The Palazzo Srinakarin โครงการแฟล็กชิพล่าสุดบนทำเลล้ำค่า อัตลักษณ์เพียงหนึ่งเดียวของบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่จากเอพี ไทยแลนด์ บนผืนดินสีเขียวผืนสุดท้ายใจกลางศรีนครินทร์…สุนทรียะแห่ง การอยู่อาศัยเหนือระดับ สง่างามในทุกตารางนิ้ว ด้วยแรงบันดาลใจในการออกแบบสไตล์ American Neo Classic ที่นำความโมเดิร์นมาผสมผสานกับความคลาสสิคได้อย่างลงตัว ภายใต้แนวคิด “Masterpiece for Generations’ สะท้อนรสนิยมที่มีเอกลักษณ์ของผู้อยู่อาศัย เปรียบเสมือนของขวัญอันล้ำค่าที่ถูกส่งมอบจากรุ่นสู่รุ่นด้วยความภาคภูมิใจ
เอพี ไทยแลนด์ ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนเมือง มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมที่อยู่อาศัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ประกาศเปิดตัวซูเปอร์ลักชัวรี่โปรเจค The Palazzo Srinakarin มูลค่ารวม 1,750 ล้านบาท คฤหาสน์หรูที่มาพร้อมคอนเซปต์ ‘Masterpiece for Generations’ สุนทรียะแห่งการอยู่อาศัยเหนือระดับ ใส่ใจในทุกรายละเอียด เพียง 52 หลังเท่านั้น ถนนศรีนครินทร์ทำเลที่เข้าถึงได้ทุกการเดินทาง เพื่อเชื่อมต่อคุณกับตัวเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ที่ตั้งของโครงการยังถือเป็นที่ดินผืนเดียวและผืนสุดท้ายที่แวดล้อมด้วยปอดขนาดใหญ่ กับพื้นที่สีเขียวอย่างสวนหลวง ร. 9 โครงการแก้มลิงตามพระราชดำริฯ สวนกีฬาทางน้ำบึงหนองบอน สวนวนธรรม และสนามกอล์ฟศรีนครินทร์ ทำเลที่เป็นที่สุดของความเป็นส่วนตัวเชื่อมต่อธรรมชาติ
‘The Palazzo Srinakarin’ คฤหาสน์หรูระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ เอกสิทธิ์สำหรับ 52 ครอบครัวเท่านั้น ตอบโจทย์ความเป็น ‘Masterpiece for Generations’ ผลงานชิ้นเอกที่จะอยู่เคียงคู่ครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่น เปรียบเสมือน ‘Land of Longevity’ มอบความสงบและเป็นส่วนตัวปลีกตัวจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่เป็น ทุกพื้นที่ใช้สอยภายในโครงการล้วนได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงการพักผ่อนที่เป็นส่วนตัวสูงสุด (Ultimate Retreat) พร้อมส่งมอบให้กับคนรุ่นถัดไป โดยจะเปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการ ณ สำนักงานขาย โครงการ The Palazzo Srinakarin ในวันที่ 17-18 พฤศจิกายนนี้ ราคาเริ่มต้นที่ 29 ล้านบาท สอบถามข้อมูล เพิ่มเติมที่ โทร. 1623 หรือ www.apthai.com
โครงการแฟล็กชิพระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ภายใต้แบรนด์ ‘The Palazzo Srinakarin’ คฤหาสน์หรูแห่งใหม่ล่าสุดของเอพี ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด ‘Masterpiece for Generations’ ที่คำนึงถึงการอยู่อาศัยร่วมกันของคนทุกวัย โดยมี 4 องค์ประกอบหลักในการพัฒนา ได้แก่
(1) Land of Longevity – การคำนึงถึงทำเลที่ตั้งของโครงการ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 31 ไร่ เอกสิทธิ์ของการใช้ชีวิตที่เหนือระดับ กับการออกแบบที่รองรับการใช้งานของคนทุกช่วงวัย เสมือนอาณาจักรเล็กๆ ที่มอบความสงบและความเป็นส่วนตัวที่ซ่อนอยู่ใจกลางถนนศรีนครินทร์ ปลีกตัวจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ และเชื่อมต่อกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด สะดวกสบายด้วยการเข้าถึงได้ทุกการเดินทาง เชื่อมต่อคุณกับตัวเมืองทั้งถนนสุขุมวิท ถนนพัฒนาการ และถนนบางนา-ตราด อีกทั้งยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) จะสร้างเสร็จในปี 2564 โดยยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ทั้งแหล่งช้อปปิ้ง สถานศึกษา สถานพยาบาล และเดินทางสะดวกสู่สนามบินสุวรรณภูมิ
(2) Landscape within Landscape – เนรมิตพื้นที่ที่ดีที่สุดเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยทุกครอบครัวได้ชื่นชมสุดยอดภูมิทัศน์ของพื้นที่สีเขียวอันตระการตา นอกจากความตั้งใจในการจัดวางสถาปัตยกรรมภายในให้ร่มรื่นเป็นส่วนตัว ที่ตั้งของโครงการยังถือเป็นที่ดินผืนเดียวและผืนสุดท้ายที่แวดล้อมด้วยปอดขนาดใหญ่ อย่างสวนหลวง ร. 9 โครงการแก้มลิงตามพระราชดำริฯ สวนกีฬาทางน้ำบึงหนองบอน สวนวนธรรม และสนามกอล์ฟศรีนครินทร์ นับว่าเป็นทำเลที่เป็นที่สุดของความเป็นส่วนตัว ที่เชื่อมต่อธรรมชาติ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่เขียวขจีที่รายรอบตัวคฤหาสน์ได้แบบพาโนรามา และเงียบสงบเป็นส่วนตัวราวกับการถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติ
(3) Antebellum Architecture – การออกแบบให้เหมาะกับการอยู่อาศัยของคนทุกวัย ด้วยแรงบันดาลใจที่ได้จากสถาปัตยกรรมสไตล์ American Neo Classic ผสานความโมเดิร์นและคลาสสิคไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยทุกองค์ประกอบที่เอพีได้รังสรรค์ไว้บน The Palazzo Srinakarin แห่งนี้เกิดขึ้นจากการเลือกเฟ้น คัดสรร และตัดทอนรายละเอียดเพื่อให้เข้ากับคนทุกวัยที่อยู่ภายในคฤหาสน์จนเป็นผลงานมาสเตอร์พีซอันล้ำค่าและลงตัว เคล็ดลับในการออกแบบโดยเลือกใช้สถาปัตยกรรม ที่เรียกว่า ‘แอนทีเบลลัม (Antebellum)’ เป็นส่วนสำคัญที่เนรมิตรให้ The Palazzo Srinakarin แห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะ ทุกองค์ประกอบภายในคฤหาสน์ได้ถูกรังสรรค์ให้เป็นเสมือนสถาปัตยกรรมจากทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกาในศตวรรษที่ 19 อย่างแท้จริง ตั้งแต่การตกแต่งจากภายนอกสู่ภายในสามารถสะกดทุกสายตาของผู้ที่มาเยือนได้อย่างเป็นหนึ่งเดียว ทั้งรูปร่างอาคารที่สมมาตร (Symmetrical Shape) สามเหลี่ยมจั่วด้านหน้าอาคาร (Triangular Pediment) เสาที่สูงขึ้นไปจนเต็มความสูงอาคาร (Tall Column) แนวระเบียงรอบตัวอาคาร (Balcony) ให้กลิ่นไอของความเป็นอเมริกันสไตล์ และจุดเด่นที่สำคัญที่งานสถาปัตยกรรมส่งผลไปสู่การออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในคือ การมีบานหน้าต่าง ที่อยู่รายล้อมตัวคฤหาสน์ ส่งผลให้ทุกห้องภายใน The Palazzo เชื่อมต่อกับพื้นที่ภายนอกผ่านบานหน้าต่างหรือช่องแสง ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถมองวิวทิวทัศน์ภายนอกได้อย่างสุดสายตา
(4) Ultimate Retreat – ทุกพื้นที่ใช้สอยภายในโครงการล้วนได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงการพักผ่อนที่เป็นส่วนตัวสูงสุด ด้วยแบบบ้าน 3 Type ที่สอดรับกับจำนวนสมาชิกในครอบครับที่แตกต่างกัน 1) ANTONIO คฤหาสน์ 2 ชั้น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 391 ตารางเมตร พื้นที่ 102 ตารางวา
2) MONTICELLO คฤหาสน์ 2 ชั้น 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 528 ตารางเมตร พื้นที่ 125 ตารางวา 3) LORENZO คฤหาสน์ 2 ชั้น (5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ) พื้นที่ใช้สอย 547 ตารางเมตร พื้นที่ 160 ตารางวา พร้อม Clubhouse สระว่ายน้ำระบบเกลือ ฟิตเนส และ Social Club ขนาดใหญ่ รองรับกิจกรรมสำหรับครอบครัวตลอด 365 วัน เอกสิทธิ์ของการใช้ชีวิตเหนือระดับ เริ่มต้น 29 – 60 ล้านบาท
เมื่อเข้ามาสู่ภายในคฤหาสน์ ความประทับใจแรกได้ถูกสร้างขึ้น (Impressive Entrance) เริ่มต้นตั้งแต่ทางเข้าที่สะท้อนความหรูหราโอ่อ่า ด้วยการออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ให้มีการจัดการวางผังหน้าบ้านให้มีเฉลียง เมื่อก้าวเข้ามาสู่ภายในของคฤหาสน์จะสังเกตเห็น foyer ขนาดใหญ่โถงกว้างที่รอต้อนรับผู้ที่มาเยือน มีบันไดยาวและกว้างกว่าปกติถึง 1.5 เมตรวางพาดอยู่ตรงกลางดูตระการตา เลยเข้าไปถึงห้องนั่งเล่นหลักชั้นล่าง (Elevated Living) ถูกออกแบบเป็น Double Volume ด้วยเพดานที่สูงกว่า 7 เมตร พร้อมกระจกใสเตรียมเปิดรับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ การมีบานหน้าต่างที่อยู่รายล้อมบ้าน ทำให้ทุกห้องภายใน The Palazzo เชื่อมต่อกับพื้นที่ภายนอกผ่านบานหน้าต่างหรือช่องแสงได้ทุกพื้นที่บ้าน เสริมความโดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ของการตกแต่งที่เหมาะสำหรับการรับแขกด้วยความภาคภูมิใจ และเหมาะเป็นศูนย์รวมการทำกิจกรรมร่วมกันของสมาชิกทุกคนในครอบครัว นอกจากนี้เอพียังใส่ใจในความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย จึงออกแบบภายในคฤหาสน์แห่งนี้มีห้องนั่งเล่นอีกหนึ่งห้องบนชั้น 2 สำรองไว้สำหรับสมาชิกทุกคนภายในครอบครัว เมื่อยามที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของห้องทำอาหาร (Delightful Dining) เป็นการรังสรรค์พื้นที่สำหรับทำกิจกรรมร่วมกันของคนทุกวัยในครอบครัว พร้อมเสริมสร้างบรรยากาศการทำอาหารให้ทุกมื้อเป็นมื้อสุดแสนพิเศษ เหมาะสมกับทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการรวมตัวของครอบครัว ต้อนรับแขกพิเศษ หรือทำกิจกรรมสนุกๆ ในครัว โดยการแบ่งเป็นพื้นที่ ครัวฝรั่ง พร้อมเคาน์เตอร์การเตรียมอาหารและของว่างให้อยู่ใกล้โต๊ะอาหาร และมีครัวไทยสำหรับทำอาหารไทยมื้อใหญ่ไว้ด้านใน คงความเรียบร้อยและเรียบหรูไว้อย่างลงตัว
เข้ามาในส่วนของพื้นที่ส่วนตัวสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว (Private Retreat) นั่นคือ ห้องนอน ห้องนอนทุกห้องคำนึงถึงพื้นที่ใช้สอยอย่างแท้จริง อย่างห้อง Master Bedroom ที่สร้างสรรค์พื้นที่สำหรับการผ่อนคลาย ด้วยโซนนั่งเล่นพักผ่อนส่วนตัว และ Private Veranda ที่เปิดรับแสงธรรมชาติ และวิวภูมิทัศน์ที่รายล้อมด้วยธรรมชาติภายนอกเสมือนได้นอนพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ สำหรับห้องนอนชั้นล่าง สามารถปรับเป็นห้องนอน ผู้สูงอายุหรือเปลี่ยนเป็นห้องรับแขกได้ โดยออกแบบให้มีห้องน้ำในตัวเพื่อความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบาย ส่วนสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ การคำหนึ่งสัดส่วนพื้นที่สำหรับการจอดรถให้เพียงพอต่อสมาชิกในครอบครัว เอพีรังสรรค์ให้พื้นที่ส่วนหนึ่งภายในคฤหาสน์เป็นที่จอดรถที่มาพร้อมกับหลังคา (Shaded Parking) ถูกออกแบบ มาสำหรับจอดรถ 3-4 คัน เพียงพอต่อความต้องการของทุกคนในครอบครัว
‘The Palazzo Srinakarin’ พร้อมพื้นที่ส่วนกลาง และตัวคฤหาสน์ที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนความหรูหราโอ่อ่าด้วยพื้นที่กว้างขวางของ Club House ทอดยาวถึงส่วน outdoor ที่ตั้งอยู่หน้าโครงการต้อนรับ ผู้มาเยือน เรียบเรียงทุกรายละเอียดของความสวยงามสู่พื้นที่ที่ใช้งานได้จริงในทุกๆ โอกาส ไม่ว่าจะเป็นการจัดงาน สังสรรค์ หรือจัดงานในโอกาสพิเศษ ก็สามารถรับรองแขกได้อย่างภาคภูมิใจ ซึ่งประกอบไปด้วย 1) Exclusive Lounge – รองรับแขกได้กว่า 30 ท่านเสมือนศูนย์กลางสำหรับพบปะสังสรรค์ 2) Star Deck – พื้นที่อเนกประสงค์ บนชั้นดาดฟ้าของคลับเฮ้าส์ 3) Fitness – อุปกรณ์ออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว 4) Swimming Pool – อีกระดับของการผ่อนคลายที่รายล้อมไปด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่น ด้วยสระน้ำระบบเกลือ ดีไซน์ให้ดูกลมกลืนกับธรรมชาติด้วยการเลือกกระเบื้องเฉดสีเดียวกับธรรมชาติ และส่วนที่เป็นจุดเด่นของคลับเฮ้าส์ คือ 5) Stunning Landscape – ที่มีกลิ่นไอการออกแบบสไตล์คลาสสิคแบบโมเดิร์น ตามแบบฉบับของเอพีถูกดีไซน์ต่อเนื่องมาที่ภูมิทัศน์ส่วนกลาง โดยมีความอลังการ ของบ่อน้ำพุ และพันธุ์ไม้โซนจากเมืองหนาวที่สร้างบรรยากาศสดชื่น ผสานกับประติมากรรมม้า Pegasus รอต้อนรับผู้อยู่อาศัยอยู่ในส่วนหน้าโครงการ
“เอพี ไทยแลนด์ กล้าที่จะแตกต่าง ผู้นำด้านนวัตกรรมการดีไซน์ เพื่อการอยู่อาศัยในเมือง”