ดีล สิงห์ เอสเตทให้เช่าระยะยาวทรัพย์สิน 3 รายการกับ SPRIME
เสริมแกร่งทางการเงินให้ สิงห์ เอสเตท พร้อมเพิ่มศักยภาพให้ SPRIME
สิงห์ เอสเตท เตรียมให้เช่าระยะยาวทรัพย์สินระดับพรีเมียม 3 รายการ ให้กับ SPRIME ด้วยมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 6,450 ล้านบาท สร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน หนุนศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง
ผู้จัดการกอง SPRIME มั่นใจทรัพย์สินทั้ง 3 รายการเพิ่มความหลากหลายของทรัพย์สิน (Diversification) พร้อมดันรายได้ SPRIME โตกว่า 1.5 เท่า เตรียมชงวาระ EGM เพื่ออนุมัติการเข้าลงทุนด้วยวงเงินสูงสุดไม่เกิน 7,283 ล้านบาท
กรุงเทพฯ – บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S ประกาศว่า ในวันที่ 7 มกราคม 2565 ที่ประชุมคณะกรรมการสิงห์ เอสเตท มีมติอนุมัติธุรกรรมให้เช่าระยะยาวอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกระดับพรีเมียมของบริษัท 3 อาคารเพิ่มเติม ประกอบด้วย (1) อาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ (2) อาคารเมโทรโพลิศ (3) พื้นที่ค้าปลีกในอาคารซันทาวเวอร์ส ด้วยพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 130,000 ตารางเมตร และพื้นที่ให้เช่ารวมกว่า 64,000 ตารางเมตร แก่กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอส ไพรม์ โกรท (“SPRIME”) ที่มูลค่าไม่ต่ำกว่า 6,450 ล้านบาท อีกทั้งอนุมัติให้ สิงห์ เอสเตท จองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนของ SPRIME ไม่ต่ำกว่า 15% ของจำนวนหน่วยทรัสต์ของ SPRIME ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ด้วยวงเงินสูงสุดไม่เกิน 3,701.59 ล้านบาท
นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดเผยว่า ด้วยศักยภาพของทำเลที่ตั้ง การบริหารจัดการพอร์ตลูกค้าให้สมดุลอย่างสม่ำเสมอ การปรับปรุงทรัพย์สินให้ทันสมัย ตลอดจนการนำเสนอโมเดลธุรกิจใหม่ๆเพื่อสอดรับกับความต้องการของผู้เช่าที่เปลียนแปลงไป ส่งผลให้อัตราการเช่าพื้นที่ของอาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ อาคารเมโทรโพลิศ และพื้นที่ค้าปลีกในอาคารซันทาวเวอร์ส สูงถึง 94.4%, 82.7% และ 96.5% ตามลำดับ
การนำทรัพย์ทั้ง 3 รายการเข้ากอง SPRIME ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ต่อจากความสำเร็จของบริษัทที่ให้เช่าระยะยาวพื้นที่อาคารสำนักงานของอาคารซันทาวเวอร์ส กับกอง SPRIME ในช่วงต้นปี 2562 และเป็นไปตามกลยุทธ์บริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอของบริษัท ที่จะมีการ Recycle capital สร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน เพื่อรองรับการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการต่อยอดธุรกิจปัจจุบันของบริษัท ทั้งส่วนของอาคารสำนักงาน การรุกธุรกิจบ้านแนวราบที่มีความต้องการที่แข็งแกร่ง และการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมรองรับการย้ายฐานการผลิตอันเป็นผลจากสงครามการค้า รวมไปถึงแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นที่มั่นคงยั่งยืนต่อไป พร้อมทั้งการเข้าจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนเพื่อดำรงสัดส่วนการถือหน่วยทรัสต์ใน SPRIME
นายเกตุกร เขมธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส รีท แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ SREIT ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ SPRIME กล่าวว่า ทรัพย์สินที่ SPRIME เข้าลงทุนเพิ่มในครั้งนี้ถือว่ามีคุณภาพสูง เนื่องจากตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพสูงที่มีการคมนาคมสะดวก ใกล้โครงการรถไฟฟ้าหลายสาย ที่สำคัญห่างออกมาจากใจกลาง CBD ซึ่งคาดว่าจะมีภาวะแข่งขันที่รุนแรงเนื่องจากอาคารขนาดใหญ่ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า นอกจากนี้อัตราการเช่าพื้นที่ของทั้ง 3 อาคารปัจจุบันอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะทำให้อัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากการมีอาคารซันทาวเว่อร์สซึ่งเป็นทรัพย์ปัจจุบันเพียงชิ้นเดียวของ SPRIME
SREIT ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ SPRIME คาดว่าการเข้าลงทุนเช่าระยะยาว (1) อาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ ซึ่งตั้งอยู่ที่แยกอโศก-เพชรบุรี เป็นเวลา 30 ปี โดย SREIT เชื่อมั่นว่าทรัพย์ชิ้นนี้จะเป็นทรัพย์สินเรือธงของ SPRIME ในระยะข้างหน้า (2) อาคารเมโทรโพลิศ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ใกล้กับห้างเอ็มควอเทียร์ เป็นเวลา 23 ปี 27 วัน และ (3) พื้นที่ค้าปลีกในอาคารซันทาวเวอร์ส ซึ่งตั้งอยู่บนนถนนวิภาวดี ใกล้กับห้าแยกลาดพร้าว เป็นเวลา 26 ปี 6 เดือน 17 วัน ไม่เพียงดันรายได้ของ SPRIME ให้เติบโตได้กว่า 1.5 เท่า แต่ยังจะช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอผ่านความหลากหลายของทำเล ประเภทอาคาร และกลุ่มผู้เช่า นอกจากนี้ การที่ SPRIME เรียกเพิ่มทุนเพื่อเข้าซื้อทรัพย์สินในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกหลังจากจัดตั้ง SPRIME และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต้นปี 2562 ส่งผลให้ขนาดกองทรัสต์ขยายใหญ่ขึ้น หนุนให้สภาพคล่องในตลาดรองของหน่วยทรัสต์ SPRIME เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ในวันที่ 7 มกราคม 2565 ที่ประชุมคณะกรรมการ SREIT มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหน่วยทรัสต์ SPRIME เพื่อพิจารณาอนุมัติการลงทุนในทรัพย์สินทั้ง 3 รายการดังกล่าวด้วยมูลค่าเงินลงทุนไม่เกิน 7,283 ล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากการเพิ่มทุนโดยการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม ไม่เกิน 663,000,000 หน่วย ตลอดจนการกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ และ/หรือสถาบันการเงิน อย่างไรก็ดีกำหนดการประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ดังกล่าว คือวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 13.30 น. ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์