แสนสิริดึงเทคโนโลยีระดับโลก “Amazon Web Services”
ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงทางนวัตกรรมการอยู่อาศัยตอบโจทย์โลกยุคดิจิทัล
นำร่องด้วย Artificial Intelligence solutions จาก Amazon Web Services ระบบสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยครั้งแรกปี’61 พร้อมวางแผนสานต่อพัฒนานวัตกรรมการอยู่อาศัยระดับโลกระยะยาวร่วมกันในอนาคต
“แสนสิริ” ตอกย้ำความเป็นผู้นำ Proptech ในประเทศไทย ดึงเทคโนโลยีจากบริษัทระดับโลก “Amazon Web Services” ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มด้านไอทีผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Amazon.com ที่มีบริการหลากหลายรวมทั้งแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) โดยร่วมมือกับเดลิเทค พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีบนคลาวด์ ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงทางนวัตกรรมการอยู่อาศัยที่สำคัญ เรียกว่า ‘The New Era of Limitless Living’ พร้อมเติมเต็มการใช้ชีวิตในโลกยุคดิจิทัลไม่รู้จบ นำร่องพัฒนาระบบสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยครั้งแรกด้วยเทคโนโลยี Artificial Intelligence solutions จาก Amazon Web Services ให้เป็นผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะครบวงจร บนแพลทฟอร์มชั้นนำของโลก พร้อมให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2561 อนาคตเดินหน้าสานต่อพัฒนานวัตกรรมการอยู่อาศัยระดับโลกร่วมกันในระยะยาว
ดร. ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยีและวิเคราะห์ข้อมูล บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปีนี้นับเป็นปีแห่งการปรับเปลี่ยนองค์กรของแสนสิริอย่างรอบด้านเพื่อให้บริษัทฯ เติบโตและรักษาความเป็นผู้นำได้อย่างยั่งยืน สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือการลงทุนด้านนวัตกรรม เพราะประสบการณ์เกือบ 35 ปีของเราในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทำให้แสนสิริเห็นความเปลี่ยนแปลงในไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าในยุคที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เราเชื่อว่าเทคโนโลยีจะตอบโจทย์ของลูกค้าได้ดี จึงได้พยายามนำเทคโนโลยีมาต่อยอดใช้ประโยชน์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในมิติใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อยกระดับการบริการที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านและรักษาความเป็นผู้นำในการบุกเบิกและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยของวงการอสังหาริมทรัพย์”
แสนสิริเป็นบริษัทที่เน้นการพัฒนาจากมุมมองของลูกค้า มองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง Customer Centric ทั้งนี้เป็นความโชคดีที่น่าภาคภูมิใจของแสนสิริที่เราสามารถสร้างข้อได้เปรียบในการทำธุรกิจจาก DNA ของทุกคนในองค์กรที่ทำงานด้วยทัศนคติการเปิดรับและพัฒนาสิ่งใหม่ๆอย่างไม่หยุดนิ่ง ที่เราไม่เพียงจะมาช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ ควบคู่ไปกับการวิจัยและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งด้วยตัวเองและร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกบ้านอย่างตรงจุด เราเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร ไลฟ์สไตล์เป็นแบบไหน ซึ่งเราจะต้องพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆอย่างต่อเนื่อง เพราะความต้องการของลูกค้าไม่เคยหยุดนิ่ง เพื่อให้ “เติมเต็มการอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ (Complete Your Living Experience)”
“ในปีนี้แสนสิริได้เดินหน้ารุก Innovation อย่างเต็มที่ โดยเราอยู่ระหว่างการสร้าง Innovation Center เพื่อให้เป็นแหล่งแสดงผลงาน และเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการอยู่อาศัยของแสนสิริโดยเฉพาะ พร้อมทั้งแสวงหาพันธมิตรที่มีศักยภาพระดับโลกและมีวิสัยทัศน์ตรงกันในการมองความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ และพัฒนาสินค้าและบริการจากมุมมองของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่างอะเมซอนและเดลิเทคในวันนี้ จะทำให้ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงทางนวัตกรรมการอยู่อาศัยที่สำคัญ เรียกว่า ‘The New Era of Limitless Living’ ที่จะช่วยเติมเต็มการใช้ชีวิตในโลกยุคดิจิทัลไม่รู้จบในทุกๆ ด้าน” ดร.ทวิชา กล่าวเสริม
การทำงานร่วมกันในครั้งนี้ ใช้เทคโนโลยีจากบริษัทระดับโลกอย่าง “Amazon Web Services” โดยเริ่มจากการพัฒนาแอพพลิเคชั่น Home Service ของแสนสิริให้เป็น “ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ” โดยการใช้เทคโนโลยี Artificial Intelligence solutions จาก Amazon Web Services ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มสำหรับฟังก์ชั่นการสั่งงานด้วยเสียงที่ใช้งานง่ายและเป็นธรรมชาติ นับเป็นการปฏิวัติรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้ใช้แอพพลิเคชั่นให้สามารถจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ได้จากทุกที่ ทุกเวลา เพื่อความสะดวกสบายของลูกค้าตอบโจทย์การอยู่อาศัยในยุคดิจิทัล
ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยบริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงว่า “เรามีความยินดีที่แสนสิริและเดลิเทค ได้เลือกเทคโนโลยีของ Amazon Web Services นำร่องด้วยเทคโนโลยี Artificial Intelligence มาใช้ในการเดินหน้าสู่การปฏิวัติองค์กร ด้วยความมุ่งมั่นของ Amazon Web Services ในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้งให้กับลูกค้า และการที่ แสนสิริเดินหน้าปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ สะท้อนให้เห็นว่าทั้งสองบริษัทมีวิสัยทัศน์สอดคล้องกัน โดยคำนึงถึงลูกค้าเป็นสำคัญ”
ความสำเร็จครั้งนี้จึงเป็นการเดินทางมาบรรจบกันอย่างลงตัวของโลกเทคโนโลยีและโลกอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ผู้ที่จะได้ประโยชน์สูงสุดก็คือลูกค้าและผู้ใช้งานที่เชื่อมั่นได้ว่าจะได้รับประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
ดร.วิชญ์ เนียรนาทตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลิเทค จำกัด ผู้เป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีในการทำงานร่วมกันครั้งนี้ กล่าวถึงการพัฒนาความสามารถของเทคโนโลยี Artificial Intelligence solutions จาก Amazon Web Services ในการรองรับภาษาไทยสำหรับแสนสิริว่า “บริษัทเดลิเทคมีความยินดี ที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนานวัตกรรมสำหรับแสนสิริ เรานำเทคโนโลยีจาก Amazon Web Services ที่มีจุดเด่นคือใช้งานง่าย มีการบริการที่หลากหลาย และเปิดให้นักพัฒนาสามารถนำมาต่อยอดเพื่อให้เกิดบริการใหม่ ๆ โดยเดลิเทคได้คัดสรรฟังก์ชั่นที่จะนำร่องให้บริการเกี่ยวกับความสะดวกสบายของลูกบ้านแสนสิริพร้อมใช้งานในปี 2561 ดังนี้
- การรับคำสั่งพื้นฐานของฟังก์ชั่นต่างๆ ที่สอดรับกับการดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบยอดค่าน้ำ ตรวจเช็คพัสดุ การจองและตรวจสอบสถานะการใช้งานของห้องส่วนกลาง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในโครงการ เช่น การเปิดจองบริการของห้องโยคะ เป็นต้น
- Sansiri Home Automation Control เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ใดก็สามารถสั่งงานได้ด้วยการใช้เสียง ทั้ง เปิด-ปิดไฟ เครื่องปรับอากาศ ม่านไฟฟ้า หรือเปิด-ปิดเปลี่ยนช่องโทรทัศน์
- เพิ่มขีดความสามารถในการใช้งานให้โต้ตอบได้หลากหลายมากขึ้น สามารถให้ข้อมูลพื้นฐานต่างๆ ได้ เช่น พยากรณ์อากาศ เช็คสภาพการจราจร สรุปข่าวรายวัน ฯลฯ ซึ่งผู้ใช้สามารถสั่งการทำงานไม่ว่าจะอยู่ในมุมไหนของห้องก็ตาม
- ตอบรับชีวิตยุคดิจิทัลด้วยการเชื่อมต่อความสนุกอย่างไม่รู้จบ สามารถฟังเพลงไทย หรือรับคลื่นวิทยุในประเทศไทย
ดร. ทวิชา กล่าวสรุปว่า “แสนสิริจะยังคงนำเทคโนโลยีระดับโลกจาก Amazon Web Services มาใช้เพื่อพัฒนาบริการและฟังก์ชั่นใหม่ๆ ของ Home Service Application อย่างต่อเนื่อง โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับเดลิเทค ซึ่งจะทำให้แสนสิริมีนวัตกรรมต่างๆ มาสู่ลูกค้าได้อย่างง่ายดาย และมีประสิทธิภาพ โดยในอนาคตจะมุ่งเน้นบริการที่ครบวงจรและแตกต่าง ครอบคลุมตั้งแต่สุขภาพ อาหาร การเดินทาง ช้อปปิ้ง รวมทั้งการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะของ Amazon Web Services เข้ามายกระดับศักยภาพด้านการขาย การทำธุรกิจ และบริการของแสนสิริอีกด้วย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เติมเต็มไลฟ์สไตล์และประสบการณ์ของลูกค้าอย่างครบวงจร นอกจากนี้ในอนาคตแสนสิริจะตอกย้ำจุดยืนของแสนสิริในฐานะ market shaper ที่ไม่หยุดยั้งในการสรรหาความเชี่ยวชาญจากบริษัทระดับโลก มาช่วยยกระดับการให้บริการ สามารถมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยเหนือความคาดหมายให้ลูกค้า และเปิดให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์แบบ Glocal (Global+Local) หรือการที่ลูกค้าได้มีโอกาสใช้ชีวิตระดับโลกได้อย่างง่ายๆ”
เตรียมสัมผัสความอัจฉริยะของการสั่งงานภาษาไทยด้วยเทคโนโลยี Artificial Intelligence solutions จาก Amazon Web Services ที่รองรับทุกสำเนียงภาษา ที่พร้อมจะให้บริการแก่ลูกบ้านโครงการของแสนสิริอย่างเต็มรูปแบบในปี 2561