“แอสเซทไวส์” สานต่อกลยุทธ์​ The New Frontiers หลังกวาดยอดที่ภูเก็ต รุก EXPAND สู่พื้นที่ EECปั้น Flagship Project แห่งปี “อควารัส จอมเทียน พัทยา” มูลค่า 5,000 ล้านบาท เจาะตลาด Staycation และนักลงทุนทั้งไทย-เทศ

“แอสเซทไวส์” สานต่อกลยุทธ์​ The New Frontiers หลังกวาดยอดที่ภูเก็ต รุก EXPAND สู่พื้นที่ EECปั้น Flagship Project แห่งปี “อควารัส จอมเทียน พัทยา” มูลค่า 5,000 ล้านบาท เจาะตลาด Staycation และนักลงทุนทั้งไทย-เทศ
 

  • บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เสริมแกร่งจากความสำเร็จในการทำตลาดอสังหาฯในภูเก็ต สานต่อแผนกลยุทธ์ EXPAND รุกเจาะขยายธุรกิจสู่พื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
    อย่างต่อเนื่อง หลังประสบความสำเร็จกับ 4 โครงการที่เปิดใน EEC ทั้งโครงการแอทโมซ ซีรีน ศรีราชา, โครงการเคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน, โครงการเคฟ โคโค่ บางแสน และโครงการแอทโมซ แคนวาส ระยอง มูลค่าโครงการรวมกว่า 4,770 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากกลุ่มลูกค้า
  • เดินหน้าลุยเปิดโครงการใหญ่รับไฮซีซั่น “อควารัส จอมเทียน พัทยา” (Aquarous Jomtien Pattaya)คอนโดมิเนียมหรูสไตล์ Luxurious Staycation Residence มูลค่าโครงการกว่า 5,000 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพใกล้หาดจอมเทียน รับสัญญาณบวกนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น ที่ตอบโจทย์ทั้งการพักผ่อน และลงทุน
  • ชูจุดเด่นโครงการฯ ด้วยดีไซน์และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทั้งซื้ออยู่เองและลงทุน การันตีด้วยรางวัลจากเวทีชั้นนำ ครบครันด้วย Double Cloud Facilities พื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์ทุกเจเนเรชั่น เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากทั่วโลก ในราคา 4 ล้านต้นๆ 

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” เปิดเผยว่า ในช่วง 11 เดือนของปี 2567 (ม.ค. – พ.ย. 67) บริษัทสามารถทำยอดขายสะสมได้ 17,874 ล้านบาท ถือเป็นยอดขายสถิติใหม่ของบริษัท และเกินกว่าเป้าหมายปี 2567 ที่วางไว้ที่ 17,800 ล้านบาท    เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวมาจากหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ คือ The New Frontiers ในด้านของการ Expand ที่กระจายสินค้าครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ทั้งโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านแนวราบ บนทำเลที่มีศักยภาพทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่าง ภูเก็ต และชลบุรี

“ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เดินหน้าขยายทำเลพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต ผ่านการเข้าถือหุ้นสัดส่วน 67.94% ในบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า จนสามารถทำยอดขายได้รวมกว่า 7,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้จากโครงการต่าง ๆ ดังกล่าวไปจนถึงปี 2569 และยังวางแผนเปิดตัวโครงการ Leisure Residences ในภูเก็ตอย่างต่อเนื่องอีก 4 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 15,500 ล้านบาท เพื่อสานต่อ      กลยุทธ์ Expand ที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการที่ภูเก็ต แอสเซทไวส์จึงนำกลยุทธ์ดังกล่าวขยายธุรกิจเข้ามาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมบนทำเลศักยภาพเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC  ซึ่งเป็นพื้นที่ศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยเป็นพื้นที่สำคัญของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ระดับประเทศ
มีการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ยังมีแผนพัฒนาโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก, การขยายท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 โครงการเมืองใหม่อัจฉริยะ รวมถึง 2 เมกะโปรเจ็กต์ ได้แก่ โครงการนิคมอุตสาหกรรมสีเขียว (กรีนอินดัสทรี) และโครงการสปอร์ต คอมเพล็กซ์ ซึ่งมีสนามกีฬาขนาดใหญ่ ความจุประมาณ 80,000 ที่นั่ง

โดยตั้งแต่ช่วงต้นปี 2568 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในหลายโครงการจะเริ่มดำเนินการก่อสร้าง โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งหากก่อสร้างแล้วเสร็จ จะทำให้การเดินทางสะดวกรวดเร็ว และส่งผลให้พื้นที่ EEC เป็นอีกหนึ่งทำเลที่จะช่วยกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ​นอกจากนี้จากข้อมูลของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ยังพบว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา พื้นที่ภาคตะวันออกมีการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดในประเทศจำนวน 1,004 โครงการ รวมมูลค่า 408,737 ล้านบาท ซึ่งมีการประเมินว่าจะส่งผลให้พื้นที่ EEC มีประชากรเพิ่มขึ้น 1.2 – 1.5 ล้านคนภายในปี 2580” นายกรมเชษฐ์ กล่าว

นางสาวพชร ประพันธ์วัฒนะ กรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียม เปิดเผยว่า “จากโอกาสในข้างต้น บริษัทฯ จึงได้เข้ามาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่ EEC และสามารถสร้างยอดขายจนประสบความสำเร็จมาแล้ว  4 โครงการในก่อนหน้านี้ ได้แก่ โครงการแอทโมซ ซีรีน ศรีราชา, โครงการเคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน, โครงการเคฟ โคโค่ บางแสน และโครงการแอทโมซ แคนวาส ระยอง รวมมูลค่าโครงการกว่า 4,770 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากกลุ่มลูกค้า และล่าสุดได้เปิดขายโครงการใหม่  “อควารัส จอมเทียน พัทยา” (Aquarous Jomtien Pattaya) มูลค่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นอีกโครงการ Rare Item บนทำเลที่น่าสนใจ เพราะตั้งอยู่ใกล้ถนนสุขุมวิท และใกล้ชายหาดจอมเทียน แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทำให้ผู้พักอาศัยสามารถดื่มด่ำกับวิวทะเลที่สวยงาม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันที่เราเตรียมไว้อย่างเต็มรูปแบบ

   โดยพัทยายังเป็นทำเลศักยภาพที่นอกจากจะเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทยแล้ว ยังเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะมีความหลากหลายทั้งแหล่งธรรมชาติ แหล่งช้อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ให้เลือกมากมาย กิจกรรมครบครันทั้ง Day & Night Life สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ รวมถึงยังเป็นเมืองที่นิยมจัดเทศกาลดนตรีในระดับนานาชาติมากมาย พร้อมดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนอยู่เสมอ ด้วยปัจจัยต่าง ๆ นี้ทำให้พัทยานั้นเป็นหนึ่งใน World Destination อย่างแน่นอน”

ด้านนางสาววาสนา เลิศพงศ์โสภณ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียม 3 กล่าวเพิ่มเติมว่า “อควารัส จอมเทียน พัทยา” (Aquarous Jomtien Pattaya) เป็นคอนโดมิเนียมหรูสไตล์ Luxurious Staycation Residence ใกล้หาดจอมเทียนเพียง 500 เมตร ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Impression of Blue” ชูจุดเด่นด้วยการออกแบบดีไซน์สุดหรู พร้อมมอบความพิเศษของการอยู่อาศัยด้วยห้องพักวิวทะเลกว่า 85% และฟังก์ชันห้องรูปแบบ Fully furnished ที่ออกแบบโดย Olivia Living ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าทั้งอยู่เอง และลงทุนได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งโครงการยังได้รับรางวัลการันตีจากเวที Property Guru Thailand Property Awards 2024 ครั้งที่ 19 ในสาขา Best Condo Architectural Design (Eastern Seaboard)

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ส่วนกลาง จัดเต็มด้วย Double Cloud Facilities เพื่อมอบประสบการณ์
การอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ทุกเจเนเรชั่น ไม่ว่าจะเป็น Sky Lounge ดื่มด่ำกับทัศนียภาพของทะเลอันสวยงาม Sky Fitness, Yoga Area, Boxing and Circuit Training Area ที่เพลิดเพลินกับการออกกำลังกายได้หลากหลายรูปแบบพร้อมชมวิวทะเลแบบพาโนรามาบนชั้นสูงสุดของโครงการ และพิเศษไปกว่านั้นกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่มากถึง 4 สระ เพื่อมอบประสบการณ์ที่แตกต่างกันตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น จนถึงพระอาทิตย์ตก กับ Fun Pool, Beach Pool, Lazy Pool และ Sky Pool อีกทั้งยังมี Kids Club โซนสำหรับเด็ก Library Lounge , Residence Lounge พื้นที่สำหรับพักผ่อนและรับรองแขกที่มาเยือน รวมไปถึงพื้นที่     สีเขียวขนาดใหญ่ที่รายล้อมอยู่ทั่วโครงการ เพื่อให้สามารถมั่นใจในคุณภาพการอยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งปัจจุบันโครงการได้รับ EIA Approved พร้อมเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว โดยมีกำหนดการสร้างแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน ปี  2570

ทั้งนี้ โครงการอควารัส จอมเทียน พัทยา เป็นคอนโดมิเนียมไฮไรซ์ สูง 44 และ 47 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวมทั้งสิ้น 606 ยูนิต และพื้นที่ร้านค้า 5 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 5-3-76.1 ไร่ บนถนนจอมเทียน สาย 2 ใกล้ถนนสุขุมวิท และชายหาดจอมเทียน โดยห้องพักมีทั้งรูปแบบ 1 Bedroom ขนาด 34.70 – 76.40 ตร.ม., ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 79.75 – 141.30 ตร.ม.,    ห้อง 3 Bedrooms ขนาด 130.10 – 173.80 ตร.ม. และ Rare Item ห้อง Penthouse ขนาด 315.90 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 4.21 ล้านบาท*