“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” เผยตัวเลขรายได้ปี 61 เติบโตตามเป้า
ประกาศแผนงานปี 62 หวังขึ้นแท่นผู้นำตลาดอสังหาฯ แนวราบ
เตรียมเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติม 8 – 10 โครงการ
ตั้งเป้าเติบโต 15% ยอดขาย 5,300 ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 4,650 ล้านบาท
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เผยตัวเลขผลประกอบการปี 2561 ขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ พร้อมประกาศแผนงานปี 2562 ขยายตัวต่อเนื่อง เน้นรุกตลาดแนวราบ ตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้ประกอบการแนวหน้าของตลาด หลังมองเห็นกำลังซื้อ Real Demand ชัดเจน และมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐ เตรียมทุ่มงบซื้อที่ดิน 1,000 ล้านบาท พร้อมเปิดตัว 8 – 10 โครงการใหม่ บนทำเลศักยภาพสูง รองรับการขยายตัวของเมืองทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ยึด กลยุทธ์ Lifestyle Marketing เจาะกลุ่มลูกค้า พร้อมอัดแคมเปญตอบโจทย์ทุก ไลฟ์สไตล์ ตั้งเป้าการเติบโตปี 2562 ขยายตัว 15% กวาดยอดขาย 5,300 ล้านบาท
นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) (Mr.Chaiyan Chakarakul (CEO , Lalin Property Plc.) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มากว่า 30 ปีกล่าวว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย มีการขยายตัวได้จากปีก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมที่คาดว่าทั้งปีจะขยายตัวได้ราว 4.0 – 4.3% ตัวเลขการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น ตลอดจนผลบวกจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยเฉพาะด้านคมนาคม ที่ขยายเส้นทางรองรับการขยายตัวของเมือง ทั้งโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง รวมทั้งโครงการที่อยู่ในแผนแม่บท ทำให้เกิดทำเลใหม่ๆ ของโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ในปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทมีการเปิดตัวโครงการใหม่ไปทั้งสิ้น 7 โครงการ โดยสามารถทำยอดขาย และยอดรับรู้ได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีกำลังซื้อหลักจากกลุ่ม real demand ที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริง ซึ่งมีทั้งกลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่และกลุ่มคนวัยทำงาน
สำหรับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2562 จะเป็นปีสำหรับผู้ประกอบการที่เป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง มองว่าตลาดโดยรวมยังคงเติบโตได้ แต่อาจเติบโตในอัตราที่ชะลอลง แม้เศรษฐกิจโดยรวมน่าจะขยายตัวได้จากปี 2561 ราว 4.0 – 4.3% ประกอบกับปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี ตลอดจนการลงทุนของภาครัฐที่เป็นงบผูกพันต่อเนื่องมาจากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ดีในปี 2562 นี้ก็มีปัจจัยเสี่ยงหลายปัจจัย ที่อาจเข้ามากระทบ ไม่ว่าจะความเสี่ยงจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก ความเสี่ยงจากสงครามทางการค้า ความเสี่ยงจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ตลอดจนความเสี่ยงจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการควบคุม LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น ซึ่งความเสี่ยงเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2562 นี้ได้ ทั้งนี้สำหรับเกณฑ์ LTV ใหม่ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 เมษายนที่จะถึงนี้ นั้น ในแง่ของบริษัทเน้นทำตลาดในกลุ่ม Real Demand และลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่ซื้อบ้านหลังแรก ดังนั้นจึงได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวไม่มาก
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2562 นี้ จะให้ความสำคัญกับตลาดที่อยู่อาศัยในกลุ่มทาวน์โฮม บ้านแนวคิดใหม่ และบ้านเดี่ยว โดยมีแผนขยายโครงการใหม่ทั้งสิ้น 8 – 10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4,000 – 4,500 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 5,300 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 4,650 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นราว 15% จากปี 2561
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) (Mr. Churat Chakarakul, Deputy Managing Director, Lalin Plc.) กล่าวถึง แผนงานด้านการตลาด ว่า “ในปีนี้ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จะดำเนินธุรกิจเชิงรุก แสดงศักยภาพขององค์กรต้นแบบผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน ยาวนานกว่า 30 ปี รวมถึงการสร้างศักยภาพองค์กรให้เติบโตในตลาดทุนอสังหาริมทรัพย์อย่างมั่นคง โดยในปีนี้ บริษัทฯ วางเป้าหมายขึ้นเป็นผู้ประกอบการแนวหน้าของตลาด ภายใต้โครงการมิกซ์ยูส แบรนด์ ลลิล ทาวน์ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ภายใต้ทำเลยุทธศาสตร์ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดหัวเมืองใหญ่ เมืองท่องเที่ยว และแหล่งงานสำคัญ มูลค่ารวมประมาณ 4,000 – 4,500 ล้านบาท โดยวางกลยุทย์การตลาด ภายใต้แนวคิด The Urban Destination For Living สร้างฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มอายุ 25-40 ปี ในขณะที่ยังรักษาฐานลูกค้าเก่าของลลิล และถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นเพื่อต่อยอด Brand Loyalty
ในส่วนของการพัฒนาบ้านให้ตอบโจทย์ในยุค 4.0 นายชูรัชฎ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความทันสมัย และการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่แท้จริง คือแนวคิดของบ้านที่บริษัทฯ พัฒนาในรูปแบบ ลลิล เพอร์เซอร์นัลไลซ์ สไตล์ (Lalin Personalized Style) ที่สามารถออกแบบและปรับฟังก์ชั่น เพื่อตอบโจทย์การใช้งานทุกความต้องการของลูกค้า การอยู่ร่วมกันทั้งแบบครอบครัวเดี่ยวและครอบครัวขยาย (Lalin Universal Society) อีกทั้งยังมีการใช้แนวคิด Eco Green ในการออกแบบและเลือกใช้วัสดุในโครงการ รวมถึงเน้นเรื่องการมีบริการหลังการขาย(CRM) ในรูปแบบ Lalin 4.0 Connectivity ที่ลูกค้าสามารถรับทราบข่าวสารข้อมูล สื่อสารกับลลิล แบบทูเวย์คอมมิวนิเคชั่นอย่างรวดเร็วผ่าน Line@ LalinSociety ซึ่งทั้งหมดคือการต่อยอดมาตรฐานของลลิลที่มุ่งเน้นเรื่อง Quality of Living ที่ให้กับลูกค้าของโครงการ ทั้งนี้บริษัทฯ วางงบประมาณด้านการตลาดปีนี้ประมาณ 3 – 4%
ในส่วนของการลงทุน บริษัทฯ วางงบซื้อที่ดินไว้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนส่วนใหญ่มาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ที่ได้มาจากการโอนโครงการต่างๆ และอีกส่วนจากการออกหุ้นกู้ ซึ่งจะพิจารณาออกในจำนวนและช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้สอดรับกับการขยายธุรกิจ และการเติบโตในระยะยาวของบริษัททั้งนี้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ของบริษัทในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่มาก ซึ่งสะท้อนความเสี่ยงทางด้านการเงินที่ต่ำ และยังคงมีศักยภาพในการขยายธุรกิจได้อีกมากโดยไม่ติดปัญหาเรื่องของแหล่งเงินทุน
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้แนวคิด “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” ได้รับรางวัลจดทะเบียนด้านผลการดำเนินงานยอดเยี่ยม Best Company Performance Awards และรางวัลผู้บริหารสูงสุดดีเด่น Best CEO Awards จากงาน SET Awards 2018 รางวัลที่การันตีคุณภาพการบริหารงานยอดเยี่ยมระดับประเทศ สะท้อนความมุ่งมั่นของลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ในการสร้างมาตรฐานการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตลอดระยะเวลา 30 ปี และความเป็นมืออาชีพของการบริหารงานอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะตลาดเรียล ดีมานด์ ตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยจริง โดยมีผลประกอบที่เติบโตต่อเนื่อง และยั่งยืน (Sustainable Growth)