ครั้งแรก! “แสนสิริ” ส่ง “ไทเกอร์ เลน” บุกตลาดลักซ์ชัวรี่โฮมออฟฟิศใจกลางย่านเสือป่า
ปักธงที่สุดทำเลทองฮวงจุ้ยท้องมังกร เอ็กซ์คลูซีฟเพียง 5 ยูนิต เริ่ม 38 ลบ.
เจาะเรียลดีมานด์เจ้าของธุรกิจเชื้อสายไทย-จีน เปิดพรีเซลล์ 31ส.ค.-1ก.ย.นี้
ครั้งแรกในไทย! แสนสิริ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ชั้นนำ รุกตลาดลักซ์ชัวรี่โฮมออฟฟิศ ปักธงไพร์มโลเคชั่นใจกลางย่านเสือป่า ที่สุดของทำเลทองในตำแหน่งฮวงจุ้ยท้องมังกรที่หายาก เปิดตัวโครงการ “Tiger Lane” (ไทเกอร์ เลน) ลักซ์ชัวรี่โฮมออฟฟิศดีไซน์โมเดิร์นคลาสสิกสไตล์ “ชิโน-โปรตุกีส” (Sino–Portuguese) สร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมขายและโอน รวมมูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท เริ่มต้นที่ 38 ล้านบาท ภายใต้คอนเซ็ปท์ “A Living Treasure ขุมทรัพย์แห่งการใช้ชีวิต” มรดกอันล้ำค่าสู่เจนเนอเรชั่นใหม่ เพียง 5 ครอบครัวเท่านั้นที่สามารถครอบครองกรรมสิทธิ์แห่งความสมบูรณ์แบบบนที่ดินฟรีโฮลด์ผืนสุดท้าย ตั้งเป้าเจาะกลุ่มเรียลดีมานด์เจ้าของธุรกิจเชื้อสายไทย-จีนเจนเนอเรชั่นใหม่ที่ขยายธุรกิจในย่านเสือป่าและเยาวราช หนึ่งในศูนย์กลางการค้าและธุรกิจสำคัญของไทย เตรียมเปิดขาย 31 ส.ค. และ 1ก.ย.นี้ ณ สำนักงานขาย โครงการ Tiger Lane พร้อมมอบพริวิเล็จพิเศษ และพบกับ ซินแสฮวงจุ้ยชื่อดัง Top 5 ของประเทศ ร่วมแนะนำการแต่งบ้านและออฟฟิศตามหลักฮวงจุ้ยเสริมความมั่งคั่งทางธุรกิจ ปลื้มผลตอบรับดีเยี่ยม ปิดการขายได้แล้ว 20% ก่อนเปิดขายจริง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพสูงของทำเลที่ตอบโจทย์ มั่นใจส่งมอบที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จพร้อมโอนตามกำหนดรับเรียลดีมานด์ ดันยอดขายบริษัทฯปีนี้โตตามเป้า 29,000 ล้านบาท
นายปิติ จารุกำจร รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบริหารกลยุทธ์โครงการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “จากการสำรวจตลาดในย่านเสือป่า พบว่า ตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งมีศักยภาพด้านการทำธุรกิจการค้า ยังเป็นตลาดสำคัญและเป็นที่ต้องการมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เพราะเป็นทั้งศูนย์กลางทางวัฒนธรรมเก่าแก่และพื้นที่ธุรกิจการค้าสำคัญของไทยมานานกว่า 200 ปี ทั้งยังเป็นย่าน CBD แห่งแรกในประเทศไทยของชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งปัจจุบันติดอันดับ Top 10 ราคาที่ดินสูงสุดในประเทศไทยด้วยมูลค่าพุ่งสูงถึงเกือบ 1 ล้านบาทต่อตารางวา (ข้อมูลจากฐานเศรษฐกิจ 20 ก.พ. 2561) นอกจากนี้ ความเชื่อหลักฮวงจุ้ยของชาวจีน ทำเล ที่ตั้งยังอยู่ในตำแหน่งท้องมังกรนั้นโดดเด่นในด้านการเดินทางและการค้าที่เสริมความเจริญรุ่งเรืองและอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่คำนึงถึงศักยภาพเพื่อต่อยอดธุรกิจ ความคุ้มค่าจากการลงทุนในสินทรัพย์ที่ส่งต่อให้ลูกหลานได้ รวมทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ที่ต้องการขยับขยายที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับทำเลเดิมจึงเป็นที่มาของการพัฒนาโครงการ “ไทเกอร์ เลน” ที่เปรียบเป็นทรัพย์สมบัติเพิ่มมูลค่าขึ้นบนทำเลที่มีมูลค่าสูงอย่างไม่สิ้นสุด ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักในการขยายธุรกิจของเราในปีนี้ไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพได้อีกมาก ขณะเดียวกัน ลูกค้าได้เข้าถึงขุมทรัพย์แห่งชีวิตได้ลงทุนในสินทรัพย์ที่คุ้มค่า และยกระดับคุณภาพชีวิตในโครงการระดับลักซ์ชัวรี่บนทำเลทองที่หายากแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบัน สามารถปิดการขายได้แล้ว 20% ก่อนเปิดขายจริง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทำเลที่ตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง”
ที่ดินฟรีโฮลด์ในย่านเสือป่าและเยาราช เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ที่หาได้ยากมากในยุคปัจจุบัน ประกอบกับการขยายตัวของระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีวัดมังกร เพียง 5 นาทีหรือ 550 เมตร จากโครงการ ส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-หลักสอง (สายสีน้ำเงิน ส่วนใต้) ที่เชื่อมต่อการเดินทางได้ทั้งในฝั่งกรุงเทพฯและฝั่งธนบุรี(ปัจจุบันเปิดให้ใช้บริการฟรีในช่วงทดลองและจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนก.ย. 2562 นี้) ส่งผลให้ราคาที่ดินในย่านนี้พุ่งสูงถึงตารางวาละ 1.35 ล้านบาท ซึ่งนับว่ามีราคาแพงที่สุดย่านหนึ่งในกรุงเทพฯ และมีอัตราการเติบโตกว่า 4% ต่อปี พรั่งพร้อมด้วยแหล่งธุรกิจชั้นนำและสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ อาทิ ศูนย์การค้าคลองถมเซ็นเตอร์ คลองถมพลาซ่า และ Mega Plaza วังบูรพา สถานพยาบาลชั้นนำ เช่น โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลหัวเฉียว และโรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ สถาบันศึกษา ได้แก่ โรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนสายปัญญา และโรงเรียนสวนกุหลาบ รวมถึงสถานที่เคารพและสักการะสำคัญของชาวจีนอย่าง วัดเล่งเน่ยยี่หรือวัดมังกร วัดคณิกาผล และ ศาลเจ้าไต่ฮงกง ตลอดจนร้านค้าแบบดั้งเดิมและแหล่งไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างถนนนานา ที่ปรับปรุงจากอาคารเก่าๆ ในย่านนี้ ทำให้เป็นแหล่ง แฮงเอาท์ใหม่สำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีสไตล์เฉพาะตัว และเป็นย่านที่มีเสน่ห์และดึงดูดทั้งคนทำการค้า นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ
โครงการ Tiger Lane ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 0-1-58.5 ไร่ บนถนนสายเจ้าคำรบ ในรูปแบบโฮมออฟฟิศระดับลักซ์ชัวรี่ ความสูง 4 ชั้น พร้อมที่จอดรถส่วนตัว 2 คันต่อยูนิต มอบพื้นที่ใช้สอย 254-400 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 24-50 ตารางวา หน้าบ้านกว้าง 5.5 – 12.3 เมตร เหนือกว่าด้วยเพดานชั้นล่างสูงถึง 3 เมตร พรั่งพร้อมด้วยการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายขึ้นสำหรับการอยู่อาศัยและทำธุรกิจการค้าด้วยลิฟท์ส่วนตัวจากแบรนด์ชั้นนำอย่าง KONE ประเทศฟินแลนด์ ที่ใช้ในโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ทั่วโลก มอบความส่วนตัวและปลอดภัยอย่างสูงสุดด้วยกล้อง CCTV และอุปกรณ์ Smart Security ในทุกหลัง รังสรรค์ขึ้นอย่างเข้าใจทั้งในเรื่องของฟังก์ชั่นและคุณค่าอันส่งเสริมสิริมงคลในชีวิต สะท้อนผ่านรายละเอียดต่างๆของการออกแบบโครงการ ได้แก่ Façade ที่มาจาก ใบโคลเวอร์ 4 แฉก สัญลักษณ์แห่งความโชคดีและโชคลาภ บานหน้าต่างโค้งแรงบันดาลใจจากเกล็ดปลามังกรที่ช่วยปกป้องภยันตราย ระเบียงกระจกออกแบบสไตล์ Juliet Balcony ตลอดจนเลขที่บ้านหมายเลข 388 รวมกันแล้วได้ เลข 19 ซึ่งเลข 9 ตามหลักฮวงจุ้ยสื่อความหมายที่ดีเป็นมงคลอย่างยิ่ง โดยหยิบเอากลิ่นอายสถาปัตยกรรมแรงบันดาลใจการออกแบบอันโดดเด่นแบบโมเดิร์นคลาสสิกจากสไตล์ “ชิโน-โปรตุกีส” (Sino–Portuguese)
ที่อนุรักษ์เสน่ห์ของย่านอันคลาสสิกแห่งนี้ ผสมผสานกลิ่นอายและบริบทวัฒนธรรมดั้งเดิมของวิถีชีวิตชาวไทย เชื้อสายจีนเข้ากับงานดีไซน์ของยุคสมัยปัจุจบันอย่างกลมกลืน ทั้งยังเปี่ยมด้วยฟังก์ชั่นแบบอเนกประสงค์ ที่สามารถทำการค้าและอยู่อาศัยได้ในแห่งเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกแบบบ้านได้ถึง 3 แบบเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและการใช้งานของแต่ละครอบครัว ตลอดจนเพื่อการทำธุรกิจ ได้แก่ แบบ Standard ออกแบบสไตล์การตกแต่งและฟังก์ชั่นการใช้งานในแบบของคุณเอง Home Office สำนักงานขายที่สานต่อธุรกิจของครอบครัว หรือ Residence ที่อยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรี่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในปัจจุบันของเจนเนอเรชั่นยุคใหม่ผ่านการออกแบบในทุกพื้นที่ ทุกฟังก์ชั่น เพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น สะท้อนความหรูหราทันสมัย
“เราหวังว่า Tiger Lane จะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเรียลดีมานด์หรือผู้ที่ลงทุนธุรกิจในย่านนี้ได้อย่างดี โดยจะเริ่มเปิดขายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 5 ยูนิตในวันที่ 31 ส.ค. และ 1ก.ย.นี้ ณ สำนักงานขาย โครงการ Tiger Lane พร้อมมอบพริวิเล็จพิเศษ และพบกับ ซินแสฮวงจุ้ยชื่อดัง Top 5 ของประเทศ ที่จะมาร่วมแนะนำการแต่งบ้านและออฟฟิศตามหลักฮวงจุ้ยเสริมความมั่งคั่งธุรกิจ คาดว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีสามารถปิดการขายได้ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว และส่งมอบที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จพร้อมโอนตามกำหนดรับ ส่งผลให้ยอดขายบริษัทฯปีนี้ สามารถเป็นไปตามเป้าที่ 29,000 ล้านบาท ” นายปิติ กล่าวสรุป
