บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำตามแนวเส้นรถไฟฟ้า เตรียมระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ MAI พร้อมก้าวกระโดดสู่หนึ่งในผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยซึ่งมีความโดดเด่นในที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียม เพื่อรองรับลูกค้าให้ได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย
นายแพทย์วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในการเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร โดยโครงการของบริษัทฯ จะเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีลักษณะโดดเด่น และให้ความคุ้มค่าสูง โดยบริษัทฯประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยมากว่า 24 ปี ซึ่งบริษัทฯมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ภายใต้แบรนด์ที่ได้รับการยอมรับอย่างดี ได้แก่ ชาโตว์ อินทาวน์ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสำหรับคอนโดมิเนียมประเภท Low-Rise นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ แบงค์คอก ฮอไรซอน และแบงค์คอก เฟลิซ บริษัทฯยังพัฒนาโครงการทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยวระดับพรีเมี่ยม ภายใต้แบรนด์ คาซ่า ยูเรก้า, คาซ่า ดีว่า และ เดอะ ริช พร้อมมุ่งเน้นพัฒนาโครงการตามแนวเส้นทาง โครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ล่าสุดบริษัทฯได้เตรียมเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ MAI ภายในไตรมาส 4 ของปี 2561 นี้ เพื่อก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย
“ ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯมีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง และสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงมาโดยตลอด โดยบริษัทฯมีรายได้รวม 1,525 ล้านบาทในปี 2560 , 2,091 ล้านบาท ในปี 2559 และ1,419 ล้านบาท ในปี 2558 โดยมีกำไรขั้นต้น 634 ล้านบาทในปี 2560, 879 ล้านบาท ในปี 2559 และ 558 ล้านบาทในปี 2558 และมีกำไรสุทธิ 127 ล้านบาท ในปี 2560 , 156 ล้านบาท ในปี 2559 และ 47 ล้านบาทในปี 2558 ตามลำดับ
นายแพทย์วิเชียร กล่าวเสริมว่า “ปัจจุบันบริษัทฯมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ซึ่งสร้างเสร็จพร้อมโอน 25 โครงการ มูลค่าคงเหลือกว่า 3,800 ล้านบาท ซึ่งสามารถโอนรับรู้รายได้ได้ทันทีและมีโครงการระหว่างก่อสร้างอีก 3 โครงการ มูลค่าประมาณ 2,800 ล้านบาท ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ 1 โครงการ และจะแล้วเสร็จในปี 2562 จำนวน 2 โครงการ คาดว่าโครงการเหล่านี้จะสร้างผลกำไรและการเติบโตให้แก่บริษัทฯอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีโครงการที่จะพัฒนาเพิ่มเติมตามแผนปัจจุบันอีกทั้งหมด 10 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี
ขณะนี้ CMC มีทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นทุนที่ชำระแล้ว 750 ล้านบาท และมีแผนจะระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวน 250,000,000 หุ้น (พาร์ 1 บาท/หุ้น) หรือคิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด เสนอขายต่อนักลงทุน ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยบริษัทฯ มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปซื้อที่ดิน และใช้ในการลงทุนโครงการใหม่ ตลอดจนเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการเงิน จากปัจจุบันมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ประมาณ 2 เท่าให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น และเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานเพื่อต่อยอดความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ และ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ ผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างต่อเนื่อง”
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CMC Group กล่าวว่า “เรามั่นใจว่าหุ้นไอพีโอของ CMC จะได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทฯมีพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง คณะผู้บริหารมีประสบการณ์ความสำเร็จที่พิสูจน์แล้วมาร่วม 24 ปี และมีแผนการรับรู้รายได้จากการดำเนินธุรกิจที่ดี ซึ่งการเข้าจดทะเบียนของ CMC ในครั้งนี้คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนด้านการเงินของบริษัทฯลงและทำให้ผลการดำเนินงานแข็งแกร่งขึ้น และจะเป็นหุ้นอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางที่พร้อมจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้นักลงทุนได้อย่างแน่นอน”