HBA ส่องภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านปี 68 เผชิญความท้าทายใหม่
เร่งงัดกลยุทธ์ฝ่าแข่งขันสูง รุกเจาะตลาดใหม่ ‘รอจังหวะฟื้น’
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA) ส่องสัญญาณตลาดรับสร้างบ้านปี 2568 มูลค่าหมื่นล้านบาท เผชิญหน้าความท้าทายต่อเนื่อง สะท้อนผ่าน ‘3 โอกาส’ ‘3 เรื่องที่น่าจับตามอง’ ภาพรวมเศรษฐกิจ ต้นทุนแรงงาน การแข่งขันสูง แนะธุรกิจเร่งปรับตัว งัดกลยุทธ์ฝ่าแข่งขันรุนแรง เจาะช่องหาตลาดใหม่ในต่างจังหวัด พร้อมขานรับแนวโน้มด้านเทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เตรียมพร้อมรอวันตลาดฟื้นตัว
นายโอฬาร จันทร์ภู่ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association : HBA) เปิดเผยว่า สถานการณ์ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้าน ปี 2568 โดยรวมสัญญาณค่อนข้างดีขึ้นจากปัจจัยสนับสนุน ทั้งการลดอัตราดอกเบี้ย ผู้บริโภคกลับมามีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจมากขึ้นจากนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ส่งผลให้ผู้ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยเริ่มกลับมาตัดสินใจสั่งสร้างบ้านใหม่กันมากขึ้น
ขณะที่ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในปี 2567 เป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ค่าครองชีพสูงจากต้นทุนสินค้าที่ปรับตัว ส่งผลต่อรายได้ของผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มที่กำลังวางแผนสร้างบ้านชะลอการตัดสินใจออกไป ทำให้คาดการณ์มูลค่ารวมยอดเซ็นสัญญาสั่งสร้างบ้านของบริษัทรับสร้างบ้าน (ที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ) ในสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 11,000 ล้านบาท จากเป้าหมายต้นปี 2567 วางไว้ 12,000 ล้านบาท
ส่อง ‘3 โอกาส’ ตลาดรับสร้างบ้าน
นายโอฬาร กล่าวต่อว่า แม้ว่าภาพรวมตลาดยังรอจังหวะฟื้นตัวของกำลังซื้อ แต่ในเซ็กเมนต์บ้านระดับราคา 5 – 10 ล้านบาท และบ้านระดับราคา 20 ล้านบาท กลับได้รับความสนใจมากขึ้นจากผู้ที่กำลังวางแผนสร้างบ้าน นับจากยอดสั่งสร้างบ้านภายในงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2024 ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2567
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยด้านดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจสร้างบ้าน รวมไปถึงการรุกทำตลาด และรับคำสั่งสร้างบ้านในต่างจังหวัดมากขึ้น จากเดิมที่บริษัทรับสร้างบ้าน (ที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ) จะเน้นเจาะตลาดกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นหลัก จึงเป็นโอกาสใหม่ ๆ. ที่จะเกิดขึ้นในปี 2568
‘3 เรื่องที่น่าจับตามอง’
ความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวยังคงเป็นสิ่งที่สมาคมฯ จับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งปัญหาการว่างงาน อัตราเงินเฟ้อ หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อในระดับกลางถึงล่าง อาจประสบปัญหาการจัดการหนี้สิน ทำให้ยกเลิกหรือชะลอการสร้างบ้านออกไป
ขณะที่ปัจจัยด้านการแข่งขันในตลาดรับสร้างบ้านก็มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นในปี 2568 ทั้งจากบริษัทรับ
สร้างบ้านด้วยกันเอง และจากบริษัทผู้รับเหมาอาคารสูง เช่น โครงการคอนโดมิเนียม ที่หันมารับงานรับสร้างบ้านกันมากขึ้น
“พบว่ามีบริษัทผู้รับเหมาอาคารสูง มีการปรับตัวด้วยการหันมารับงานก่อสร้างบ้านที่พักอาศัยในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด ทำให้มีความกังวลทั้งต่อสถานการณ์การแข่งขันด้านราคาที่อาจส่งผลต่อคุณภาพบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว” นายโอฬาร กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่น่าจับตามอง ในเป็นประเด็นค่าแรงที่เพิ่มขึ้นและแรงงานหายาก รวมถึงต้นทุนวัสดุก่อสร้าง ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนสร้างบ้านเพิ่มขึ้น นำไปสู่การชะลอตัดสินใจสั่งสร้างบ้านของผู้บริโภค
เตรียมพร้อมรอจังหวะตลาดฟื้นตัว
นายโอฬาร กล่าวว่า อย่างไรก็ดียังมีความคาดหวังจะได้เห็นสัญญาณที่ดีในปี 2568 หรือ ประมาณไตรมาส 2 เป็นต้นไป จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมถึงเป็นผลตอบรับจากปัจจัยบวกจากแรงจูงใจด้านการลดหย่อนภาษีการสร้างบ้าน สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน มูลค่า 1 ล้านบาท สามารถหักลดหย่อนภาษี 10,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท (ราคาไม่ เกิน 10 ล้านบาท) โดยเป็นบ้านสั่งสร้างที่มีการเซ็นสัญญา และเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ 9 เมษายน 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2568
อีกทั้ง การปรับกลยุทธ์ของบริษัทรับสร้างบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการบ้านแนวคิดใหม่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบสมาร์ทโฮม บ้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Homes) และบ้านประหยัดพลังงาน