SC Asset รับมอบประกาศนียบัตรรับรองต่ออายุ CAC ต่อเนื่องเป็นสมัยที่ 2 สะท้อนนโยบายต้านคอร์รัปชั่น ดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล
บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ผู้นำอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ด้านคุณภาพและ มีนวัตกรรม พร้อมมุ่งสร้างคุณค่าสู่คนและโลกอย่างยั่งยืน โดยนาย ธีรธร สิงหพันธุ์ หัวหน้าสายงานกฎหมาย เป็นผู้แทนบริษัทฯ รับใบประกาศนียบัตรต่ออายุการรับรองการเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Thai Private Sector Collective Action Against Corruption : CAC) ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 จากนายไพฑูรย์ ทวีผล กรรมการพิจารณาการรับรอง ในงาน CAC Certification Ceremony 2024 : Business Beyond CAC: Spotlight On supply chain” ห่วงโซ่ธุรกิจโปร่งใส ภาคธุรกิจไทย ที่จัดโดย โครงการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย ตอกย้ำความเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล และยั่งยืน ณ โรงแรม Nikko Bangkok ห้อง Fuji Grand Ballroom
โครงการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย หรือ CAC มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือของภาคเอกชนในการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชันของสังคมและระบบเศรษฐกิจของประเทศเพราะการสร้างสังคมไร้คอร์รัปชันนั้นต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน เป็นเสมือนห่วงโซ่ในภาคธุรกิจที่เริ่มจากการสร้างความโปร่งใสภายในองค์กรแล้วค่อยๆ ขยายวงกว้างสู่ Supply Chain และเมื่อทุกบริษัทขยายความโปร่งใสออกไปมากขึ้น มากขึ้น ภาคธุรกิจไทยก็จะเพิ่มความแข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยเอสซีฯ ผ่านการได้รับการรับรองในด้านต่าง ๆ อาทิ มาตรการป้องกันความเสี่ยงด้านคอร์รัปชัน, การบริหารบุคคลให้มีการอบรมให้ความรู้พนักงาน นโยบายคอร์รัปชั่น Code of Conduct, การสื่อสารนโยบายทั้งภายในและภายนอก เป็นต้น
ทั้งนี้ การรับรองมีอายุครั้งละ 3 ปี การต่ออายุสมาชิกครั้งที่ 2 นับเป็นการตอกย้ำว่าเอสซีฯ ได้รับการยอมรับในด้านการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมภิบาล จากการดำเนินการตามมาตรการต่อต้านการคอร์รัปชั่นอย่างต่อเนื่อง และ มีการมีแสดงผลการดำเนินตามมาตรการฯ วิเคราะห์ทบทวนและปรับปรุงแผนฯ และการนำไปปฎิบัติจริง โดยเอสซีฯ เข้าร่วมโครงการตั้งแต่ปี 2561 โดยได้รับการรับรองฐานะสมาชิก เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564 และได้รับการต่ออายุสมาชิกครั้งที่ 2 ที่ผ่านมา นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจ และตอกย้ำว่าบริษัทฯ จะมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลอย่างยั่งยืนต่อไป