ธุรกิจศูนย์การค้าไทย ครึ่งปีแรก พ.ศ.2567

ธุรกิจศูนย์การค้าไทย ครึ่งปีแรก พ.ศ.2567

ธุรกิจศูนย์การค้าฟื้นตัวได้ดีจากอานิสงส์ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2567 จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรวมประมาณ 35.99 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 88 ของจำนวนในปี พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนวิกฤติโควิด-19 

อุปทานเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับช่วงปลายปีจากการทยอยเข้าสู่ตลาดของโครงการ One Bangkok ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป โครงการทาวน์ชิพขนาดใหญ่จะเริ่มทยอยเข้าสู่ตลาด ซึ่งการพัฒนาโครงการดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการดึงดูดบริษัทข้ามชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย 

รายได้และกำไรของธุรกิจศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในไตรมาสแรกของปี รายได้จากศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 และกำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 31 โดยกลุ่มธุรกิจที่เป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการเติบโตนี้คือ กลุ่มฮาร์ดไลน์ อาหาร และแฟชั่น

สถานการณ์ศูนย์การค้าในช่วงปลายปี พ.ศ. 2567 คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในแง่อุปทานและอุปสงค์ เนื่องจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยังคงเป็นแนวโน้มขาขึ้น นอกจากนี้ ช่วงปลายปีเป็นช่วงของการเปิดตัวโครงการทาวน์ชิพขนาดใหญ่ เช่น โครงการ One Bangkok และการทยอยเปิดตัวโครงการ Dusit Central Park เพิ่มเติม การเปิดตัวโครงการขนาดใหญ่จะสามารถรองรับภาคอุปโภคบริโภคจากกลุ่มชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการเข้ามาลงทุนในกิจการ Data Centre ในไทยของบริษัทชั้นนำของโลก ซึ่งกลุ่มศูนย์การค้าจะได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายทั้งจากนักเดินทางธุรกิจและผู้พำนักระยะยาว (Expat) 

คาดการณ์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางกลับเข้าประเทศไทย 88% ในปีนี้

นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ณ กลางปี พ.ศ.2567 มีจำนวนสะสมทั้งหมด 17.5 ล้านคน โดยสถิติสูงสุดเป็นชาวจีน 3.43 ล้านคน รองลงมาเป็นชาวมาเลเซีย 2.43 ล้านคน ชาวอินเดีย 1.04 ล้านคน เป็นต้น โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี พ.ศ.2567 จะมีจำนวนประมาณ 35.99 ล้านคน หรือร้อยละ 88 ของปี พ.ศ.2562

 อุปทานพื้นที่เช่าธุรกิจศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 4

จำนวนอุปทานพื้นที่เช่าธุรกิจศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ ณ กลางปี พ.ศ.2567 มีจำนวนพื้นที่รวมประมาณ 3.2 ล้านตารางเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากช่วงปลายปีที่ผ่านมาจากการทยอยเข้าสู่ตลาดของโครงการ One Bangkok ส่วนพื้นที่ค้าปลีกสนับสนุนในโครงการมิกส์ยูส มีอุปทานรวมประมาณ 8.2 แสนตารางเมตร ซึ่งมีอุปทานใหม่เข้าสู่ตลาด เช่น โครงการ Gaysorn Village เป็นต้น
 

การเข้าสู่ตลาดของโครงการทาวน์ชิพขนาดใหญ่ สามารถรองรับบริษัทระดับ International firm ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป จะเป็นช่วงเวลาที่โครงการทาวน์ชิพขนาดใหญ่ เช่น One Bangkok, Dusit Central Park และ The Forestias ทยอยเข้าสู่ตลาด การพัฒนาโครงการทาวน์ชิพเหล่านี้เป็นแรงดึงดูดสำคัญที่ทำให้บริษัทข้ามชาติระดับ International firm ให้ความสนใจลงทุนในไทย รวมถึงการตั้งสำนักงาน และการซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัยในอนาคต ด้วยความพร้อมในทุกสภาพแวดล้อมของชีวิตทั้งช่วงเวลาทำงานและเวลาหยุดพักผ่อน

ปัจจุบันมีบริษัทชั้นนำของโลกหลายแห่งแสดงความสนใจเข้ามาลงทุนพัฒนา Data Centre ในไทย เช่น

  • Google ที่วางแผนลงทุนประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 35,000 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างงานกว่า 14,000 ตำแหน่งภายในปี พ.ศ. 2568-2572
  • Amazon/AWS ประกาศลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 190,000 ล้านบาท โดยจะเปิดตัว AWS Thailand Region ในต้นปี พ.ศ. 2568 และฝึกอบรมทักษะคลาวด์ให้คนไทยกว่า 100,000 คนภายในปี พ.ศ. 2569
  • Microsoft เตรียมจัดตั้ง Data Centre ในไทย ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะ AI ให้คนไทยกว่า 100,000 คนผ่านโครงการ AI Skill for the AI-enabled Tourism Industry และโครงการ AI Odyssey
  • และล่าสุด Nvidia มีแผนลงทุน Data Centre ในไทย และจะเดินทางมาประเทศไทยในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567
  • รวมถึง Equinix ผู้ให้บริการ Data Center ชั้นนำจากสหรัฐฯ ได้ประกาศลงทุน 16,500 ล้านบาทในประเทศไทยภายใน 10 ปี

อุปสงค์รายได้และกำไรของธุรกิจศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

จากการประเมินรายได้และกำไรสุทธิของผู้ประกอบการรายใหญ่ในธุรกิจศูนย์การค้าให้เช่าพบว่า ในไตรมาสแรก รายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 และกำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 31 ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจอาหารและแฟชั่นประมาณ 8%  ส่วนกำไร เพิ่มขึ้น 5%-9% จากกลุ่มฮาร์ดไลน์ อาหาร และแฟชั่น ขณะที่จำนวนผู้ใช้บริการชาวไทยและชาวต่างชาติกลับมาในระดับสูง ส่งผลให้อัตราการเช่าเพิ่มขึ้น ศูนย์การค้าบางแห่งขยายพื้นที่เช่าเพื่อเพิ่มรายได้ และมีการปรับค่าเช่าสำหรับสัญญาใหม่ขึ้นร้อยละ 1-3 ในปีนี้ 

แนวโน้ม

คาดว่าธุรกิจศูนย์การค้าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในแง่อุปทานและอุปสงค์ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ ส่งผลให้รายได้ของศูนย์การค้าเติบโตจากทราฟฟิกที่สูงขึ้น ทั้งในรูปแบบค่าเช่าแบบ Gross Profit และ Fix Rent นอกจากนี้ การทยอยเปิดตัวโครงการขนาดใหญ่ เช่น One Bangkok และ Dusit Central Park ซึ่งเริ่มต้นด้วยส่วนโรงแรมและจะครอบคลุมถึงพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ค้าปลีกในปีถัดไป จะช่วยกระตุ้นการบริโภคจากกลุ่มต่างชาติ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางเพื่อธุรกิจ (Business Trip) และผู้ที่ทำงานระยะยาวในไทย (Expat) การลงทุนจากบริษัท Data Centre ระดับโลกหลายแห่งจะเป็นอีกแรงสนับสนุนที่สำคัญให้กลุ่มศูนย์การค้าได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของผู้ใช้บริการ