สร้างสมดุลระหว่าง“ชีวิตกับธุรกิจ” ของคนรุ่นใหม่
ด้วย HOME OFFICE สไตล์ Modern Luxury
บนทำเลที่ดีที่สุดถนนเอกมัย -รามอินทรา
แรงบันดาลใจสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ บนโลกเกิดขึ้นได้จากทุกสิ่งรอบตัวเรา และทุกคนมักใช้แรงบันดาลใจเป็นแรงผลักดันให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ARCO เปรียบเหมือนจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจ และความสมดุลระหว่าง“ชีวิตกับธุรกิจ” ที่เกิดจากการสร้างสรรค์ ผสมผสานคำว่า บ้านและออฟฟิศ เข้าไว้ในที่เดียวกันอย่างลงตัว เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีออฟฟิศที่มีดีไซน์ ทันสมัย หรูหราและสามารถเป็นที่พักอาศัยได้ ซึ่งปัจจุบันมีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่ม คนทำงานครีเอทีฟ ที่ทำงานด้านศิลปะ การออกแบบ Production Houses / Studio หรือปัจจุบันเรียกว่ากลุ่ม Start up และ SMEs เป็นต้น
ARCO ( Home.Office.Life) เอกมัย-รามอินทรา HOME OFFICE สไตล์ Modern Luxury
ARCO (Home.Office.Life) เอกมัย-รามอินทรา เป็นโครงการโฮมออฟฟิศใหม่ล่าสุดสไตล์ Modern Luxury เน้นความหรูหรา ทันสมัย และความเป็นครีเอทีฟ เพราะเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจใหม่ ที่ได้ชื่อว่าเป็น “Creative Area” โครงการตั้งอยู่ ด้านหลัง Chic Republic ซอยโยธินพัฒนา 11 ใกล้กับ CDC Crystal Design Center พัฒนาโดยบริษัท รีโว เอสเตท จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ The Revo ลาดพร้าว 48 โครงการคอนโดโลว์ไลฟ์ สูง 5 ชั้นย่านรัชดาภิเษก สุทธิสาร โดย ARCO Home Office เอกมัย-รามอินทรา เป็นโครงการที่สองที่บริษัทฯ ได้พัฒนาขึ้น โดยมีสถาปนิกชื่อดังอย่าง นายพจน์ สุยะสินธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทออกแบบชื่อดัง REP. (Real Estate Planning Consultants Co., Ltd.) เป็นผู้ออกแบบโครงการ พร้อมด้วยอินทีเรียดีไซน์คนดังอย่าง นายณัฐวุฒิ ชัยนะเลิศวงศ์ หรือต้อบ จากบริษัท IS Innovative Studio ทำหน้าที่ในการออกแบบและตกแต่งภายใน ทำให้โครงการ ARCO Home Office เอกมัย-รามอินทรา มีความโดดเด่น หรูหรา ทันสมัยและแตกต่างจากโครงการอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด
นายพจน์ สุยะสินธุ์ สถาปนิกชื่อดังของเมืองไทย กรรมการผู้จัดการบริษัทออกแบบชื่อดัง REP. ผู้ออกแบบโครงการ ARCO (Home.Office.Life) เอกมัย-รามอินทรา กล่าวถึงแนวคิดการออกแบบโครงการนี้ว่า เนื่องจากโครงการเป็นโฮมออฟฟิศ โดยกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่ม Start up และ SMEs ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ ดังนั้นแนวคิดในการออกแบบจึงเน้น Function ให้มีความหลากหลาย เช่น ชั้นล่างมีที่จอดรถได้มากถึง 6 คัน และสามารถปรับใช้พื้นที่ด้านหลังอาคารเป็นสวนผักผ่อนได้ หรือใช้เป็นออฟฟิศและพักอาศัย หากถ้าลูกค้าต้องการทำเป็นที่พักอาศัยอย่างเดียว หรือทำเป็นออฟฟิศทั้งหลังก็สามารถรับได้ เพราะการออกแบบเรา Flexible ในแง่การวางฟังก์ชั่น ส่วนรูปแบบภายนอกอาคารหรือสถาปัตยกรรม เราเน้นความทันสมัย สไตล์ Modern Design เพราะอาคารย่านนี้ส่วนใหญ่เน้นแข่งขันกันในเรื่องรูปร่างหน้าตา
แต่อย่างไรก็ตามในแง่จุดขาย สถาปนิกชื่อดัง ให้สำคัญกับความ Flexible ในเรื่องการจัดการที่อยู่อาศัยพร้อมกับธุรกิจไปด้วยกันได้ เสริมด้วยสิ่งที่เรามองว่าธุรกิจกับที่อยู่อาศัยยังต้องมีความสวยงาม ความสะดวกสบาย โดยเฉพาะส่วนที่เป็น Courtyard สวนด้านหลังที่สร้างขึ้นมาเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับเจ้าของธุรกิจ พนักงานในออฟฟิศ และความหรูหราซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของผู้เป็นเจ้าของ
สำหรับ ARCO (Home.Office.Life) เอกมัย-รามอินทรา เป็นโครงการโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น สไตล์ Modern Luxury ซึ่งพัฒนาบนที่ดิน 3 ไร่กว่า มีจำนวน 25 ยูนิต ถนนเมนกว้าง 11 – 14 เมตร ตัวอาคารพัฒนาบนที่ดิน 23.5 – 41.5 ตารางวา โดยมีให้เลือก 3 แบบ คือ แบบ A หน้ากว้าง 6 เมตร พื้นที่ใช้สอย 275 ตารางเมตร แบบ B หน้ากว้าง 7.7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 365 ตารางเมตร และแบบ C หน้ากว้าง 8.7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 395 ตารางเมตร ตัวอาคารจัดแบ่ง Function สามารถจอดรถส่วนตัวได้ 4 – 6 คัน
สำหรับการตกแต่งภายใน นายณัฐวุฒิ ชัยนะเลิศวงศ์ หรือต้อบ ในฐานะอินทีเรียดีไซน์ผู้ตกแต่งภายในจากบริษัท IS Innovative Studio เล่าให้ฟังว่าการตกแต่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากมหานครนิวยอร์ก ที่มีการแบ่งการปกครองซึ่งเรียกว่า “BOROUGH (โบโร) แต่ละเขตมีความแตกต่างกัน หลากหลายในเชื้อชาติ หลากหลายการใช้ชีวิต หลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นศิลปะ ดนตรี หรือแม้แต่อาหาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้มาจากวิถีชีวิตแห่งผู้คนเหล่านั้น จึงทำให้สถานที่แห่งนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ มีชีวิตชีวาอยู่ตลอดเวลา ผู้คนที่ได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้จึงได้รับแรงบันดาลใจใหม่ ๆ เกิดแนวคิดใหม่ ๆ จึงได้ที่มาของคอนเซ็ปต์ CREATIVE BOROUGH ซึ่งเป็นการผสมผสานเอกลักษณ์และ ความหลากหลายมาทำให้เกิดมุมมอง หรือ SPACE ที่มีความแตกต่างกัน ก่อให้เกิดจังหวะที่มีเอกลักษณ์ รู้สึกถึงความสร้างสรรค์ ไม่น่าเบื่อ ขณะเดียวก็ให้ความรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวในบรรยากาศที่มีความผ่อนคลาย
Courtyard ด้านหลัง สามารถใช้ประโยชน์เป็นที่นั่งพักผ่อนของพนักงาน หรือนั่งทำงานแบบ Hot Desk ตามรูปแบบการทำงานของออฟฟิศยุคใหม่ ที่ไม่ต้องมีโต๊ะทำงานประจำ สามารถนั่งทำงานที่ไหนก็ได้
พื้นที่ส่วนทำงานสำหรับพนักงานในชั้น 2
การออกแบบภายในแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง โดยบริเวณชั้น 2 เน้นเป็นพื้นที่ออฟฟิศ ทำงาน Active ประกอบด้วยห้องทำงานที่ตกแต่งตามสไตล์คนทำงานครีเอทีฟ (Creative) ใช้ความโค้งของแนวสถาปัตยกรรมของโบโร (BOROUGH) มาเบรกโครงสร้างที่เป็นเส้นตั้งๆ ผสมผสานความเป็น Loft ด้วยผนังที่ทำจากอิฐสีแดงเป็นลวดลาย และ WALLPAPER โดดเด่นด้วยลายที่น่าจดจำ ผสมความ Modern ของการใช้เฟอร์นิเจอร์ นอกจากนี้ยังมีห้องประชุมเล็ก ๆ ที่นั่งสบาย ๆ ชิลล์ ๆ พิเศษโดดเด่นด้วยบันไดเหล็กด้านหลังที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้น 2 ซึ่งได้แรงบันดาลใจจาก TOWNHOME ใน MANHATTAN ส่วนด้านล่างเป็นสวนหลังบ้าน ซึ่งจัดเป็น OUTDOOR GARDEN สำหรับเป็นมุมพักผ่อนให้กับคนทำงานที่ช่วยทำให้ออฟฟิศมีชีวิตชีวา ทั้งระหว่างวันและหลังเลิกงาน เช่นสามารถจัดปาร์ตี้ หรือรับประทาน นั่งคุย สังสรรค์กันเป็นต้น นอกจากนี้ด้านหลังอาคารยังตกแต่งลวดให้มีกลิ่นอายของตึกในนิวยอร์กเพิ่มด้วย รวมทั้งเพิ่มความสะดวกสบายด้วยมุมพักผ่อน และห้องน้ำด้านนอกอาคารที่แบ่งแยกชาย-หญิง เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว และเหมาะสำหรับการเป็นออฟฟิศอีกด้วย
ชั้น 3 พื้นที่ทำงาน ออกแบบเป็นห้องทำงานผู้บริหาร มีส่วนเตรียมอาหารเพื่อรองรับการพักอาศัยที่เชื่อมต่อกับชั้น 4
บริเวณชั้น 3 ให้ความรู้สึกเป็นทั้งออฟฟิศและที่พักอาศัย โดยแบ่งพื้นที่เป็นโต๊ะทำงานสำหรับผู้บริหาร พร้อมโต๊ะประชุมเล็กๆ สำหรับพูดคุยเรื่องสำคัญ และยังจัดแบ่งด้านข้างเป็นห้องรับประทานอาหารและพื้นที่สำหรับจัดเตรียมอาหาร โดยมีฉากกระจกกั้น สามารถปิด-เปิดเพื่อให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของเจ้าของได้ตามสะดวก
ชั้น 4 พื้นที่พักอาศัย เปิดพื้นที่เชื่อม Living กับ Master Bedroom ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นเพนเฮ้าส์ และทำให้ได้พื้นที่การใช้สอยที่กว้างขวางมากขึ้น
บริเวณชั้น 4 จัดพื้นที่พักอาศัย เน้นการเปิดพื้นที่เชื่อม Living กับ Master Bedroom ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นเพนเฮ้าส์ และทำให้ได้พื้นที่การใช้สอยที่กว้างขวางมากขึ้น ส่วนเรื่องสไตล์การตกแต่ง เพิ่มให้ดู Luxury แต่ก็ยังความ Creative ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งาน+การใช้วัสดุ เพิ่มลูกเล่นให้กับห้อง
นอกจากนี้การตกแต่งภายในยังเน้นวัสดุที่มีแปลกตาอย่าง วอลเปเปอร์ที่มีลวดลายแปลกเช่น วอลเปเปอร์รูปสีหยด ทำให้ดูมีศิลปะและน่าจดจำ การผสมผสานG/S GDD MIRROR ให้บรรยากาศดู Luxury รวมถึงการใช้วัสดุที่มีพื้นผิวและให้บรรยากาศ แนว Loft แบบโกดังเก่า จึงใช้อิฐสีแดงจริงนำมาตกแต่ง และเพิ่มความอบอุ่นด้วยการใช้งานไม้พ้นสี การใช้ลามิเนตลายไม้ รวมทั้งการใช้กระจกใส และกระจกเงา เพื่อเพิ่มมิติให้กับห้อง จุดเด่นอีกประการที่ทำให้การออกแบบดูมีสไตล์ เป็นงานครีเอทีฟ คือการใช้สีทอง ดำ เทา โดยเลือกใช้วัสดุที่ตัดกันอย่างเหล็กสีทอง หินสีเทาดำมาจัดวางในเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ให้เกิดภาพความหรูหรา น่าสนใจขึ้นมากเป็นต้น
สำหรับเคล็ดลับในการทำงานออกแบบภายในที่ทำให้บริษัท IS Innovative Studio เป็นที่ยอมรับของลูกค้าเสมอมาตลอด 14-15 ปี คุณต้อบบอกว่า การสร้างสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาเสมอ
“ผมจะบอกทีมงานเสมอว่า อะไรเก่าๆ ที่เคยทำแล้วมันเวิร์คแล้วเราไม่ทำนะ ทุกๆ งานเป้าหมายเราคือ “ความใหม่” แล้วเราก็รอที่จะเห็น เพื่อให้ทุกครั้งมีการก้าวเดินไปข้างหน้าเสมอ นี่คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าชื่นชอบ อีกอย่างเพราะเราตรงและใส่ใจกับการทำงานจริงๆ งานออกแบบเราไม่ได้ออกมาเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ต้องสามารถสร้างความภูมิใจให้กับลูกค้าได้ ดังนั้น เราจึงต้องพยายามศึกษาลูกค้าเยอะๆ และสร้าง Gimmick ใหม่ ๆ ไปนำเสนอทุกครั้ง”
เช่นเดียวกับโครงการ ARCO ( Home.Office.Life) เอกมัย-รามอินทรา นี้หากมองไปแต่ละจุดจะพบกับความแปลกใหม่ ความละเอียด ประณีตของการออกแบบภายในได้ทุกมุม ซึ่งทำให้การออกแบบและตกแต่งภายในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อใช้งาน หรือความสวยงาม และยังเป็นการสร้างความภูมิใจให้กับผู้ครอบครองอีกด้วย
แรงบันดาลใจสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ในชีวิตการทำงานและพักอาศัย ARCO ( Home.Office.Life) เอกมัย-รามอินทรา โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น พร้อมที่จอดรถส่วนตัว 4-6 คัน และระบบบ้านอัจฉริยะ Smart Home Automation