DCON อวดโฉมโรงงานพรีคาสท์แห่งใหม่เทคโนโลยีเยอรมนี
มั่นใจตลาดพรีคาสท์ยังโตหลังอสังหาฯ แห่ปรับพอร์ตลุยบ้านจัดสรร
“ดีคอนโปรดักส์” อวดโฉมโรงงานพรีคาสท์ครบวงจรแห่งใหม่พร้อมเทคโนโลยีการผลิตทันสมัยที่สุดในไทยกับระบบเครื่องจักร Vollert จากเยอรมนี ชี้กระแสตอบรับดี ลูกค้าแห่ใช้บริการต่อเนื่องด้วยกำลังการผลิตกว่า 70% มั่นใจแนวโน้มความต้องการตลาดพรีคาสท์โตต่อเนื่อง หลังผู้พัฒนาอสังหาฯรายใหญ่-รายกลาง แห่ปรับพอร์ตลุยธุรกิจบ้านจัดสรร เผยพร้อมปรับสภาพการผลิตรับงานเพิ่มอีกเท่าตัวได้
นายวิทวัส พรกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดีคอนโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ DCON ผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า การดำเนินงานของธุรกิจโรงงานผนัง และชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป พรีคาสท์ คอนกรีต (Precast Concrete) ณ ลำลูกกา คลอง 12 ของ บริษัท ดีเอสซีโปรดักส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือนั้น ถือว่าได้รับการตอบรับอย่างยอดเยี่ยม โดยนับตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเดือนที่เริ่มเปิดทำการผลิต บริษัทมียอดสั่งซื้อสินค้าพรีคาสท์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่กว่า 70% ยังสามารถผลิตรองรับลูกค้าที่สนใจได้อีก
“เทคโนโลยีที่เรานำมาใช้ภายในโรงงานของเรา ถือเป็นระบบการผลิตที่ทันสมัยที่สุดที่ใช้ผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปในประเทศไทยในขณะนี้ โดยเราใช้เครื่องจักรคุณภาพแบรนด์ Vollert ของเยอรมนีเข้ามาช่วยผลิตชิ้นส่วน ขณะเดียวกัน เรายังให้บริการอย่างครบวงจร ทั้งออกแบบ ผลิต และติดตั้ง จึงทำให้ได้รับทั้งความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากพันธมิตรและคู่ค้าหลายราย อันจะมีผลต่อผลประกอบการ DCON ในปีถัดไป” นายวิทวัส กล่าว
ทั้งนี้ ภายในโรงงานยังมีระบบต่างๆ ที่เข้ามาช่วยควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน อาทิ ระบบการทำงานแบบ Semi-Automatic Carousal Plant นำเทคโลยีมาช่วยควบคุมคุณภาพและทำงานแทนแรงงานบางส่วน ระบบ Vollert Control Center ที่ใช้ข้อมูลรายละเอียดชิ้นส่วนต่างๆ จากเทคโนโลยี BIM (Building Information Technology) ในการควบคุมการผลิตผนังแบบพรีคาสท์
นายวิทวัส กล่าวอีกว่า สถานการณ์ความต้องการผนังสำเร็จรูปพรีคาสท์ยังมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งรายใหญ่และรายกลาง ต่างปรับแผนการดำเนินธุรกิจจากการพัฒนาคอนโดมิเนียม มาเป็นการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรมากขึ้นทั้งในปีนี้และปี 2564 เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค ส่งผลให้ความต้องการผนังพรีคาสท์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ขณะที่ผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและผู้รับเหมาก่อสร้างจำนวนมาก ไม่ได้มีโรงงานพรีคาสท์เป็นของตัวเอง บริษัทจึงจะเตรียมเดินหน้าเจรจากับผู้พัฒนาโครงการและผู้รับเหมาทั้งรายใหญ่และรายกลางเหล่านี้ต่อไป
“ปัจจุบันโรงงานผนังสำเร็จรูปพรีคาสท์มีกำลังผลิต 70% สามารถผลิตคอนกรีตสำเร็จรูป 12,000 ตารางเมตรต่อเดือนต่อรอบงาน โดยนำไปสร้างบ้านทาวน์โฮมได้ประมาณ 50 หลังต่อเดือน หรือบ้านเดี่ยวประมาณ 35 หลังต่อเดือน เรายังสามารถเพิ่มกำลังผลิตได้อีกเท่าตัวหากขยายกำลังเป็นสองรอบงาน เพื่อรองรับความต้องการตลาดได้” นายวิทวัส กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังเห็นแนวโน้มที่ผู้พัฒนาโครงการและผู้รับเหมาหันมาใช้พรีคาสท์จากข้อดีที่โดดเด่นของพรีคาสท์ ได้แก่ 1.ช่วยลดเวลาการก่อสร้าง สามารถหล่อชิ้นส่วนพรีคาสท์ไปพร้อมกับการก่อสร้างฐานรากแล้วนำไปติดตั้งได้ทันที ทั้งยังมั่นใจได้ว่าชิ้นส่วนคอนกรีตที่ส่งถึงหน้างาน มีคุณภาพที่ดี และมีมิติที่ถูกต้อง จากการหล่อชิ้นส่วนสำเร็จรูปภายในโรงงาน และควบคุมด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย 2.สามารถฝังงานระบบเข้าไปในชิ้นส่วนได้เลย ไม่ต้องกรีดผนังซ้ำหลังการก่ออิฐในระบบ เสาคาน หล่อในที่ 3.ช่วยลดจำนวนแรงงาน ซึ่งเป็นปัญหาหลักในปัจจุบันจากการขาดแคลนแรงงานในตลาด 4.ช่วยลดกิจกรรมการก่อสร้างที่ต้องทำกลางแจ้ง เช่น การผูกเหล็ก หรือการตั้งแบบอีกด้วย และ 5.ช่วยลดปริมาณขยะที่หน้างาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สำหรับ บริษัท ดีคอนโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ขึ้นสู่ปีที่ 24 เป็นผู้ผลิตแผ่นพื้นคอนกรีตอัดแรงสำเร็จรูป และเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง สำหรับบ้านพักอาศัยที่มีกำลังผลิตสูงสุดในประเทศไทย ด้วยกำลังการผลิตกว่า 3 แสนตารางเมตร ต่อเดือน และยังเป็นผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างอีกหลายประเภท อาทิ แผ่นพื้น Hollow core, บล็อคมวลเบาสีเทาระบบ CLC รั้วสำเร็จรูปหลากหลายชนิด มีวิสัยทัศน์ในการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อให้บริษัทสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้ากลุ่มผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยได้มากขึ้น เปรียบเสมือนการจะเป็นพ่อครัวที่เก่งได้ ต้องเป็นนักชิมที่เก่งด้วย ดังนั้นการเป็นผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างที่โดนใจนักจัดสรร ต้องเป็นผู้จัดสรรที่มีฝีมือและเข้าใจความต้องการของลูกค้า