แสนสิริเปิดตัว “XT”คอนโดแนวคิดใหม่เลือกห้องได้ไลฟ์สไตล์ ชูจุดขาย Co -Sharing Spaces

แสนสิริ เปิดตัว”XT” คอนโดมิเนียมแนวคิดใหม่เลือกห้องได้ตามไลฟ์สไตล์ หวังมัดใจลูกค้ากลุ่มมิลเลนเนียล พร้อมชูจุดขาย “Co- Sharing Spaces” แชร์พื้นที่ส่วนกลางข้ามโครงการ นำร่องเปิด 3 โครงการ เอกมัย -ห้วยขวาง-พญาไท มูลค่ารวม 2.1 หมื่นล้าน

นายนพปฎล พหลโยธิน ประธานบริหารฝ่ายสร้างสรรค์ บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน)  กล่าวว่า แนวคิดการเปิดคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ ” XT” (เอ็กซ์ที) เป็นการพัฒนามาจากการวิจัยและศึกษาพฤติกรรมเป้าหมายกลุ่มลูกค้ามิลเลนเนียล หรือผู้ที่เกิดในช่วงระหว่างปี 2523-2543 ซึ่งเป็นฐานกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตเฉพาะตัว รักอิสระ มีความเป็นตัวเองสูง มีกำลังซื้อและความพร้อมในการจับจ่ายใช้สอย

กลุ่มมิลเลนเนียล ยังเป็นกลุ่มคนที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เห็นได้จากพนักงานของแสนสิริเอง ก็เป็นคนมิลเลนเนียลมากถึง 60% และหากดูตามสถิติของลูกค้าแสนสิริตั้งแต่ปี 2556-2560 จะพบว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่อายุตั้งแต่ 21-30 ปี มาซื้อโครงการของแสนสิริเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 25% ในระยะเวลา 5 ปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก นับเป็นตลาดที่สำคัญและมีแนวโน้มเติบโตสูง 

กลุ่มคนมิลเลนเนียล นับเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่แสนสิริจับตามอง ด้วยความโดดเด่นทางพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้เกือบ80%ของชาวมิลเลนเนียลยังให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ หรือ Experience Over Things ใช้ชีวิตผ่านเทรนด์ Sharing Economy มากกว่าการครอบครองทรัพย์สิน เป็นที่มาของการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่จะตอบโจทย์ความต้องการคนมิลเลนเนียลและเป็นที่มาของการสร้างสรรค์แบรนด์ไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียม ภายใต้แนวคิด   “Extend Your Style” ขยายความเป็นตัวตนของลูกค้าตามความต้องการ

แสนสิริ ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการคอนโดมิเนียมเมืองไทย ที่เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจตัวตนและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง ทั้งในด้านทัศนคติ แนวความคิด พฤติกรรม ค่านิยม และความมุ่งหมายในชีวิต ไปจนถึงบุคลิกภาพ โดยการทำวิจัยร่วมกับ TCDC ตลอดจนรวบรวมข้อมูลจากงานวิจัยอื่นๆ แล้วจึงนำข้อมูลเหล่านั้นมาผ่านกระบวนการด้านดีไซน์ หรือ Design Thinking Process จนออกมาเป็นแบรนด์ XT ที่จะมอบประสบการณ์และสภาพแวดล้อมในการพักอาศัยที่ไม่เหมือนใคร

นอกจากนี้ แสนสิริยังได้นำข้อมูลที่ได้จากการศึกษาพฤติกรรมชาวมิลเลนเนียลมาสร้างนิยามใหม่ของการออกแบบการอยู่อาศัยด้วยแนวคิด Explore your space, Expand your lifestyle ที่ชู 3 จุดเด่นซึ่งถือเป็นการพลิกวงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อลูกบ้านสามารถออกแบบการอยู่อาศัยและการใช้ ได้แก่   EXPLORE YOUR SPACE with Personalized Room Layouts   อิสระในการเลือกรูปแบบห้องที่ออกแบบมาเพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ของชาวมิลเลนเนียลที่มีความหลากหลาย ผ่านรูปแบบห้อง 6 สไตล์ ได้แก่ The Fashionista ด้วย Walk-in closet ขนาดใหญ่ The Snoozy Head กับการขยายพื้นที่ห้องนอน The Visionary ที่มีพื้นที่ห้องทำงานกว้างขึ้น The Party Goer รองรับปาร์ตี้ด้วยห้องนั่งเล่นที่กว้างกว่า The Master Chef เอาใจสายทำอาหารด้วยห้องครัวที่เป็นสัดส่วน และ The Naturalist กับพื้นที่สีเขียวจากชานระเบียงร่มรื่น พร้อมด้วย Flexible Furniture ที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าผ่าน Home Service Application เพื่อปรับเปลี่ยนแปลนห้องให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ในแต่ละวัน

อีกจุดเด่น EXPAND YOUR LIFESTYLE at Co-Sharing Spaces – แพลตฟอร์มใหม่ของสังคมกลุ่มคนที่มีความชอบเหมือนกันกับการแลกเปลี่ยนการเข้าใช้ Co-Sharing Spaces ที่แตกต่างกันได้ทุกโครงการภายใต้แบรนด์ XT ซึ่งพัฒนาขึ้นมาจากแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบวัฒนธรรม Sharing Economy ในยุคปัจจุบัน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ทั้งการใช้ชีวิตและการทำงานที่หลากหลายของแต่ละคน ได้แก่ พื้นที่ Co Work/Play Space XT เอกมัย สำหรับการทำงานร่วมกัน Creative Studio XT ห้วยขวาง ที่เปิดโอกาสให้สร้างสรรค์งานศิลปะหลากแขนงร่วมกัน และ Co-Creation Space XT พญาไท ที่ให้ชาว XT สามารถเข้ามาสนุกและผ่อนคลายไปกับจินตนาการเสมือนจริงด้วย VR GAME ROOM และพื้นที่ Co-Sharing Spaces จากโครงการ XT ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้ ยังมี Virtual Activities  นำเสนอการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทด้วยเทคโนโลยีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่อง Virtual Exercise เทคโนโลยีการถ่ายทอดสดคลาสออกกำลังกายจากสตูดิโอฟิตเนสชื่อดัง นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Igloo Home สำหรับขอรหัสผ่านประตูแบบใช้ครั้งเดียวผ่านสมาร์ทโฟน ระบบ Home Automation สำหรับการควบคุมและสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในยูนิตและส่วนกลาง Smart Wash เครื่องซักผ้าอัจฉริยะที่เชื่อมต่อการแจ้งเตือนกับ Home Service Application, New Concept Convenience Store, อินเทอร์เน็ต Wi-fi ในพื้นที่ส่วนกลาง, ล็อกเกอร์อัจฉริยะ และ จุดชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้า

นายปิติ จารุกำจร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัวแบรนด์โครงการ XT พร้อมกันถึง 3 โครงการ บน 3 ทำเล ได้แก่ เอกมัย ห้วยขวาง พญาไท มูลค่ารวม 2.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งนับเป็นมูลค่าการเปิดตัวโครงการพร้อมกันสูงสุดในประวัติการณ์ของบริษัท โดยทำเลของโครงการ XT จะอยู่บนทำเลโดนใจชาวมิลเลนเนียล หรือ Central Millennial District (CMD) ที่ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์และการทำงานของคนเหล่านี้

โดยทั้ง 3 ทำเล Central Millennial District ที่แสนสิริคัดสรรที่ดินแปลงเด็ดในสุดยอดทำเลที่จะช่วยให้ชาวมิลเลเนียลสามารถประหยัดเวลา มี Extra Time in Life ประกอบไปด้วย XT เอกมัย ซึ่งเป็นโครงการที่แสนสิริร่วมกันพัฒนากับบริษัท โตคิว คอนสตรัคชัน จำกัด ตั้งอยู่ห่างจากสถานี BTS เอกมัย 1.5 กม. ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท โครงการนี้ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ไม่หยุดนิ่ง สนุกกับการทำงานและการใช้ชีวิต รักการสังสรรค์ยามค่ำคืน ชอบพบปะเพื่อนฝูง โดดเด่นด้วย Sky Lounge บนชั้นดาดฟ้าที่มาพร้อมวิวกรุงเทพฯแบบ 360 องศา พร้อมด้วยฟิตเนสและสระว่ายน้ำที่เป็น Swimming Pool Cinema


โครงการ XT ห้วยขวาง ตั้งอยู่ห่างจากสถานี MRT ห้วยขวาง 75 ม. และ 5 นาทีจากเซ็นทรัลพระราม 9 ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้พร้อมสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นให้กับชาว XT ที่จะเข้ามาค้นพบชีวิตน่าหลงใหลที่ซุกซ่อนอยู่ใจกลางห้วยขวาง พื้นที่แห่งไลฟ์สไตล์ที่รองรับทุกด้านของความชอบ โดดเด่นด้วย Hidden Skybar ที่ซ่อนอยู่หลังห้องชั้นหนังสือ ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นให้ลูกบ้านเวลาในเวลาพักผ่อน และโครงการ XT พญาไท ตั้งอยู่ห่างจากสถานีแอร์พอร์ตเรลลิงก์ราชปรารภ 500 ม. และสถานี BTS พญาไท เพียง 600 ม. ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท โดดเด่นด้วยทำเลแห่งศักยภาพ เชื่อมโยงความหลากหลายของไลฟ์สไตล์ รายล้อมด้วยสถานศึกษาที่มีชื่อเสียง ศูนย์การค้าชั้นนำ และการคมนาคมที่สะดวก พร้อมจุดเด่นของ Interactive Fitness ที่จะสร้างมิติใหม่ในการออกกำลังกายโดยที่ชาว XT ไม่ต้องก้าวออกจากคอนโดมิเนียม โดยทั้ง 3 โครงการ จะเปิดการขายพร้อมกันวันที่ 3-5 ส.ค.นี้ ที่ลานพาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน


โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายของโครงการคอนโดมิเนียม XT ทั้ง 3 โครงการ ตั้งแต่เปิดพรีเซลถึงสิ้นปี 61 ไว้ที่  50% ของจำนวนยูนิตทั้งหมดของ 3 โครงการรวม 3,500 ยูนิต โดยที่จะมีการแบ่งไปขายให้กับลูกค้าชาวต่างชาติสัดส่วน 40% ผ่านตัวแทนขายที่เป็นพันธมิตรของบริษัท ซึ่งกลุ่มลูกค่าต่างชาติเป้าหมายจะเป็นชาวฮ่องกง สิงคโปร์ และจีน ส่วนปิดการขายโครงการ XT ทั้ง 3 โครงการ คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 2 ปี

ส่วนการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ XT ในอนาคต ยังคงเน้นทำเลที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายชาวมิลเลนเนียล ซึ่งจะเป็นทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่ไลฟสไตล์รายล้อม มีการคมนาคมที่สะดวก ประกอบกับทำเลของโครงการสามารลงทุนได้ทั้งการปล่อยเช่าและขายต่อ ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุนคิดเป็นสัดส่วนราว 40% และลูกค้าซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง 60% โดยราคาขายของแบรนด์ XT จะอยู่ที่ระดับ B ราคา 150,000-250,000 ต่อตารางเมตร หรือใกล้เคียงกับแบรนด์เดอะ ไลน์