“ORI” โชว์ผลงานไตรมาส 1/62 กวาดกำไร 721 ล้าน เติบโตทะลุ 47%
ปรับเป้าเปิดโครงการแนวราบเพิ่มเป็น 8,000 ล้านบาท
“ออริจิ้น” เปิดผลประกอบการไตรมาส 1/2562 กวาดรายได้กว่า 3,453.3 ล้านบาท เติบโต 40% กำไรสุทธิ 720.6 ล้านบาท เติบโต 47% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2561 มั่นใจจบปีรายได้ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 1.9 หมื่นล้าน ลุยปรับเป้าเปิดโครงการแนวราบเพิ่มเป็น 8,000 ล้านบาท
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2562 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,453.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2561 (%YoY) สาเหตุหลักมาจากมีโครงการที่ทยอยรับรู้รายได้ได้อย่างต่อเนื่องจากปี 2561 ประกอบกับการก่อสร้างโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการแนวราบแล้วเสร็จได้ตามเป้าหมาย ทำให้บริษัทมีโครงการใหม่ที่เริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์และรับรู้รายได้เพิ่มเติมถึง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบริทาเนีย เมกะทาวน์ บางนา และโครงการบริทาเนีย บางนา กม. 12
นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถสร้างยอดขาย Presale ไตรมาสแรกได้ประมาณ 5,670.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการนำเสนอโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยในไตรมาสแรกบริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท –เทพารักษ์ มูลค่า 1,300 ล้านบาท กวาดยอดขายไป 50% ของที่เปิดขาย และ โครงการ บริทาเนีย วงแหวน – หทัยราษฎร์ มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท กวาดยอดขายไปกว่า 85% ของที่เปิดขาย และความสำเร็จจากการจัดแคมเปญ “ลดด่วน ขบวนสุดท้าย” โปรโมชั่นโครงการพร้อมอยู่ ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค
ขณะที่กำไรสุทธิประจำไตรมาส 1/2562 อยู่ที่ 720.6 ล้านบาท เติบโตขึ้น 47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ระดับร้อยละ 20.9 ซึ่งสูงขึ้นกว่าไตรมาส 1 ปี 2561 ที่ร้อยละ 19.8 เนื่องจากโครงการใหม่แล้วเสร็จรับรู้รายได้ได้ตามแผน และความสามารถในการทำกำไรขั้นต้น ทำให้ทั้งรายได้และกำไรของบริษัทในไตรมาสนี้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
“การจัดกิจกรรมทางการตลาด และการออกแคมเปญของเราตลอดช่วงไตรมาส 1/2562 ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก สะท้อนถึงความไว้วางใจของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์โครงการที่อยู่อาศัยของออริจิ้น” นายพีระพงศ์ กล่าว
นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า จากผลประกอบการที่เติบโตอย่างดีในช่วงไตรมาส 1/2562 ประกอบกับกระแสตอบรับแบรนด์บริทาเนีย บริษัทจึงปรับแผนการเปิดตัวโครงการแนวราบเพิ่มขึ้นเป็น 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 8,000 ล้านบาท จากเดิม 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6,000 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่ยังคงมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ขณะเดียวกันได้ออกแคมเปญใหม่ภายใต้ชื่อ “มาตรการคอนโดหลังแรก” เป็นแคมเปญประจำไตรมาส 2 สอดคล้องกับมาตรการลดหย่อนภาษีของภาครัฐที่เพิ่งประกาศเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา
ในไตรมาส 2/2562 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,400 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ พาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี มูลค่าโครงการ 2,900 ล้านบาท โครงการ เคนซิงตัน ดริสทริค ระยอง มูลค่า 500 ล้านบาท และโครงการ ดิ ออริจิ้น รามคำแหง มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท
สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 56 โครงการ เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 87,000 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร
บทความโดย PropDNA