แสนสิริ” ประกาศยุทธศาสตร์ลงทุนภูเก็ต 5 ปี ผุด 16 โครงการ มูลค่า 15,000 ลบ. เคียงข้างชาวภูเก็ต สร้างสังคมยั่งยืน มั่นใจทำเลศักยภาพเป็นเมืองระดับโลก

แสนสิริ” ประกาศยุทธศาสตร์ลงทุนภูเก็ต 5 ปี ผุด 16 โครงการ มูลค่า 15,000 ลบ.
เคียงข้างชาวภูเก็ต สร้างสังคมยั่งยืน มั่นใจทำเลศักยภาพเป็นเมืองระดับโลก

 

  • แสนสิริ ผู้นำอสังหาฯ ของประเทศ ยกภูเก็ตเป็น Strategic Location เดินหน้า แผนลงทุนระยะยาว 5 ปี เปิด 16 โครงการใหม่ มูลค่า 15,000 ล้านบาท พร้อมเปิดตัว Sansiri Hub อย่างเป็นทางการรองรับการขยายตัวระดับภูมิภาค
  • ประกาศกลยุทธ์สานต่อความสำเร็จต่อเนื่อง 15 ปี เสิร์ฟที่อยู่อาศัยคุณภาพทั้งแนวราบ แนวสูงมาแล้ว 21 โครงการ มูลค่าการลงทุนสะสม 21,000 ล้านบาท สอดรับความต้องการของทุกกลุ่ม และร่วมสร้างสังคมยั่งยืนให้กับภูเก็ต
  • เดินหน้า ขยายเม็ดเงินลงทุนเพิ่ม ภายใน 5 ปี คาดมูลค่าโครงการรวมแตะ 36,000 ล้านบาท มั่นใจทำเลภูเก็ตมีศักยภาพเติบโตได้ไกลเป็นที่หมายตาทั้งนักท่องเที่ยวและนักลงทุนระดับโลก

นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ผู้นำกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ เปิดเผยว่า แสนสิริให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยในหัวเมืองใหญ่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภูเก็ตที่แสนสิริเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอสังหาฯ ซึ่งได้กำหนดเป็น Strategic Location หรือพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญของบริษัทในการดำเนินธุรกิจ โดยล่าสุดได้วางแผนกลยุทธ์ 5 ปี (2566-2570) เพื่อเปิดตัวโครงการใหม่รวม 16 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 9 โครงการ และโครงการแนวสูง 7 โครงการ ที่สำคัญ ภูเก็ตมีศักยภาพการเติบโตสูง โดยแสนสิริ พร้อมขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และอยู่ระหว่างการพูดคุยกับ Business Partner และผู้ประกอบการท้องถิ่น เพื่อหาโอกาสในการลงทุนและพัฒนาโครงการร่วมกัน

 “แสนสิริเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้บุกเบิกตลาดที่อยู่อาศัยในภูเก็ตมาอย่างยาวนานและได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดภูเก็ตมากว่า 15 ปี ผ่านโครงการแนวราบและแนวสูงรวม 21 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนสะสม 21,000 ล้านบาท สามารถตอบโจทย์ได้ทุกกลุ่มลูกค้า ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ในทุกโปรดักส์ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ทุกทำเลในภูเก็ต ซึ่งเมื่อรวมกับโครงการใหม่ที่มีแผนลงทุนต่อเนื่องใน 5 ปี อีก 16 โครงการ จะส่งผลให้แสนสิริมีโครงการรวมกันมากถึง 37 โครงการ มูลค่ารวม 36,000 ล้านบาทนายอภิชาติ กล่าว

นอกจากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แล้ว แสนสิริยังมีความมุ่งมั่นตามแนวคิดการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอย่างยั่งยืน โดยนำเอกลักษณ์และวัฒนธรรมท้องถิ่นต่างๆ มาผสานในการออกแบบโครงการ รวมถึงมุ่งมั่นร่วมสืบสานประเพณีสำคัญระดับโลกอย่างประเพณีถือศีลกินผักซึ่งนับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของภูเก็ตต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 รวมถึงส่งเสริมเยาวชนในพื้นที่ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพผ่านโครงการ Sansiri Academy ที่ได้ร่วมส่งเสริมสร้างทักษะการเล่นฟุตบอลให้กับเด็ก และเยาวชนในพื้นที่กว่า 5,000 คน เพื่อให้น้องๆ เยาวชนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์จากการเล่นกีฬา และพัฒนาทักษะกีฬาฟุตบอล และฝึกซ้อมที่ถูกต้อง สามารถพัฒนาเป็นนักเตะมืออาชีพได้ในอนาคต ที่ผ่านมาได้มีการจัดกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กที่ภูเก็ต โดยการพาอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไปร่วมลงพื้นที่ถ่ายทอดประสบการณ์ให้เด็กๆ นอกจากนี้ ยังได้วางแผนต่อยอดในการจัดการแข่งขันให้เยาวชนในพื้นที่ได้มีเวทีในการแสดงฝีเท้าในปีหน้าอีกด้วย

 ภูเก็ต เป็นจังหวัดที่สำคัญทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย เป็น World Class Tourist Destination และ World Class Investment Destination ทั้งนักลงทุนจากประเทศเอเชีย และยุโรป ที่มองหาการลงทุนอสังหาฯ ในภูเก็ตที่มีอัตราเพิ่มขึ้นทุกปี อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของตลาดภูเก็ต ภายในปีหน้า (2567) แสนสิริได้วางแผนเปิดตัว Sansiri Hub หรือออฟฟิศของแสนสิริขึ้นมาอย่างเป็นทางการ และจะเป็นฮับในภูมิภาค ที่พร้อมดูแลและให้บริการลูกค้าในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือต่างชาติ

“จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าในช่วงเดือนมกราคม – กันยายน 2566 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าภูเก็ตแล้วกว่า 8.2 ล้านคน มีรายได้รวมกว่า 2.6 แสนล้านบาท และคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ตถึง 10 ล้านคน และมีรายได้รวมกว่า  3 แสนล้านบาท หากพิจารณาในด้านของประชากร พบว่าภูเก็ตมีประชากรในพื้นที่กว่า 1  ล้านคน (ตามทะเบียนราษฎร 400,000 คน ประชากรแฝงสูงถึง 700,000 คน) ซึ่งนอกจากจะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวของภูเก็ตแล้ว ยังส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโตตามไปด้วย เห็นได้จากคอนโดมิเนียมของ แสนสิริที่มียอดจำนวนผู้พักอาศัย (Occupancy Rate) สูงมาก รวมถึงตัวเลขความสำเร็จจากการเปิดตัวตัวโครงการเดอะ เบส บูกิต ภูเก็ต (THE BASE Bukit Phuket) ที่สามารถสร้างยอดขายในช่วงพรีเซลล์ไปกว่า 50% ในส่วนของภาพรวมตลาดแนวราบ พบว่าโครงการ Pool Villa ที่เปิดขายโดยทั่วไปได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ทั้งรัสเซีย ยุโรป อเมริกาและจีน เป็นอย่างดีเช่นกัน และในอนาคตภาครัฐได้เตรียมแผนลงทุนในการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตอย่างเร่งด่วนด้วยมูลค่ารวม 1.48 แสนล้านบาท ทั้งการขยายสนามบินภูเก็ต แผนการคมนาคมทั้งถนนและระบบราง ซึ่งจะก่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ กระตุ้นให้เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ในพื้นที่ ส่งผลให้ภูเก็ตเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยแสนสิริพร้อมสนับสนุนการเติบโตของจังหวัดภูเก็ตด้วยแผนยุทธศาสตร์การลงทุนระยะยาวอย่างต่อเนื่องเช่นกัน” นายอภิชาติ กล่าว

ล่าสุด ภูเก็ต ได้จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการที่พักสีขาวสำหรับชาวต่างชาติ (ปลอดอาชญากรรมและยาเสพติด) จังหวัดภูเก็ต (Phuket Crime-Free)  ระหว่างจังหวัดภูเก็ต ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต, ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต, สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ตฝ่ายหนึ่ง กับ หอการค้าจังหวัดภูเก็ต, สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต ,สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต,สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ และ Phuket Hotel Association ในการสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

เมื่อเร็วๆ นี้ แสนสิริ ได้รับการคัดเลือกให้เป็น Most Valuable Real Estate Brand 2023 หรือ แบรนด์อันดับ 1 ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่มีมูลค่าแห่งอนาคตสูงสุดประจำปี 2023 มู่งสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย และการเติบโตในระดับโลก อีกทั้งสะท้อนถึงความสามารถทางการแข่งขัน นอกเหนือจากตัวเลขทางด้านยอดขายและกำไร โดยแสนสิริยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำผู้นำแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้านในด้านการพัฒนาโปรดักส์ และการวางกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่ง ตอบโจทย์และตรงใจกับความต้องการของผู้บริโภคในทุกเซกเมนต์ทั้งดีไซน์ ฟังก์ชั่น คุณภาพและบริการครอบคลุมทุกช่วงของการอยู่อาศัย พร้อมมุ่งนำเสนอไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่มากกว่า ตลอดจนส่งมอบมาตรฐานการดูแลเพื่อชีวิตดี ๆ ให้กับทุกคนในทุกวันกับแสนสิริ ภายใต้แนวคิด Sansiri Made for Life เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุก Generation ทุก Segment สอดคล้องตาม DNA คือ Speed to Market พร้อมรับฟังเสียงของ Stakeholder และสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย