อารียา พรอพเพอร์ตี้ เปิดแผนปี 61 รุกแนวราบ เปิด 10 โครงการ เจาะตลาดราคา 2-4 ล้านบาท คาดปัญหารีเจกต์ดีขึ้น หลังแบงก์ผ่อนคลายเกณฑ์การปล่อยกู้

อารียา พรอพเพอร์ตี้ เปิดแผนปี 61 รุกแนวราบ เปิด 10 โครงการ เจาะตลาดราคา 2-4  ล้านบาท คาดปัญหารีเจกต์ดีขึ้น หลังแบงก์ผ่อนคลายเกณฑ์การปล่อยกู้

นายวิวัฒน์ เลาหพูนรังษี ประธานกรรมการอาวุโส บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการใหม่  11โครงการ โดยจะเป็นโครงการแนวราบถึง 10 โครงการ เน้นระดับราคา 2-4 ล้านบาท และแนวสูง 1 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 7,920 ล้านบาท ในส่วนของโครงการแนวราบบริษัทมีที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการไว้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งจะพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม 1โครงการวางแผนจะเปิดตัวในปลายไตรมาส 2

อย่างไรก็ดี บริษัทเตรียมซื้อที่ดินในช่วง 1-2 เดือนนี้ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่ดินใกล้ใจกลางธุรกิจ( CBD)  และจะนำมาพัฒนาโดยใช้แบรนด์“A Space” ราคาขายเฉลี่ย 4 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งในปีนี้บริษัทได้ตั้งงบซื้อที่ดินรวม 1,000  ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การซื้อที่ดินมาเพื่อพัฒนาโครงการแนวราบ

 โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 2561 เติบโต 30% หรืออยู่ที่ 14,700 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำยอดขายได้ 11,100  ล้านบาท โดยเป้าหมายยอดขายในปีนี้ แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 8,360 ล้านบาท และยอดขายโครงการคอนโดมิเนียม 6,000 ล้าน

       ส่วนรายได้ของบริษัทในปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 30% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 5,000 ล้านบาท โดยรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากโครงการแนวราบเป็นหลักซึ่งคาดว่ายอดขายของโครงการแนวราบที่ตั้งเป้าหมายไว้ 8,360  ล้านบาท จะเข้ามาเป็นรายได้ในปีนี้ 5,000 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทพัฒนาโครงการแนวราบที่สร้างเสร็จก่อนขาย ทำให้จะมีการรับรู้รายได้โครงการแนวราบเข้ามาได้ทันที

      ด้านสต็อกของโครงการคอนโดมิเนียมที่บริษัทมีอยู่ในปัจจุบันอยู่ที่กว่า 2 ,000 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทจะขายสินค้าของโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ในสต็อกให้ได้มากกว่า 50% เพื่อให้เป็นรายได้กลับมา พร้อมกับการนำบางโครงการไปเสนอขายให้กับลูกค้าชาวต่างชาติผ่านเอเจนท์ ซึ่งปีนี้ได้ตั้งเป้ายอดขายจากลูกค้าชาวต่างชาติอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 1,400 ล้านบาท

       โดยที่การขายให้กับลูกค้าต่างชาติเป็นการกระจายความเสี่ยงในแง่การรับรู้รายได้ของบริษัท เพราะลูกค้าชาวต่างชาติมีกำลังซื้อที่สูง ซึ่งปัจจุบันการโอนของลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัยกับบริษัทยังเผชิญปัญหาในด้านอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่ในระดับสูงที่ 30% เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นกลุ่มที่มีการซื้อที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 4 ล้านบาท ในสัดส่วน 80-90% ทำให้ในช่วงที่ผ่านมามีผลกระทบในด้านการขอสินเชื่อ หลังจากสถาบันการเงินต่างๆมีความเข้มงวดในการให้สินเชื่อกับลูกค้ารายย่อยที่มีรายได้ไม่สูง แต่ในปีนี้คาดว่าสถาการณ์การอนุมัติสินเชื่อจะมีความผ่อนคลายมากขึ้น หลังจากที่สถาบันการเงินมีการจัดการเรื่องคุณภาพหนี้ของลูกค้ารายย่อยได้เป็นอย่างดีแล้ว และเริ่มกลับมาปล่อยสินเชื่อมากขึ้น จากการแข่งขันของสินเชื่อบ้านในตลาดที่มีการแข่งขันสูงมากขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันด้านดอกเบี้ย

      นายวิศิษฎ์ เลาหพูนรังษี ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน)  กล่าวว่า ทิศทางของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2561 บริษัทมองว่ามีทิศทางที่ดีขึ้นคาดว่าขยายตัวได้ 10% จากปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดี การลงทุนต่างๆที่มีมากขึ้น การปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้น ทำให้ความมั่นใจกลับมา ส่งผลบวกต่อการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่กลับมาดีขึ้น นอกจากนี้การลงทุนในพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จะส่งผลให้เหิดการกระจายตัวของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดรอบๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่นักลงทุนไทยและต่างชาติต้องจับตามอง และจะเห็นว่าเทรนด์การพัฒนาที่อยู่ที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่มีขนาดห้องเล็กลงมีมากขึ้น เพราะราคาที่ดินที่แพงขึ้นส่งผลต่อการพัฒนาที่จะต้องใช้พื้นที่ให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุดและมีการทำราคาที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้

     ​“เราเรื่องการใช้ชีวิตที่ดีต้องสร้างปัจจัยพื้นฐานหลายด้าน ซึ่งเป็นจุดแข็งของอารียามาตลอด 18 เราทั้งคู่เชื่อเรื่อง Inside – Out สำหรับที่อยู่อาศัย ผู้บริโภคไม่ได้ต้องการแค่ Function ที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องการ Emotional Engagement ที่จะออกแบบชีวิตของแต่ละคนในบ้าน โดยเฉพาะในสังคมที่วุ่นวาย แข่งขัน และรีบเร่งอย่างทุกวันนี้  ดังนั้น เราจะต้องดูแลทุกองค์ประกอบของงานให้เข้าใจผู้บริโภคเพียงพอ เพื่อการออกแบบบ้านและออกแบบชีวิตที่สามารถสื่อสาร และปลุกจินตนาการการอยู่อาศัย ซึ่งเป็นสิ่งที่อารียาเรียกว่า สุนทรียะของใช้ชีวิต” นายวิศิษฎ์ กล่าวเสริม