‘เอกา โกลบอล’ มั่นใจยอดขายปี 64 แตะ 1,200 ล้านบาท
เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจสู่เบอร์หนึ่งของอุตสาหกรรม
ไตรมาสสองเล็งจัดโรดโชว์เอสเอ็มอี 3 ภูมิภาค
อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารรอบสามเดือนแรก เติบโตอย่างต่อเนื่องรับกระแสความนิยมใช้ทั่วโลกพุ่ง ‘เอกา โกลบอล’ ผู้นำเทรนด์บรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร เล็งเพิ่มกำลังการผลิตอีก 35% ดักทางออเดอร์เพิ่ม ปักหมุดยอดขายปีนี้ แตะ 1,200-1,300 ล้านบาท คาดหวังโควิด-19 คลี่คลายในไตรมาสสอง เตรียมลุยโรดโชว์ 3 ภูมิภาค เพื่อสนับสนุนเอสเอ็มอีอาหารไทยทั่วประเทศ พร้อมเดินหน้างาน R&D ขับเคลื่อนองค์กรสู่บริษัทแห่งนวัตกรรมบรรจุ-ภัณฑ์ยืดอายุอาหาร เบอร์หนึ่งของโลก
นายชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด (EKA GLOBAL) ผู้นำตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) เปิดเผยว่า ทิศทางอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารรอบ 3 เดือนแรกของปี 2564 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากอานิสงค์ของกระแสความนิยมใช้บรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารที่มากขึ้นทั่วโลก สอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนหลังเกิดวิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้ ล่าสุด บริษัทฯ ใช้กำลังการผลิตเต็ม 100% และคาดการณ์ความต้องการในอนาคตจะเพิ่มมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องทุก ๆ ปี บริษัทฯ จึงเตรียมแผนขยายกำลังการผลิตอีก 35% จากปัจจุบันที่ผลิตได้ 2,500 ล้านชิ้นต่อปี หรือใช้งบลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปี 2564 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายจะแตะระดับ 1,200-1,300 ล้านบาท เติบโตขึ้นราว ๆ 35% จากปี 2563 พร้อมกับวางตำแหน่งแบรนด์ ‘EKA GLOBAL’ เป็นผู้นำตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร เพื่อขับเคลื่อนบริษัทฯ ให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงในระยะยาว และก้าวสู่การเป็นเบอร์หนึ่งของบริษัทแห่งนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารระดับโลก โดยมุ่งเน้นจุดแข็งสำคัญทางด้านงานวิจัยและพัฒนา (R&D) บรรจุ-ภัณฑ์ ให้สามารถยืดอายุอาหารได้นานยิ่งขึ้น จากเดิมบรรจุภัณฑ์ของบริษัทฯ สามารถยืดอายุอาหารจัดเก็บนอกตู้เย็นได้ยาวนานกว่า 2 ปี ซึ่งอนาคตคาดหวังจะเห็นการพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารที่สามารถยืดอายุการจัดเก็บได้นานขึ้นอีกเป็น 3 ปี หรือ 5 ปี
“ปัจจุบัน เอกา โกลบอล ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารระดับโลก เป็น Top 5 ของโลก อนาคต 5-10 ปี อยากเห็น เอกา โกลบอล ขึ้นเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร เบอร์หนึ่งของโลก และจะเป็นบริษัทผู้นำเทรนด์ผู้บริโภค ซึ่งกุญแจสำคัญ คือ การวิจัยและพัฒนา ในปีนี้ ได้วางงบลงทุนในการวิจัยและพัฒนา ประมาณ 1-2% ของยอดขายรวม หรือ ราว ๆ 10-20 ล้านบาท ถือว่าเป็นงบที่สูงมาก เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรม”
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า คาดหวังว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศ จะดีขึ้นในไตรมาสที่สองของปีนี้ ซึ่งบริษัทฯ เตรียมความพร้อมเดินหน้าจัดโครงการทดสอบการจัดเก็บอาหารกับบรรจุภัณฑ์อาหารวิถีใหม่ โรดโชว์ 3 ภูมิภาค อาทิ เชียงใหม่ ขอนแก่น และสงขลา เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจอาหารขนาดกลาง-เล็ก (เอสเอ็มอี) ไทยทั่วประเทศ ให้เข้าถึงการผลิตอาหารที่สามารถจัดเก็บได้นาน และมีความปลอดภัยสูง ซึ่งเป็นจุดอ่อน (Pain point) ของธุรกิจอาหาร เพื่อเพิ่มจุดแข็งและโอกาสให้สามารถขยายตลาดไปต่างประเทศได้
“บริษัทฯ มีความพร้อมมากที่จะสนับสนุนเอสเอ็มอีไทย เพราะอยากเห็นเอสเอ็มอีไทย ประสบความสำเร็จ บริษัทฯ พร้อมช่วยเอสเอ็มอีทุกระดับ ขนาดเล็กไซส์เอส คำสั่งซื้อหลักพันใบ เราก็พร้อมช่วยในราคาไม่สูง เรารับรองว่า เฉลี่ยแล้วราคาต้นทุนจะอยู่ในราคาที่ดีกว่าที่อื่น บริษัทฯ คาดหวังในปีนี้ จะได้เห็น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย อย่างน้อย 2-3 ราย ที่เดินหน้าขยายธุรกิจโดยใช้บรรจุภัณฑ์ของเอกา โกลบอล เพราะบริษัทฯ มั่นใจว่าเทรนด์บรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารจะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอน” นายชัยวัฒน์ กล่าวปิดท้าย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผู้สนใจนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร เอกา โกลบอล และนวัตกรรมบรรจุแบบดัดแปรบรรยากาศ Modified Atmosphere Packaging Process หรือ MAP ภายใต้โครงการทดสอบการจัดเก็บอาหารกับบรรจุภัณฑ์อาหารวิถีใหม่ สามารถติดต่อสอบถามเพื่อเข้าอบรมที่ห้องแล็บเอกา โกลบอล ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ที่เบอร์โทรศัพท์ 038-574-187 หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eka-global.com