จากผลการดำเนินงานของ บมจ.ธนาสิริ กรุ๊ป หรือ THANA ที่ปิดปี 2560 ด้วยยอดขาย 986 ล้านบาท โต กว่า 24 % กำไรเพิ่มขึ้น 84% อยู่ที่ 32.3 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไร 17.5 ลบ. ยอดโอน 828 ล้านบาท โตขึ้น 5.2 % เป็นผลมาจากความพร้อมของสินค้า ปรับกระบวนการตรวจรับมอบบ้านและการยื่นขอสินเชื่อลูกค้า (Pre-approve) ให้สอดคล้องกับการขายมากขึ้น คุมค่าใช้จ่ายทางการตลาดให้เหมาะสม ปรับกลยุทธ์การตลาด หันมาใช้การตลาดแบบออนไลน์ และไดเรกมาร์เก็ตติ้งให้มากขึ้น ปี 2561 ตั้งเป้าโต 10-20 % พร้อมบุกตลาดบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ โดยชูดจุดขายสินค้าที่แตกต่างมีดีไซน์ การันตีคุณภาพจาก รางวัลอสังหาริมทรัพย์ เพื่อคุณภาพชีวิต ดีเด่นประจำปี 2018 ประเภท ที่อยู่อาศัย สำหรับระดับราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท จากโครงการธนาฮาบิแทต ปิ่นเกล้า-สิรินธร (ASA Real Estate Awards 2018) โดยสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์
นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายใต้ชื่อ THANA เปิดเผยว่า บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านจัดสรรพร้อมที่ดินเพื่อขาย ประเภททาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว โดยบริษัทจะเป็นผู้พัฒนาโครงการ และเป็นเจ้าของโครงการ เน้นการพัฒนาโครงการในเขตปริมณฑล โดยเน้นทำเลย่านจังหวัดนนทบุรี เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ ปัจจุบันบริษัทพัฒนาโครงการทั้งสิ้น 27 โครงการ จำนวน 2,744 ยูนิต มูลค่า 11,084 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการในจังหวัดนนทบุรี 20 โครงการ จำนวน 2,344 ยูนิต มูลค่า 9,574 ล้านบาท ในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 5 โครงการ 209 ยูนิต มูลค่า 729 ล้านบาท และในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีก 2 โครงการ รวม 191 ยูนิต มูลค่า 781 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานปี 2560 มียอดขาย 986 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตกว่า 24 % กำไรเพิ่มขึ้น 84% อยู่ที่ 32.3 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไร 17.5 ลบ. ยอดโอน 828 ล้านบาท โตขึ้น 5.2 % และมียอดรอโอนอยู่ที่ 277 ล้านบาท โดยมาจากโครงการที่อยู่ระหว่างการเปิดขายทั้งหมด 8 โครงการ 938 ยูนิต มูลค่า 4,497 ล้านบาท ขายไปแล้ว 518 ยูนิต 2,360 ล้านบาท คิดเป็น 55% ยังคงเหลือสินค้า 420 ยูนิต คิดเป็น 2,137 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560) โดยประกอบด้วย 7 โครงการที่นนทบุรี และ 1 โครงการที่อุดรธานี ได้แก่
- โครงการธนาสิริ ราชพฤกษ์ – ท่าน้ำนนท์ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น – บ้านแฝด สไตล์บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ทาวน์โฮม 2 ชั้น ราคาขาย 5-10 ล้านบาท จำนวน 175 ยูนิต มูลค่าโครงการ 950 ล้านบาท
- โครงการธนาฮาบิแทต ราชพฤกษ์-สิรินธร บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคาขาย 4.5 – 6.0 ล้านบาท จำนวน 92 ยูนิต มูลค่าโครงการ 455 ล้านบาท
- โครงการ ธนาคลัสเตอร์ ราชพฤกษ์-สถานีบางพลู ทาวน์โฮม 3 ชั้น ราคาขาย 4 – 6 ล้านบาท จำนวน 77 ยูนิต มูลค่าโครงการ 345 ล้านบาท
- โครงการ ธนาฮาบิแทต ปิ่นเกล้า-สิรินธร บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคาขาย 8 – 15 ล้านบาท จำนวน 95 ยูนิต มูลค่าโครงการ 875 ล้านบาท
- โครงการธนาซิโอ รัตนาธิเบศร์ ทาวน์โฮม 2 ชั้น ราคาขาย 2.5 – 4.0 ล้านบาท จำนวน 157 ยูนิต มูลค่าโครงการ 405 ล้านบาท
- โครงการธนาวิลเลจ 2 พระราม 5 – บางใหญ่ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคาขาย 3.5 – 5.0 ล้านบาท จำนวน 86 ยูนิต มูลค่าโครงการ 370 ล้านบาท
- โครงการ ธนาคลัสเตอร์ สถานีเซ็นทรัล-บางใหญ่ บ้านแฝด สไตล์บ้านเดี่ยว 3 ชั้น และ ทาวน์โฮม 3 ชั้น ราคาขาย 4.0 – 7.0 ล้านบาท จำนวน 77 ยูนิต มูลค่าโครงการ 391 ล้านบาท
- โครงการ สิริวิลเลจ อุดรธานี-แอร์พอร์ต บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคาขาย 3.2 – 8.0 ล้านบาท จำนวน 179 ยูนิต มูลค่าโครงการ 706 ล้านบาท
และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาโครงการในอนาคต บริษัทยังมีที่ดินที่รอการพัฒนาอยู่อีก 3 แปลง รวมมูลค่า(ราคาประเมิน) 940.7 ล้านบาท ได้แก่ ที่ดินริมถนนรัตนาธิเบศร์ (ด้านหน้าโครงการธนาสิริ – รัตนาธิเบศร์) ขนาด 2-0-87.9 ไร่ มูลค่าตามบัญชี 18.5 ล้านบาท ราคาประเมิน 143.1 ล้านบาท, ที่ดินเปล่า ในโครงการรัตนาธิเบศร์ (ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี) 0-3-94.6 ไร่ มูลค่าตามบัญชี 8.4 ล้านบาท ราคาประเมิน 19.7 ล้านบาท และที่ดินเปล่า กมลา (อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต) 105-2-76.9 ไร่ มูลค่าตามบัญชี 59.8 ล้านบาท ราคาประเมิน 777.9 ล้านบาท
นอกจากนี้ ภายใต้การบริหารงานด้วยความโปร่งใส มืออาชีพ และได้มาตรฐานการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจด้านการกำกับดูแลกิจการ โดยได้รับการจัดอันดับในกลุ่ม “ดีเลิศ” (Excellent) หรือ ห้าดาว” จากผลของการสำรวจการกำกับดูแลกิจการที่ดีบริษัทจดทะเบียนในปี 2560 (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies 2017) ดำเนินการโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในส่วนของแผนการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทฯ ได้มีการวางแผนงานไว้โดยเน้นการควบคุมคุณภาพงานและระยะเวลาในการก่อสร้างในเวลาที่กำหนด มีการควบคุมคุณภาพและระยะเวลาในการบริการหลังการขาย ตลอดจนการบริหารเงินเข้าและออกรวมถึงการลดต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเคร่งครัด มีนวัตกรรมการออกแบบและพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า การพัฒนาคนเข้าสู่องค์กรนวัตกรรม สอดคล้องกับนโยบาย ประเทศไทย 4.0 รวมถึงอาจจะมีแผนการสำหรับการพัฒนาที่ดิน ในจังหวัดภูเก็ต (กมลา) ตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 900-1,000 ล้านบาท หรืออัตราการเติบโตที่ 10-20% โดยปัจจุบันมียอดขายที่รอรับรู้รายได้แล้วกว่า 280 ล้านบาท พร้อมเตรียมบุกตลาดในกลุ่มบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ โดยชูจุดขายเป็นสินค้าที่แตกต่างมีดีไซน์ การันตีคุณภาพจาก รางวัลอสังหาริมทรัพย์ เพื่อคุณภาพชีวิต ดีเด่นประจำปี 2018 ประเภท ที่อยู่อาศัย สำหรับระดับราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท จากโครงการธนาฮาบิแทต ปิ่นเกล้า-สิรินธร (ASA Real Estate Awards 2018) โดยสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพของทีมงานมืออาชีพ จะพัฒนาสินค้าได้ตอบโจทย์ตรงใจผู้บริโภค และบริหารงานด้วยความรัดกุม โปร่งใส ภายใต้หลักจริยธรรม และแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดีควบคู่กันไป เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้น ลูกค้า และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย จะได้สนับสนุนให้ธุรกิจของบริษัทฯ เติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป” กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาสิริ กรุ๊ป กล่าวในที่สุด
เกี่ยวกับบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทบ้านจัดสรรพร้อมที่ดินเพื่อขาย ประเภททาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว โดยเน้นการพัฒนาโครงการในเขตปริมณฑลย่านจังหวัดนนทบุรี รวมถึงในส่วนภูมิภาคที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่น โซนภาคอีสานและภาคใต้ เป็นต้น ในระดับราคาโดยเฉลี่ยประมาณ 3 – 5 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ “ธนาซิโอ” “ธนาวิลเลจ” “ธนาฮาบิแทต” “ธนาคลัสเตอร์” “ธนาเรสซิเดนท์” และ “สิริ วิลเลจ” สาหรับโครงการในส่วนภูมิภาค โดยแต่ละแบรนด์จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทได้พัฒนาโครงการไปแล้วกว่า 27 โครงการ โดยมีมูลค่ารวมประมาณ 11.1 พันล้านบาท โดยบริษัทมีบริษัทย่อย ทั้งสิ้น 3 บริษัท ประกอบธุรกิจ ดังนี้
- บริษัท ธนาสิริ พร๊อพเพอร์ตี\ ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (“TPD”)
TPD ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โดยจะเป็นผู้พัฒนาโครงการ และเจ้าของโครงการ เน้นการพัฒนาโครงการในส่วนภูมิภาค ที่มีการเติบโตทาง เศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ในอดีตที่ผ่านมามีโครงการอยู่ในจังหวัดภูเก็ตและสกลนคร โดยบริษัทได้เข้าถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.6% เมื่อปี 2551 (TPD ก่อตั้งเมื่อปี 2533 ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาทและมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 50 ล้านบาทในปี 2560 ทำให้มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 100 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนการถือครองหุ้นของบริษัทเป็น 99.8%) ทั้งนี้ในการออกแบบก่อสร้างโครงการ บริษัทจะเป็นผู้กำหนดรูปแบบโครงการและ รายละเอียดการออกแบบว่าจ้างผู้รับเหมาเพื่อดำเนินงานก่อสร้าง รวมถึงเป็นผู้จัดหา วัสดุก่อสร้างหลักเองทั้งหมด แต่ในส่วนของฝ่ายขาย วิศวกรผู้ควบคุมงานก่อสร้าง (Foreman) และฝ่ายจัดการ จะดำเนินการโดยพนักงานของ TPD เอง
- บริษัท ธนาสิริ แมเนจเม้นท์แอนด์คอนซัลติ้ง จํากัด (“TMC”)
TMC จัดตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 ด้วยทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท บริษัทถือ หุ้น 99.9% โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจด้านที่ปรึกษา, ด้านบริหารจัดการ และขายซอฟท์แวร์ระบบการทำงานต่างๆ
- บริษัท พิมานสิริ จํากัด (“PMS”)
PMS เป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัท โดยจัดตั้งเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2557 ด้วยทุนจดทะเบียน 80 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โดยจะเป็นผู้พัฒนาโครงการและเป็นเจ้าของโครงการในภาคอีสาน เริ่มต้นที่ จ.อุดรธานี เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ธนาสิริ พร๊อพเพอร์ตี้ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (TPD) กับ กลุ่มบริษัท อีสานพิมานกรุ๊ป จำกัด และนายธัชกร แต้ศิริเวช (พันธมิตรของ บริษัทที่ จ.สกลนคร) โดย TPD ถือหุ้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60.7%