แสนสิริคาดทุบสถิติยอดโอน ธ.ค. ปี 65 New Record High เดือนเดียวทะลุ 9,000 ล้านบาท ดันกำไรไตรมาส 4 และ รอบปี พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

แสนสิริคาดทุบสถิติยอดโอน ธ.ค. ปี 65 New Record High
เดือนเดียวทะลุ 9,000 ล้านบาท
ดันกำไรไตรมาส 4 และ รอบปี พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
 

  • SIRI – แสนสิริคาดแนวโน้มยอดโอนที่อยู่อาศัยเดือน ธ.ค. เดือนเดียวทะลุ 9,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็น New Record High สูงสุดเป็นประวัติการณ์สร้างผลงานยอดโอนใน 1 เดือน และโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 67%
  • คาดบุคยอดโอนแนวราบเดือนเดียวสูงถึง 5,000 ล้านบาท และยอดโอนคอนโดมิเนียม 4,000 ล้านบาท ไฮไลท์ยอดโอนจากโครงการ บ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่และลักซ์ชัวรี่ นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา และ บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา และยอดโอนคอนโดมิเนียม จากโครงการ เอ็กซ์ที พญาไท, เอ็กซ์ที ห้วยขวาง และ เดอะ มูฟ เกษตร สะท้อนการบริหารจัดการงานก่อสร้างที่อยู่อาศัยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  • ดันกำไรปี 65 พุ่งสูงสุด New Record High ทุบทุกสติถิผลงานกำไรสูงสุดที่เคยทำได้ในรอบ 38 ปี ทั้งในรายไตรมาสและรอบปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
  • คาดผลการดำเนินงานปี 65 เติบโตโดดเด่น ทั้งยอดขาย รายได้ที่มาจากการโอน และกำไร 

นายอุทัย  อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผย ว่า ผลการดำเนินงานในปี 2565 ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา นับว่าแสนสิริประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจภายใต้สภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ทยอยฟื้นตัว โดยบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า ทั้งในด้านยอดขายและโอนโครงการ มีผลงานการโอนที่โดดเด่นทั้งในแนวราบและแนวสูงสะท้อนการบริหารจัดการงานก่อสร้างที่อยู่อาศัยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยคาดว่าบริษัทจะสามารถทำผลงานโอนโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่สร้างเสร็จและส่งมอบให้กับลูกค้าเฉพาะในเดือนธันวาคมนี้ ได้สูงถึง 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะนับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ยอดโอนที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของแสนสิริภายในเวลาเพียง 1 เดือน โตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 67% แบ่งเป็นยอดโอนจากโครงการแนวราบประมาณ 5,000 ล้านบาท จากแผนการโอนโครงการภายใต้พอร์ต Sansiri Luxury Collection ในทำเลกรุงเทพกรีฑา ได้แก่ “นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา” และโครงการระดับลักซ์ชัวรี “บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา” นอกจากนี้แสนสิริยังมียอดโอนจากโครงการคอนโดมิเนียมที่คาดว่าจะทำได้อีกประมาณ 4,000 ล้านบาท จากแผนการโอนโครงการเอ็กซ์ที พญาไท, เอ็กซ์ที ห้วยขวาง และ เดอะ มูฟ เกษตร เป็นต้น

“ภาพรวมความสำเร็จจากการดำเนินธุรกิจในตลอดทั้งปี 65 มาจากความพร้อมด้วยแผนปรับเปลี่ยนรับมือทุกสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา ภายใต้กลยุทธ์ Speed to Market #2 มองตลาดเร็วและพร้อมปรับตัวไวรองรับทุกสถานการณ์ รับตลาดอสังหาฯ ฟื้น และดีมานต์ลูกค้าต่างชาติ จากสัญญาณบวกเศรษฐกิจ ในการเปิดประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวและจำนวนเที่ยวบินต่างประเทศและยอดผู้โดยสารต่างชาติเดินทางเข้าประเทศพุ่ง ส่งผลที่ดีต่อตลาดอสังหาฯ รวมถึงแสนสิริที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้ามาโดยตลอด ยังรวมถึงการบริหารเงินสดในมือที่ดี ด้วยการกำสภาพคล่องถึง 16,000 ล้านบาท ส่งผลให้แสนสิริเป็นองค์กรที่มีสภาพคล่องสูง มีกระแสเงินสดที่มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจ มีความมั่นคงด้านการเงินจากการบริหารองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้แสนสิริมีผลงานที่ดีสวนสภาวะตลาด” นายอุทัย กล่าว

นอกจากนี้ยอดขายและยอดโอนที่ประสบความสำเร็จยังมาจากแบรนด์ที่แข็งแกร่งของแสนสิริ สะท้อนความเชื่อมั่นในการเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้านด้วยมาตรฐานการออกแบบและคุณภาพโครงการ ตลอดจนบริการหลังการขายหรือ Sansiri Service ที่สามารถครองใจผู้บริโภค จากการเป็นผู้นำด้านการบริการในที่อยู่อาศัย และความมั่นใจสูงสุดด้านความปลอดภัยจาก LIV-24 ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญอันดับหนึ่งที่ทำให้กลุ่มลูกค้าเลือกแสนสิริ

“ผลงานยอดโอนที่ทำผลงานได้ดีในช่วงเดือนธันวาคม จะส่งผลให้แสนสิริประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายยอดโอนรวมปี 65 ที่วางไว้ 35,000 ล้านบาท รวมทั้งผลักดันให้กำไรสุทธิฯ ของแสนสิริปี 65 พุ่งสูงสุด ทะยานสู่ New Record High ทุบทุกสติถิผลงานกำไรสูงสุดที่เคยทำได้ในรอบ 38 ปี ทั้งในรายไตรมาสและรอบปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ขณะที่ภาพรวมการเติบโตนับจากนี้ แสนสิริ จะเป็นบริษัทที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ทั้งในด้านยอดขาย รายได้และกำไร” นายอุทัย กล่าว