ตลาดบ้านพักสูงวัยหรูในไทยมีศักยภาพสูง
จากการที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงวัย ทำให้มีการพัฒนาโครงการบ้านพักคนชราเพิ่มขึ้นทั้งโดยภาครัฐ และเอกชน ในขณะที่โครงการเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพื่อรองรับผู้สูงวัยชาวไทย โครงการระดับหรูที่เอกชนพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับผู้สูงวัยชาวต่างชาติและผู้สูงวัยชาวไทยจากครอบครัวที่มีฐานะ มีจำนวนไม่มากและมีโอกาสขยายตัว ตาม
นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ เจแอลแอล กล่าวว่า ตลาดบ้านพักผู้สูงวัยระดับหรูในประเทศไทยยังเป็นตลาดที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่มีศักยภาพสูงที่จะเติบโตในอนาคต
ที่ผ่านมา ตลาดบ้านพักผู้สูงวัยระดับหรูมีความต้องการจากชาวไทยค่อนข้างจำกัด เนื่องจากสังคมไทยโดยทั่วไปให้การดูแลที่ดีสำหรับสมาชิกผู้สูงอายุในครอบครัว นอกจากนี้ ชาวไทยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่มีฐานะดี รู้สึกเป็นเรื่องน่าอายที่จะส่งสมาชิกผู้สูงอายุในครอบครัวให้ไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักคนชรา
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต
“หนึ่งในจุดขายที่สำคัญของบ้านพักผู้สูงวัยระดับหรู คือการมีบริการดูแลด้านการพยาบาลคุณภาพสูงสำหรับผู้สูงอายุ ดังนั้น ครอบครัวไทยสมัยใหม่อาจสะดวกใจมากขึ้นที่จะส่งผู้สูงอายุที่ต้องการความช่วยเหลือมากเป็นพิเศษหรือไม่อยู่ในสภาพที่สามารถเหลือตนเองได้ ให้ไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักผู้สูงวัยที่มีความพร้อมด้านบุคคลากรและอุปกรณ์ในการดูแลด้านการพยาบาลที่ดีกว่า” นางสุพินท์อธิบาย
นอกจากนี้ ในสังคมไทยสมัยใหม่ มีคนไทยจำนวนมากจากยุคเบบี้บูมเมอร์ที่กำลังมีอายุมากขึ้น และมีฐานะทางการเงินที่ดี ซึ่งคนไทยฐานะดีกลุ่มนี้ มีจำนวนมากที่กำลังวางแผนการใช้ชีวิตเมื่ออายุมากโดยไม่ต้องการเป็นภาระให้กับลูกหลาน จึงมีศักยภาพในการสร้างความต้องการสำหรับบ้านพักผู้สูงวัยระดับหรูในอนาคต
มีโครงการบ้านและคอนโดหลายโครงการในประเทศไทย โดยเฉพาะตามเมืองตากอากาศ ที่ประกาศตัวว่าเป็นบ้านพักผู้สูงวัยระดับหรู โดยเน้นจุดขายของการมีสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับการอยู่อาศัยหลังเกษียณ อย่างไรก็ดี มีโครงการจำนวนไม่มากที่มีคุณสมบัติของการเป็นบ้านพักผู้สูงวัยอย่างแท้จริง
นายเด็กซ์เตอร์ นอร์วิลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล กล่าวว่า นอกเหนือจากการจัดสรรที่พักอาศัย โครงการบ้านหรือคอนโดที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับผู้สูงวัยโดยเฉพาะ ควรต้องมีการเสนอบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องร่วมด้วย ซึ่งสามารถจัดสรรให้ได้ตามความต้องการที่แตกต่างกันตามอายุและสุขภาวะของผู้สูงวัยแต่ละคน อาทิ บริการดูแลงานบ้าน การดูแลอาหารการกิน การบริหารจัดการเรื่องการแพทย์ การจัดกิจกรรมสันทนการ ตลอดจนถึงการดูแลพยาบาลสำหรับผู้สูงวัยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้
“แม้จะมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไทยหลายรายที่เล็งเห็นศักยภาพที่จะมีความต้องการบ้านพักผู้สูงวัยระดับหรูในประเทศไทยเพิ่มขึ้นในอนาคต ทั้งจากชาวต่างชาติและชาวไทยที่มีฐานะ แต่ความท้าทายสำคัญอยู่ที่การขาดองค์ความรู้ในการพัฒนาโครงการ การดำเนินการ การบริหารจัดการ และการตลาด ทั้งนี้ หนึ่งในกลยุทธ์ที่อาจช่วยให้ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของไทยขยายเข้ามาในตลาดใหม่นี้ได้ง่ายขึ้นคือการร่วมลงทุนกับบริษัทต่างชาติที่มีความเชี่ยวชำนาญสูงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้ ซึ่งมีองค์ความรู้ในการออกแบบ การดำเนินการ การบริหารจัดการ และการตลาด” นายเด็กซ์เตอร์กล่าว
บทความโดย PropDNA