‘ASW’ กวาดยอดขาย 9 เดือนแตะ 11,784 ล้านบาท คิดเป็น 79% ของเป้าทั้งปี
สะท้อนตลาดฟื้นปรับเป้าเปิดปีนี้เป็น 15 โครงการ มูลค่ากว่า 30,460 ล้านบาท
บมจ.แอสเซทไวส์ หรือ ASW แรงไม่หยุด ล่าสุดอวดผลงานยอดขาย 9 เดือนแรก 2566 กวาดยอดขาย (Pre-Sale) รวมแตะ 11,784 ล้านบาท คิดเป็น 79% ของเป้า มั่นใจทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมาย 15,000 ล้านบาท ลุยปรับแผนรับเศรษฐกิจฟื้นตัวได้รัฐบาลใหม่ เปิดโครงการเพิ่มจากเดิมทั้งปี 12 โครงการเป็น 15 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 30,460 ล้านบาท เผยไตรมาส 4/2566 เตรียมเปิดอีก 5 โครงการใหม่ รวมมูลค่าโครงการ 11,550 ล้านบาท
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) ปี 2566 บริษัทฯ มียอดขายสะสมรวม (Presale) ประมาณ 11,784 ล้านบาท คิดเป็น 79% ของเป้ายอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ 15,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ สำหรับโครงการหลักที่ผลักดันยอดขายให้มีการเติบโตอย่างน่าพึงพอใจในไตรมาส 3/2566 คือ โครงการโมดิซ อาวองการ์ด (Modiz Avantgarde) ซึ่งเป็น Campus Condo โครงการใหม่ใกล้ ม.ธรรมศาสตร์ จำนวน 751 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท ที่สามารถปิดการขายได้ทั้งหมดหลังจากที่เปิดการขายเพียงไม่นาน เป็นการตอกย้ำว่า ASW เป็นผู้นำตลาด Campus Condo อย่างแท้จริง ด้วยจุดเด่นทางด้านทำเล ราคาที่เหมาะสม และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตลคนรุ่นใหม่ถึงกว่า 40 รายการ
ทั้งนี้ เชื่อว่าสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2566 นี้ เป็นต้นไปจะมีความคึกคักเป็นอย่างมาก จากแนวโน้มนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ที่จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดนโยบายเรื่องฟรีวีซ่า สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถาน ได้ส่งสัญญาณต่อการฟื้นตัวของภาคธุรกิจโรงแรมที่ดี รวมถึงตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก รวมทั้งตลาดบ้านพักตากอากาศ ซึ่งภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีความสัมพันธ์โดยตรงกับภาวะเศรษฐกิจ โดยหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ระบุว่าหากรัฐบาลชุดใหม่เข้าบริหารประเทศ เศรษฐกิจไทยจะเติบโตตามเป้าหมายได้เกิน 3.0% ถ้าเศรษฐกิจเติบโตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตตามไปด้วย โดยน่าจะเห็นแนวโน้มที่ดีอย่างชัดเจนตั้งแต่ปลายปี 2566 จนถึงต้นปี 2567
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อว่า จากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดี อุปสงค์ที่มีการฟื้นตัว และเล็งเห็นศักยภาพในหลายๆ ทำเล บริษัทฯ จึงได้ปรับแผนเปิดโครงการใหม่เพิ่มจากเดิม 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,500 ล้านบาท เป็น 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 30,460 ล้านบาท โดยในไตรมาส 4/2566 จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 5 โครงการ รวมมูลค่า 11,550 ล้านบาทได้แก่ 1.เคฟ วันเดอร์แลนด์ (Kave Wonderland) 1,424 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,550 ล้านบาท 2.แอทโมซ แคนวาส ระยอง (Atmoz Canvas Rayong) 674 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,250 ล้านบาท 3.โมดิซ โวยาด ศรีนครินทร์ (Modiz Voyage Srinakarin) 813 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,600 ล้านบาท 4.เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทา (THE TITLE LEGENDARY BANGTAO) 637 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,750 ล้านบาทและ 5.เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี ในยาง (THE TITLE LEGENDARY NAIYANG) 103 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท โดยจะทยอยเปิดโครงการอย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง ASW ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 54 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA) และ แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมมูลค่าโครงการกว่า 63,200 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 38 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 16 โครงการ ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 14,513 ล้านบาท