FTE ตั้งเป้ารายได้ปี 64 ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ปรับกลยุทธ์เชิงรุก
ขยายฐานลูกค้าเอกชน รักษามาร์เก็ตแชร์อับดับหนึ่ง
FTE ตั้งเป้ารายได้ปี 64 ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรสุทธิไม่น้อยกว่า 10% ปรับกลยุทธ์เชิงรุก มุ่งเน้นภาคเอกชน เจาะกลุ่มโรงงาน ศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ เพิ่มทีมขาย แตกไลน์สินค้า สร้างโอกาสการแข่งขัน ครองแชมป์มาร์เก็ตแชร์อับดับหนึ่ง เผย Backlog 400 ล้านบาท พร้อมกวาดงานประมูลต่อเนื่อง
นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (FTE) ผู้นำธุรกิจนำเข้าและจำหน่าย บริการออกแบบ รับเหมาติดตั้ง ซ่อมแซม ตรวจสอบอุปกรณ์-ระบบดับเพลิงครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไม่ต่ำกว่า1,000 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 10 % สัดส่วนรายได้แบ่งเป็นงานเอกชน 75% และภาครัฐ 25%
แผนการดำเนินงานในปีนี้มุ่งเน้นกลยุทธ์เชิงรุก เจาะกลุ่มลูกค้าภาคเอกชนเพิ่มรายได้ทดแทนงานส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัว ประกอบด้วย 1. การขยายฐานลูกค้างานรับเหมาออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ศูนย์คอมพิวเตอร์ดาต้าเซ็นเตอร์ 2.โรงงานประกอบเครื่องสูบน้ำดับเพลิง (Fire pumps) สามารถดำเนินการได้ในปีนี้ โดยผลิตสินค้าที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน ส่งมอบสินค้าได้ตามกำหนดหรือเร็วกว่ากำหนด และต่อยอดไลน์สินค้าในอนาคต 3.อุปกรณ์สำหรับศูนย์คอมพิวเตอร์ดาต้าเซ็นเตอร์ ที่มองว่าจะมีการเติบโตในปีนี้
สำหรับงานในส่วนของภาครัฐ เน้นการรับงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อาทิ งานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงสถานีไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. งานปรับปรุงระบบดับเพลิงในสถานบริการด้านสาธารณสุขทั้งภาครัฐและเอกชน งานปรับปรุงระบบดับเพลิงสนามบินทั่วประเทศ และเตรียมความพร้อมในการยื่นประมูลงานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟรางคู่
นอกจากนี้ บริษัทได้เพิ่มประสิทธิภาพด้านงานขาย โดยเพิ่มทีมขายที่มีความเชี่ยวชาญ อีกทั้งมีแผนที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการใช้งานของกลุ่มลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน
“ภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ยังมีความเสี่ยงเรื่องความล่าช้าของโครงการภาครัฐ และการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ บริษัทจึงมุ่งเน้นเข้ารับงานในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโต ซึ่งเชื่อว่ากลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้ ประกอบกับความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนของบริษัทจะสามารถรักษาอัตราการเติบโต และอัตราการทำกำไรได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมรักษาความเป็นผู้นำตลาดอันดับหนึ่ง” นายทักษิณ กล่าว
สำหรับมูลค่างานในมือ (Backlog) ปัจจุบันอยู่ที่ 400 ล้านบาท แบ่งเป็นงานจัดจำหน่าย 100 ล้านบาท งานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง 300 ล้านบาท และยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างรอผลพิจารณางานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง ซึ่งมีโอกาสได้งานสูงอีกมูลค่าโดยรวมประมาณ 450 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเข้าประมูลงานของทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง