น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) (SENA) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพ์ครึ่งปีหลัง ขยายการเติบโตได้ดีขึ้น จากปัจจัยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวดีขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับไม่สูง และการลงทุนโครงการสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะด้านการลงทุนขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายต่างๆ เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักให้ภาคอสังหาริมทรัพย์มีการลงทุนมากขึ้น สะท้อนจากผู้ประกอบการหลายราย ทยอยเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้นในครึ่งปีหลัง ซึ่งคาดว่าซัพพลายใหม่ในปีนี้ จะเพิ่มขึ้น 5-10%
“การลงทุนขยายและเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้า ถือเป็นปัจจัยที่มีผลมากต่อภาคอสังหาฯ ซึ่งจะสร้างความน่าสนใจการลงทุนในแต่ละทำเลที่แตกต่างกัน จะเห็นได้จากการเชื่อมต่อของสถานีเตาปูนระหว่างสายสีน้ำเงินกับสายสีม่วง จากตอนแรกที่ยังไม่เชื่อมกันคนใช้น้อยมาก แต่หลังจากเปิดบริการเชื่อมต่อกันแล้ว พบว่ามีปริมาณคนใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งทำให้เห็นถึงว่าการลงทุนของรัฐจะเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนโอกาสของการลงทุนอสังหาฯและเป็นโอกาสในการพัฒนาพื้นที่ใหม่ๆ”น.ส.เกษรา กล่าว
ขณะที่ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่อยทางต่อเนื่อง แต่อาจจะได้รับผลกระทบจากแรงกดดันด้านกำลังซื้อยังชะลอตัว ทำให้การตัดสินใจซื้อยังไม่ได้รวดเร็วมาก ประกอบกับความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการอนุมัติสินเชื่อในลูกค้าบางกลุ่มอยู่ แต่ปัจจุบันแนวโน้มอัตราการอฏิเสธสินเชื่อเริ่มลดลง จากการที่บริษัทมีการแนะนำให้ลูกค้าเตรียมตัวอย่างดีก่อนการยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน และการมำ Pre-approve ก่อน ซึ่งอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้าบริษัทได้ลดลงมาในปัจจุบันอยู่ที่ 10% จากปีก่อนที่ 20%
ในปีนี้ บริษัทวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 9,031 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 3 โครงการ มูลค่ารวม 2,113 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีหลังเปิดโครงการใหม่ จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 6,918 ล้านบาท โดยในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดโครงการไปแล้ว 2 โครงการ คือ โครงการ นิช ไอดี @ ปากเกร็ด สเตชั่น มูลค่า 1,400 ล้านบาท และโครงการ เสนา ช้อป เฮ้าส์ บางแค มูลค่า 460 ล้านบาท และในช่วงกลางเดือนส.ค.นี้ บริษัทได้เปิดโครงการ เสนา ช้อป เฮ้าส์ พหลโยธิน-คูคต มูลค่า 190 ล้านบาท และในช่วงวันที่ 30 ก.ย.-1 ต.ค. 60 บริษัทวางแผนเปิดโครงการใหม่อีก 3 โครงการพร้อมกัน มูลค่าโครงการรวม 4,860 ล้านบาท ได้แก่ โครง นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง มูลค่า 3,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่น คือ ฮันคิว เรียลตี้ โครงการ เสนา อีโคทาวน์ รามอินทรา-วงแหวน มูลค่า 985 ล้านบาท และโครงการ เดอะ คิทท์ พลัส พหลโยธิน-คูคต มูลค่า 483 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทได้เลื่อนเปิด 1 โครงการย่านเตาปูน ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่นออกไปเป็นปี 2561 ทำให้ในปีนี้มีจำนวนการเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 9,030 ล้านบาท จากเดิมที่วางแผนเปิด 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 12,000 ล้านบาท
“ในปีนี้บริษัทยังคงมุ่งเน้นการนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆมาพัฒนาสินค้าและบริการให้ดียิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด”Eco Innovation”ซึ่งจะเป็นการประหยัดพลังงาน และ ประหยัดเวลา นอกจากนี้บริษัทยังมีการทำแอพพลิเคชั่น”Sena 360 Service ที่จะช่วยให้ลูกค้าให้เข้าถึงบริการหลังการขายได้ง่าย และมีแผนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารให้ครบวงจรมากขึ้นอีกด้วย”นางเกษรา กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้โต 20% จากปีก่อน หรือรายได้อยู่ที่ 4,500 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะมีการโอนจากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) อีก 3,000 ล้านบาท จากในครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้อยู่ที่ 1,670 ล้านบาท จาก Backlog ทั้งหมดในปัจจุบันมี 3,600 ล้านบาท โดยจะมีการโอนโครงการที่สร้างเสร็จใหม่เข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง ได้แก่ โครงการนิช ไพรด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี โครงการ คิทท์ พลัส สุขุมวิท 113 โครงการ นิช โมโน บางนา เฟส 2 และตั้งเป้ายอดขาย 4,600 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกมียอดโอนแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้ษัทยังมั่นใจยอดขาทำได้ตามเป้าหมาย 4,600 ล้านบาท ซึ่งใน 7 เดือนที่ผ่านมาทำยอดขายได้แล้ว 2,000-3,000 ล้านบาท