“มั่นคงฯ” ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคจับมือ “AIS Fibre”
มอบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงฟรี นาน 12 เดือน เริ่มวันนี้
“มั่นคงเคหะการ” พร้อมตอบโจทย์ New Normal จับมือพันธมิตร “AIS Fibre” จัดแคมเปญสุดเอ็กซ์คลูซีฟ Work From Home เวิร์คติดสปีด มอบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ผ่านเทคโนโลยีไฟเบอร์ออพติก 100% ฟรี!! นานถึง 12 เดือน สำหรับลูกค้ามั่นคงฯ ทั้ง 9 โครงการคุณภาพบนทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ เริ่มตั้งแต่วันนี้
นายศักดินา แม้นเลิศ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบริหารโครงการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) (Mr. Sakdina Manlerd, Senior Executive Vice President of Project Management, M.K. Real Estate Development Plc.) หรือ MK บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขาย เพื่อเช่าและบริการ เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโลกครั้งยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ถูก Disrupt อย่างชัดเจน เกิด New Normal จากการปรับตัวของผู้บริโภคเกี่ยวกับพฤติกรรมการอยู่อาศัย ส่งผลให้ผู้ประกอบการต่างต้องศึกษาถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า เพื่อปรับแผนการดำเนินงาน ปรับรูปแบบสินค้าให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงได้มากที่สุด
“ในส่วนของ มั่นคงฯ จากการดำเนินงานที่ผ่านมา ที่ยึดหลักภายใต้แนวคิด “การมีสุขภาวะองค์รวมที่ดี” (Well-being) ผนวกการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคหลังได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว ทำให้ตัวเราต้องปรับตัวและใส่ใจในด้านสุขภาวะของลูกค้าเพิ่มมากยิ่งขึ้น พัฒนาจาก Pain Point สู่ New Normal เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงสุด และสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครอบคลุมรอบด้าน”
นายศักดินา กล่าวต่อไปว่า “จาก Pain Point ที่หลายๆ คนต้องทำงานจากที่บ้าน (Work from home) เนื่องด้วยต้องเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) และต้องกักตัวอยู่กับบ้าน (Quarantine) เพื่อเป็นการช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พบว่าเกิดการใช้อินเตอร์เน็ตมากขึ้น และเพื่อเป็นการตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว ล่าสุดบริษัทฯ ได้จับมือกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบ้านคุณภาพสูงอย่าง AIS Fibre จัดแคมเปญพิเศษ Work From Home เวิร์คติดสปีด มอบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสุด ฟรี!! สำหรับลูกค้าที่ซื้อโครงการบ้าน บนทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ เท่านั้น ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
ด้าน นายศรัณย์ ผโลประการ หัวหน้าฝ่ายงานบริหารธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ เอไอเอส (Mr. Saran Phaloprakarn, Head of Fixed Broadband Business) กล่าวว่า “จากผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงและความต้องการของลูกค้า ที่อินเทอร์เน็ตบ้านเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ต้องทำกิจกรรมต่างๆ ผ่านทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Work from Home หรือ Learn from Home ทั้งยังสามารถรับชมความบันเทิงบนโลกออนไลน์ได้อย่างไร้ขีดจำกัดอีกด้วย เราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจาก มั่นคงฯ ให้ AIS Fibre ได้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งมอบประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูง สัญญาณแรง ไม่มีสะดุด จากเทคโนโลยีไฟเบอร์แท้ 100% ผ่านแคมเปญสุดเอ็กซ์คลูซีฟพร้อมใช้งานได้ทันทีให้แก่ลูกค้าบ้านของมั่นคงฯ ฟรี!! ถึง 12 เดือน ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยคุณภาพของเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตบ้านที่ล้ำสมัยของ AIS Fibre พร้อมบริการมาตรฐาน AIS จะสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี”
AIS Fibre คือ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตบ้านที่เร็วที่สุดในไทย (Thailand’s Fastest Fixed Network) การันตีด้วยรางวัลระดับโลกจาก Ookla® Speedtest® (ผู้ให้บริการทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตอันดับต้นของโลก) AIS Fibre มุ่งเน้นให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การใช้อินเทอร์เน็ตบ้านที่ดีที่สุดในทุกมิติ เพื่อสร้างสรรค์บริการและมาตรฐานใหม่ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “เร็วกว่า ดีกว่า ง่ายกว่า (Forward, Better, Simple)” มุ่งพัฒนาเพื่อสามารถตอบสนองลูกค้าให้ใช้อินเทอร์เน็ตบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งในเรื่องคุณภาพและบริการ เพราะการใช้อินเทอร์เน็ตบ้าน เป็นการใช้งานระยะยาว เพื่อให้ทุกคนในบ้านได้รับประสบการณ์เชื่อมต่อโลก Online ที่ดีร่วมกัน การเลือกผู้ให้บริการที่ให้คุณภาพและบริการที่ดีที่สุด จะทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับประสบการณ์คุณภาพจากเน็ตบ้านที่ดีที่สุดอย่างไร้กังวลแน่นอน
สำหรับโครงการที่เข้าร่วมแคมเปญ Work From Home เวิร์คติดสปีด จำนวน 9 โครงการกว่า 200 ยูนิต ได้แก่ ชวนชื่น ทาวน์ บางใหญ่, ชวนชื่น ทาวน์ แก้วอินทร์-บางใหญ่, ชวนชื่น ทาวน์ ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ, ชวนชื่น ทาวน์ ราชพฤกษ์-345, ชวนชื่น ทาวน์ รังสิต-คลอง 1, ชวนชื่น ทาวน์ วิลเลจ บางนา, ชวนชื่น ไพร์ม วิลล์ กรุงเทพ ปทุมธานี และ ชวนชื่น ไพร์ม วิลเลจ บางนา สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mk.co.th หรือ โทร.1622
“บริษัทฯ มั่นใจว่าจากความร่วมมือในแคมเปญดังกล่าว จะช่วยรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ในปัจจุบัน โดยคำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภค (Consumer Insights) เป็นหลัก” นายศักดินา กล่าว