ซีอีโอ VMPC ชี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 3 จังหวัด “ชลบุรี-ระยอง-ฉะเชิงเทรา” คึกคักรับอานิสงส์โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) หนุนคอนโดมิเนียมเกิดใหม่เพียบ ขณะที่ธุรกิจโรงแรมแข่งเดือด! VMPC ชูจุดเด่น “โอ๊ควูด โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนท์ ศรีราชา” โรงแรมหรูระดับ
5 ดาว มูลค่าโครงการ 7,000 ล้านบาท มาตรฐานบริการระดับโลกบนสุดยอดทำเลทอง เดินหน้า Grand Opening กลางปี 2561 ประกาศความพร้อมนโยบายขยายฐานการลงทุนบนทำเลที่ดีที่สุด!
นายปริญญา เธียรวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.เอ็ม.พี.ซี. จำกัด (VMPC) ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งเพื่อขายและให้เช่าระดับไฮเอนด์ โซนพระราม 2 และศรีราชา เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลประกาศนโยบายโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ภายใต้ยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 โดยระยะแรกจะเป็นการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ส่งผลให้ปริมาณอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ เกิดขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก
“โครงการ EEC จะส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวเป็นอย่างมาก ความเจริญในพื้นที่ 3 จังหวัดคือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ซึ่งจะส่งผลให้การลงทุนต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศหลั่งไหลเข้ามา ยกตัวอย่างเช่น การเปิดโซนพิเศษให้มหาวิทยาลัยจากต่างประเทศเข้ามาเปิดการเรียนการสอน การให้ต่างชาติเช่าที่ดินในระยะยาว รวมถึงสิทธิพิเศษเกี่ยวกับ
การออกวีซ่าให้คนที่เข้ามาทำงานใน 3 จังหวัดดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลให้แรงงานไหลเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก”
นายปริญญา กล่าว
นายปริญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของบริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการ “โอ๊ควูด โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนท์
ศรีราชา” (Oakwood Hotel & Residence SRI RACHA) โรงแรมระดับ 5 ดาว สูง 48 ชั้น จำนวนห้องพัก 458 ห้อง
บนเนื้อที่ 12 ไร่ ใจกลางอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มูลค่าโครงการ 7,000 ล้านบาท โดยออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Modern Oriental Style” เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2558 และมีกำหนดจะแล้วเสร็จสมบูรณ์กลางปี 2561
ซึ่งในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2560 ได้เปิดให้บริการเฟสแรก จำนวน 220 ห้อง ด้วยมาตรฐานบริการระดับโลก ปรากฏว่าผลตอบรับดีมาก และจากการเข้าร่วมงาน “ไทยเที่ยวไทย” ครั้งที่ 46 ช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มียอดจองซื้อแพ็กเกจเข้าพักสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ (Grand Opening) ในช่วงกลางปี 2561 นี้ และในอนาคตหากการก่อสร้างแล้วเสร็จ “โอ๊ควูด โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนท์ ศรีราชา” จะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของศรีราชา เนื่องจากจะเป็นอาคารที่สูงที่สุด บนทำเลที่ดีที่สุดในอำเภอศรีราชา
สำหรับ “โอ๊ควูด โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนท์ ศรีราชา” บริษัทฯ ได้เลือก Oakwood ซึ่งเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและมีเครือข่ายทั่วโลกเป็นพันธมิตรในการบริหารจัดการ ประกอบกับทำเลที่โดดเด่น สามารถมองเห็นวิวทะเลอ่าวไทยแบบพาโนรามา และอยู่ท่ามกลางนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น นิคมอุตสาหกรรมท่าเรือแหลมฉบัง ,นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ,นิคมอุตสาหกรรมเหมราช ,นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นคนที่ทำงานในจังหวัดชลบุรีและพื้นที่รอบๆ โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรม คาดว่าอัตราการเข้าพักจะเป็นกลุ่มชาวต่างชาติที่มาทำงานและนักท่องเที่ยวต่างชาติ 70% ส่วนอีก 30% เป็นกลุ่มคนเดินทางและนักท่องเที่ยวในประเทศ นอกจากนี้ บริเวณด้านหน้าของ “โอ๊ควูด โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนท์ ศรีราชา” ยังมี “อาทาระมอลล์” (Atara Mall) คอมมูนิตี้มอลล์สไตล์โมเดิร์น สูง 4 ชั้น พื้นที่รวมกว่า 6,000 ตารางเมตร เปิดให้บริการแก่ผู้เข้าพัก นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไปแล้ว อาทิ ธนาคารกรุงเทพ , อาหารญี่ปุ่น เลิศรส วัตถุดิบนำเข้าคุณภาพระดับพรีเมี่ยม , แม็กซ์แวลู (Max Valu) ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำสัญชาติญี่ปุ่น , TOM N TOMS COFFEE ร้านกาแฟสุดป๊อปปูลาร์จากประเทศเกาหลี โดยวันจันทร์-ศุกร์ มีจำนวนผู้เข้ามาช็อปปิ้งในอาทาระมอลล์ประมาณ 1,500 คนต่อวัน ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ มียอดเฉลี่ยมากกว่า 2,000 คน
“การแข่งขันของตลาดโรงแรมในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เริ่มเข้มข้นขึ้นตั้งแต่ปี 2561 – 2562 เนื่องจาก
จะมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาเปิดให้บริการมากมาย อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าด้วยเชนการบริหารโรงแรมมาตรฐานระดับโลกของแบรนด์ Oakwood จะทำให้โอ๊ควูด โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนท์ ศรีราชา เป็นผู้นำในตลาดศรีราชา นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังมองหาจังหวะและโอกาสในการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในโซนภาคตะวันออกเพิ่มเติม โดยการพัฒนาแต่ละโครงการของบริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของการคัดสรรทำเลที่ดีที่สุดเป็นอันดับแรก” นายปริญญา กล่าวในตอนท้าย
