แสนสิริ เดินหน้าช่วยเหลือประเทศไทยฝ่าวิกฤติ COVID-19 มอบเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์การแพทย์แก่กระทรวงสาธารณสุข มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท

แสนสิริ เดินหน้าช่วยเหลือประเทศไทยฝ่าวิกฤติ COVID-19  มอบเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์การแพทย์แก่กระทรวงสาธารณสุข มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท
 

 “แสนสิริ” เดินหน้าช่วยเหลือประเทศไทยฝ่าวิกฤติ COVID-19 สานต่อนโยบาย “Sansiri Care For All” ส่งต่อความห่วงใย มอบเครื่องช่วยหายใจ หน้ากากN95 และชุด PPE แก่กระทรวงสาธารณสุขมูลค่ากว่า 8,000,000 ล้านบาท พร้อมด้วยพนักงานแสนสิริที่ร่วมใจลงพื้นที่เพื่อดูแลไปยังชุมชนรอบโครงการซึ่งนับเป็นความรับผิดชอบของแสนสิริที่มีต่อสังคมและชุมชนใกล้เคียง ด้วยการส่งมอบหน้ากากอนามัยและถุงยังชีพ ก่อนกระจายการดูแลในพื้นที่ต่างจังหวัดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) โดย นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ และ นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ สานต่อ “Sansiri Care For All” ขยายความห่วงใย ส่งต่อการดูแลอย่างทั่วถึงไปยังสังคมและชุมชนในภาวะการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ด้วยการส่งมอบเครื่องช่วยหายใจ หน้ากากN95 และชุด PPE แก่กระทรวงสาธาณสุข มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นตัวแทนรับมอบ

นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แสนสิริพร้อมเดินหน้าช่วยเหลือให้ประเทศไทยของเราผ่านพ้นวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ด้วยการขยายความห่วงใยส่งต่อไปยังสังคม ผ่านมาตรการ Sansiri Care For All ที่มุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือแก่สังคมผ่านทั้งทางภาครัฐ รวมถึงการลงพื้นที่ไปช่วยเหลือด้วยตัวเอง โดยในส่วนการประสานกับภาครัฐ แสนสิริได้ดำเนินการส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นสำหรับใช้รักษาผู้ป่วยในภาวะการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 แก่กระทรวงสาธารณสุข ได้แก่เครื่องช่วยหายใจ 2 เครื่อง และเพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยโรคอื่นๆในภายภาคหน้า ตลอดจนส่งมอบหน้ากากN95, หน้ากากผ้า และชุด PPE 100,000 ชุด แก่บุคลากรทางการแพทย์ผู้เสียสละอยู่เบื้องหลังในการช่วยเหลือผู้ป่วย รวมมูลค่ากว่า 8,000,000 ล้านบาท ก่อนจะส่งมอบต่อให้ 5 โรงพยาบาลได้แก่ โรงพยาบาลบำราศนราดูร, โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, โรงพยาบาลราชวิถี และโรงพยาบาลรามาธิบดี และ 30 ชุมชนทั่วประเทศ ในลำดับถัดไป”

“สำหรับการลงพื้นที่เพื่อไปช่วยเหลือยังสังคมและชุมชนใกล้เคียง นับเป็นปณิธานของแสนสิริที่เรายึดมั่นว่า ไม่ว่าแสนสิริจะไปตั้งโครงการหรือดำเนินกิจการในพื้นที่ใด เราจะช่วยพัฒนาชุมชนบริเวณโดยรอบให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านการอยู่อาศัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย โดยนอกจากการขยายมาตรการเพื่อดูแลชุมชนโดยรอบในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง

 

ความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีแก่ชุมชนบริเวณโดยรอบของ สิริ แคมปัส สำนักงานใหญ่ของแสนสิริ ด้วยการส่งมอบหน้ากากอนามัยผ้าและ Face Shield ตลอดจนถุงยังชีพแก่สำนักงานเขตวัฒนาแล้ว แสนสิริยังได้ดำเนินการการดูแลในพื้นที่ต่างจังหวัดอื่นๆอีกด้วย ได้แก่ เทศบาลหัวหิน และจังหวัดภูเก็ต โดยที่ผ่านมาแสนสิริได้บริจาคหน้ากากให้ชุมชนไปแล้วทั้งสิ้น 10,800 ชิ้น และถุงยังชีพจำนวน 1,000 ถุง”

“นอกจากนั้น แสนสิริยังได้เตรียมความพร้อมสำหรับการขยายมาตรการเพื่อดูแลชุมชนในพื้นที่ต่างจังหวัดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเตรียมส่งมอบหน้ากากอนามัยและถุงยังชีพอุปโภคบริโภคจากผลผลิตของเกษตรกร โดยนอกจากที่แสนสิริมีความตั้งใจเพื่อต้องการช่วยเหลือชาวบ้านและชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 โดยการบริจาคสิ่งของอุปโภคบริโภคแล้ว แสนสิริยังต้องการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไทยที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจของการแพร่ระบาดของของไวรัส COVID-19 อีกด้วย โดยสิ่งของอุปโภคบริโภคที่เรานำไปบริจาคแก่ชุมชนนั้นล้วนแต่มาจากเกษตรกรทั้งสิ้น”

“เพื่อเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในระยะยาว แสนสิริจึงวางแผนสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ ให้สังคมและชุมชน โดยเตรียมพร้อมสำหรับกิจกรรม Social Distancing Market  และจัดหลักสูตรฝึกอบรมผู้ที่สนใจให้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของพนักงานขายมืออาชีพของแสนสิริอีกด้วย โดยแสนสิริต้องการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19” นายอภิชาติกล่าว