่วมเสริมแกร่งคอมมูนิตี้การมีสุขภาพชีวิตที่ดี
ครั้งแรกในวงการอสังหาฯ! แสนสิริ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ฉีกกรอบวงการตลาดอสังหาฯ ทุ่มงบกว่า 12 ลบ. เปิดตัว “THE CLOUD” เซลล์ เซ็นเตอร์รูปแบบใหม่แห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ A Healthy Leisure Space ฉายวิสัยทัศน์ผู้นำที่เข้าใจและใส่ใจไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ผ่านกลยุทธ์ Inclusive Experience และตอบโจทย์เทรนด์คนรักสุขภาพทั่วโลกและในไทย ด้วยการผนึก THE COFFEE CLUB (เดอะ คอฟฟี่ คลับ) แบรนด์ร้านอาหารและคาเฟ่สัญชาติออสเตรเลียร่วมเสริมแกร่ง ครีเอทเมนูเอาใจคนรักสุขภาพ สร้างประสบการณ์ผ่านการรับประทานอาหาร พร้อมต่อยอดปั้น “THE CLOUD” เป็นเซลล์ เซ็นเตอร์ที่แรกของอสังหาฯที่ขายทุกโครงการของบริษัทได้ ชูไฮไลท์สร้างประสบการณ์ผ่านการผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยในแบบแสนสิริ อาทิ “แสนรู้” (SANROO) หุ่นยนต์พนักงานคนใหม่ของแสนสิริให้ข้อมูลด้านนวัตกรรมในโครงการแสนสิริและ Experience Panels โชว์ 4 นวัตกรรมการอยู่อาศัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ตั้งเป้ายอดผู้ใช้บริการและสัมผัสความเป็นแสนสิริกว่า 50,000 รายในครึ่งปีหลังปี 2562 นี้
คุณอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “แสนสิริ ต้องการฉีกกรอบวงการอสังหาฯไทย เพื่อตอกย้ำผู้นำด้านนวัตกรรมในการอยู่อาศัยที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในปีนี้ภายใต้วิสัยทัศน์ For Greater Well-being ผนวกกับการที่แสนสิริตระหนักถึงเทรนด์ของโลกปัจจุบันที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เราจึงได้เปิดตัว THE CLOUD พื้นที่แห่งประสบการณ์การใช้ชีวิตแนวใหม่ ภายใต้แนวคิด “A Healthy Leisure Space” ซึ่งเป็นเซลล์ เซ็นเตอร์แห่งแรกในประเทศไทยหรือเป็นอีกหนึ่ง touch point ด้วยกลยุทธ์ Inclusive Experience สร้างประสบการณ์ที่เปิดกว้างให้ทุกคนและลูกบ้านแสนสิริ เข้ามาใกล้ชิดกับแบรนด์แสนสิริมากขึ้นต่อเนื่องจาก SIRI HOUSE ที่สิงคโปร์และซอยสมคิด กรุงเทพฯ โดยมาพร้อมกับนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยที่สร้างสุขภาพชีวิตที่ดี เราเชื่อเสมอมาว่า นอกเหนือจากที่อยู่อาศัยที่ดีแล้ว การดำเนินชีวิตที่ดีนั้นยังเป็นที่มาของสุขภาพดี โดยในครั้งนี้ แสนสิริ ยังได้ร่วมมือกับ THE COFFEE CLUB ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์ร้านอาหารและคาเฟ่ชั้นนำระดับโลกร่วมสร้างสรรค์เมนูอาหารเอาใจคนรักสุขภาพอีกด้วยเพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ขีวิตของคนในยุคปัจจุบันที่อาหารเป็นปัจจัยสำคัญของการมีสุขภาพดีทั้งกายและใจ”
คุณชุมพจน์ ตันติสุนทร ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือกับแสนสิริว่า “นับเป็นครั้งแรกในเอเชียที่ THE COFFEE CLUB ได้ปรับเปลี่ยนคอนเซ็ปต์เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิด A Healthy Leisure Space ของ THE CLOUD จากวิสัยทัศน์ของทั้งสองแบรนด์ที่สอดคล้องกันและร่วมแบ่งปันความรู้ในการมอบประสบการณ์เพื่อสุขภาพให้กับทุกคนได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ในครั้งนี้ THE COFFEE CLUB จึงยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมเติมเต็มโปรเจ็กต์ THE CLOUD ร่วมกับทางแสนสิริ ซึ่งเป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทยที่มุ่งสร้างสรรค์โปรเจ็กต์ดีๆ ที่ประสบความสำเร็จออกมามากมาย ทาง THE COFFEE CLUB จึงมั่นใจได้ว่าลูกค้าทุกคนที่มาใช้บริการที่ THE CLOUD จะได้รับการบริการอย่างครบถ้วนที่สุด”
THE CLOUD ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ของสยามพารากอน ประกอบด้วย SANSIRI GALLERY เซลล์ เซ็นเตอร์รูปแบบใหม่แห่งแรกในประเทศไทย ที่นำเสนอความเป็นอยู่ที่ดีในแบบของแสนสิริในรูปแบบแปลกใหม่ผ่านการใช้งานศิลปะและเทคโนโลยี อาทิ วินโดว์ ดิสเพลย์ที่จัดแสดงงานศิลปะอินสตัลเลชั่น รูปทรงก้อนเมฆสีขาวโปร่งแสงที่เชิญชวนให้เข้ามาชื่นชม เพื่อถ่ายทอดคอนเซ็ปต์ A Healthy Leisure Space ของ THE CLOUD โดยที่วินโดว์ดิสเพลย์นี้ จะเป็นพื้นที่แห่งความสร้างสรรค์ที่แสนสิริ เป็นผู้ทำหน้าที่เหมือนภัณฑารักษ์ (curator) เลือกสรรงานออกแบบศิลปะมาจัดแสดงอย่างหลากหลายหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไปตลอดทั้งปี แต่แน่นอนว่าจะยังคงสอดแทรกแนวคิดของ THE CLOUD อยู่เสมอ
นอกจากนี้ พบกับ Experience Panels ที่นำเอาเทคโนโลยีและดีไซน์ที่รังสรรค์ขึ้นใหม่มาใช้ในการนำเสนอ 4 นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยที่ดีที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับลูกบ้านของแสนสิริ ได้แก่ Dust-Free House นวัตกรรมบ้านปลอดฝุ่น สร้างสุขภาพที่ดีให้ผู้อยู่อาศัย Cooliving Designed Home นวัตกรรมบ้านเย็นเพื่อการหมุนเวียนอากาศภายในบ้าน Green Living การเพิ่มพื้นที่สีเขียว ช่วยคลายอุณหภูมิความร้อนและลดมลพิษภายในที่อยู่อาศัย และ Educational Playground สนามเด็กเล่นที่ช่วยเสริมสร้างทักษะและการเรียนรู้โดยร่วมมือกับโรงพยาบาลสมิติเวช“น้องแสนรู้” (SANROO) หุ่นยนต์พนักงานคนใหม่ของแสนสิริ ที่จะบอกเล่าและให้คำตอบเกี่ยวกับนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยของแสนสิริ นอกเหนือไปจากนั้น แสนสิริ ยังวางแผนที่จะใช้พื้นที่ของ SANSIRI GALLERY จัดกิจกรรมและเวิร์กช็อปเพื่อนำเสนอประสบการณ์ไลฟ์สไตล์แบบใหม่ที่จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดปี
THE CLOUD ยังมีโซนคาเฟ่และร้านอาหาร โดย THE COFFEE CLUB ที่นำเสนอ “Feel Good Menu” 10 เมนู สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งได้ เชฟเจมส์ แบรดบิวรี่ (James Bradbury) Global Head of Culinary ของ THE COFFEE CLUB เพื่อรังสรรค์เมนูดังกล่าวขึ้นใหม่เพื่อ THE CLOUD โดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับหมอผิง-พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล คุณหมอนักบริหารจากโรงพยาบาลสมิติเวช มาช่วยแนะนำและปรับเปลี่ยนวัตถุดิบบางส่วน สำหรับคนรักสุขภาพอย่างแท้จริง ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเมนูอาหารเหล่านี้ดีต่อสุขภาพ โดยเมนูไฮไลท์ ได้แก่ “Vegan Garden Burger” เบอร์เกอร์มังสวิรัติถั่วและผักโขมอบ ซึ่งเกิดจากเทรนด์ระดับโลกที่ให้ความสนใจกับการทานอาหารเพื่อสุขภาพ รวมถึงเบอร์เกอร์ที่ไม่ใช้เนื้อสัตว์ซึ่งยังหาทานได้ยากในประเทศไทย
นอกจากเมนูอาหารซิกเนเจอร์ที่รังสรรค์ขึ้นพิเศษแล้ว แสนสิริและ THE COFFEE CLUB ยังใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การออกแบบภายในร้านที่คำนึงถึงความสะดวกสบาย โดยเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานสะดวกไร้เหลี่ยมคม การตกแต่งโดยคุมโทนสีเอิร์ธโทนโดยผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำผึ้งที่ให้อารมณ์ผ่อนคลายและเป็นกันเอง รวมทั้งการควบคุมแสงและเสียงในร้านเพื่อให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายต่อทุกประสาทสัมผัส ทั้งหมดนี้ เพื่อให้ทุกก้าวย่างใน THE CLOUD ช่วยเติมเต็มให้ผู้ที่เข้ามาสัมผัสได้รู้สึกถึงการพักผ่อนและสุนทรียะในการใช้ชีวิตได้อย่างแท้จริง
“แสนสิริ หวังว่าการเปิดตัว THE CLOUD ในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งทัชพอยต์ที่ให้ลูกบ้านแสนสิริและคนทั่วไปได้เข้ามารับประสบการณ์ความเป็นอยู่แนวใหม่ในแบบของแสนสิริ และได้รู้จักกับความเป็นแสนสิริมากยิ่งขึ้น และหวังว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมสุขภาพอย่างยั่งยืนให้กับคนไทย โดยเราเชื่อว่า ภายในระยะเวลา 6 เดือนจนถึงสิ้นปี 2562นี้จะมีผู้เข้ามาสัมผัสความเป็น Well-being ในรูปแบบของแสนสิริกว่า 50,000 รายอันก่อให้เกิดการรักในแบรนด์และเปลี่ยนไปสู่การเป็นลูกค้าในที่สุด โดยเซลล์ เซ็นเตอร์ที่นำเสนอทุกโครงการของแสนสิริครั้งแรกในไทยก็จะมาช่วยให้ข้อมูลโครงการและทำให้การซื้อขายโครงการทำได้ง่ายขึ้น ” อภิชาติ กล่าวสรุป