ริชี่ฯ เร่งระบายสต็อกมูลค่า9พันล. ซุ่มซื้อที่ดินย่านเอกมัย ผุดคอนโดหรู
“ริชี่ เพลซ” เผยครึ่งปีหลัง เร่งระบายสต็อกมูลค่า 9 พันล้าน อัดแคมเปญ” 2 วันมหัศจรรย์” แถมเฟอร์นิเจอร์ 99 รายการ ช่วง 5-6 ส.ค.นี้คาด 2 วันกวาดยอดขาย 100 ล้าน
นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ริชี่ เพลซ 2002 (RICHY) เปิดเผยว่า ในครึ่งปีหลังบริษัทจะเน้นการระบายสต็อกของโครงการที่เหลือขายรวมมูลค่าราว 9,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 12 โครงการ จำนวน 1,300 ยูนิต มูลค่า 7,000-8,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 3 โครงการ จำนวน 70 ยูนิต มูลค่า 1,200-1,500 ล้านบาท ซึ่งจะมีการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย “2 วันมหัศจรรย์” ในช่วงวันที่ 5-6 ส.ค.นี้ ด้วยโปรโมชั่นเฟอร์นิเจอร์ 99 รายการกับลูกค้าที่จองซื้อที่สำนักงานขาย โดยคาดหวังยอดขายช่วง 2 วันประมาณ 100 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมองว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไนช่วงครึ่งปีหลังยังไม่เห็นการฟื้นตัวขึ้นที่ดี และมีระยะเวลาการขายที่น้อยกว่าปกติ จากปัจจัยในประเทศช่วงเดือนต.ค.ที่จะถึงนี้ แต่อย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินงานของบริษัทจะเน้นการระบายสต็อกออกแทน เพื่อสร้างรายได้กลับมาให้กับบริษัท
โดยตามแผนในปีนี้ บริษัทเปิด 3 โครงการ ใหม่ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ ริชพาร์ค ลอฟท์ @หลักสี่สเตชั่น มูลค่า 1,600 ล้านบาท โครงการ The Eight Collection มูลค่า 500 ล้านบาท โครงการเดอะ ริช อะเวนิว เป็นอาคารพาณิชย์ มูลค่า 500 ล้านบาท และโครงการ”เดอะ ริช สาทร-ตากสิน”มูลค่า 2,100 ล้านบาท มียอดขายแล้วกว่า 50% ในส่วนของความคืบหน้าการขายโครงการ เดอะ ริช @ นานา มูลค่า 3,700 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 30% โครงการ คอนโด ริชพาร์ค @ ทริปเปิ้ล สเตชั่น มูลค่า 2,700 ล้านบาท มียอดขาย 80%
ด้านยอดขายในปีนี้ บริษัทยังมั่นใจว่าจะทำได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ 1,800 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกที่ทำยอดขายได้ 800 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังคงเป้ารายได้ปีนี้ที่ 1,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 568.24 ล้านบาท โดยคาดว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะมีการโอนจากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) เข้ามาราว 600 ล้านบาท และคาดว่าจะมีการโอนในครึ่งปีหลังราว 400 ล้านบาท จาก Backlog ปัจจุบันที่ มี 4, 000 ล้านบาท ท ซึ่งจะรับรู้ในปีนี้ 1,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมพัฒนาโครงการใหม่เป็นคอนโดมิเนียมในทำเลเอกมัย บนที่ดิน 2 ไร่ สูง 40 ชั้น มูลค่าโครงการกว่า 3,500 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 7-8 ล้านบาท ส่วนราคาซื้อขายที่ดินติดริมถนนในทำเลดังกล่าว อยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านบาทต่อตร.ว. ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเปิดขายภายในกลางปี 2561
นางอาภา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ ไทย จีน และญี่ปุ่น ซึ่งมีความสนใจที่จะร่วมกันพัฒนาโครงการกับบริษัท โดยเป็นรูปแบบของการร่วมทุน ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนของการร่วมทุนกับพันธมิตร 1 ราย ภายในอีก 2 เดือนข้างหน้า โดยบริษัทมองว่าการร่วมทุนกับพันธมิตร จะเสริมในด้านความสามารถในการพัฒนาและในด้านของเงินทุน อีกทั้งในแง่ของการขายยังมีลูกค้าใหม่จากพันธมิตรมารองรับ