ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ประเมินปี” 61ตลาดขยายตัว 8.2% บ้าน–คอนโด เปิดใหม่กรุงเทพฯ–ปริมณฑล 1.17 แสนหน่วย เผยบิ๊กเนม 29 ราย มีมูลค่าโครงการไม่ต่ำ6.1แสนล้านบาท
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยในฐานพรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ว่าสถานการณ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศในปี 2561 คาดขยายตัวเพิ่มขึ้น 8.2% ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จะมีการขยายตัว 10.7% ส่วนตลาดในจังหวัดภูมิภาค ขยายตัว 4.2% โดยคาดอัตราการขยายตัวในด้านหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย 7.9% มีอัตราการขยายตัวด้านมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ 10.8% และมีอัตราการขยายตัวด้านยอดปล่อยใหม่สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อที่อยู่อาศัย 2.8% และมีอัตราการขยายตัวที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียน10.9%
พร้อมคาดการณ์ว่า ปี 2561 ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลจะมีหน่วยโครงการเปิดขายใหม่ประมาณ 117,100 หน่วย ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ราว 2.8 % โดยมีช่วงคาการณ์อยู่ที่ประมาณ 107,800-128,800 หน่วย สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยในภูมิภาคคาดการณ์ว่า จะมีหน่วยที่อยู่อาศัยเสนอขายรวมประมาณ 111,300 หน่วย แบ่งเป็น โครงการบ้านจัดสรร 79,900 หน่วย และโครงการอาคารชุด 31,400หน่วย
นายวิชัย พร้อมคาดการณ์ ในปี 2561 จะมีมูลค่าการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 29บริษัท มีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 611,800 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยปี 2560 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งด้านอุปทาน และอุปสงค์ ทำให้อัตราการดูดซับดีขึ้น ซึ่งตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ยังคงมีแนวโน้มที่ดีกว่าตลาดที่อยู่อาศัยในภูมิภาค
โครงการเปิดตัวใหม่ปี 2560 ลด18.6% เมื่อพิจารณาประเภทโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ พบว่า ในปี 2560 มีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล รวม 385โครงการ จำนวน 113,926 หน่วย มูลค่ารวม 491,878 ล้านบาท จำนวนโครงการลดลงจากปีก่อน 18.6% จำนวนหน่วยเพิ่มขึ้น 7.9 %
ในขณะที่มูลค่าโครงการเพิ่มขึ้น 22.9 % ทั้งนี้ เมื่อแยกตามประเภทบ้านและระดับราคา พบว่า โครงการบ้านจัดสรรเปิดตัวใหม่ในปี 2560 เป็นประเภททาวน์เฮาส์มากที่สุด 67% ของจำนวนหน่วยที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด และส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท ขณะที่โครงการอาคารชุดเปิดตัวใหม่เป็นประเภท 1 ห้องนอนมากที่สุด 74.8 % ของหน่วยที่เปิดตัวใหม่ทั้งหมด และส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท
สำหรับทำเลที่มีหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุด 5 อันดับแรก ประเภทบ้านจัดสรร ได้แก่ 1.สมุทรปราการ 2.ลำลูกกา – คลองหลวง – ธัญบุรี –หนองเสือ3.บางกรวย – บางใหญ่ – บางบัวทอง – ไทรน้อย 4.มีนบุรี –หนอกจอก – คลองสามวา – ลาดกระบัง และ 5.เมืองนนทบุรี – ปากเกร็ด สำหรับทำเลที่มีหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุด 5 อันดับแรก ประเภทอาคารชุด ได้แก่ 1.ธนบุรี 2.ห้วยขวาง – จตุจักร – ดินแดง 3.สุขุมวิทตอนต้น4.นนทบุรี และ 5. พญาไท –ราชเทวี
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาแยกตามประเภทโครงการในปี 2560 พบว่า โครงการบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่มีจำนวน 232 โครงการ 44,353 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 195,188 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปี 2559 ทั้งจำนวนโครงการจำนวนหน่วยและมูลค่าโครงการ ส่วนโครงการอาคารชุดเปิดขายใหม่มีจำนวน153 โครงการ 69,574 หน่วยมูลค่าโครงการรวม 296,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ทั้งจำนวนโครงการ จำนวนหน่วย และมูลค่า รวมทั้งราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยโครงการอาคารชุดเปิดขายใหม่ในปี 2560 เพิ่มขึ้นจาก 3.55 ล้านบาทในปี 2559 เป็น 4.26 ล้านบาท
ราคา2-3 ล้านบาทขายดีสุดในต่างจังหวัด
สำหรับภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในภูมิภาคจากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ครอบคลุมพื้นที่ 20 จังหวัด พบว่า มีการเปิดโครงการที่อยู่อาศัยประเภทโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 1,775 โครงการรวม 207,655 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 688,281 ล้านบาท เป็นประเภทโครงการอาคารชุดจำนวน506 โครงการ รวม 148,525 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 459,919ล้านบาท เมื่อแยกตามระดับราคา กลุ่มราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท ยังเป็นประเภทสินค้าที่มีเสนอขายสูงสุด
“ภาพโดยรวมตลาดที่อยู่อาศัยจะยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยองค์ประกอบสำคัญของตลาดที่อยู่อาศัยยังคงอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลซึ่งเป็นการเติบโตของอาคารชุดเป็นหลัก ขณะที่ในภูมิภาคเป็นการเติบโตในตลาดทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยวเป็นหลัก”